มท.อำนวยความสะดวกจ่ายเงินช่วยผู้ประสบอุทกภัย

27 ก.ย.- “อนุทิน” กำชับทุกส่วนของมหาดไทยยึดข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี อำนวยความสะดวกให้เงินถึงมือผู้ได้รับความเดือดร้อนเร็วที่สุด เตรียมโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยเชียงรายบ่ายวันนี้ 3,623 ครัวเรือน


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยวงเงิน 3,042.52 ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 67 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้กำชับให้กลไกทุกส่วนของกระทรวงมหาดไทยสนับสนุน ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกให้ผู้ประสบภัยได้รับเงินช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ให้เร็วที่สุดตามข้อสั่งการข้อสั่งการของนายกรัฐมตรี

ล่าสุด นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รายงานให้นายอนุทิน ทราบว่าด้วยความร่วมมือที่ใกล้ชิดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำให้ ปภ. สามารถรวบรวมและส่งเอกสารของผู้ประสบภัยให้ธนาคารออมสินใน 3 อำเภอของ จ.เชียงรายแล้ว ซึ่งจะเป็นผู้ประสบภัยชุดแรกที่ทางการจะโอนเงินช่วยเหลือให้จำนวน 3,623 ครัวเรือน แยกเป็นครัวเรือนใน อ.เมืองเชียงราย 3,305 ครัวเรือน อ.แม่สาย 222 ครัวเรือน และ อ.ขุนตาล 96 ครัวเรือน


“ท่านอนุทิน กำชับทุกส่วนในกระทรวงมหาดไทยให้ถือปฏิบัติตามข้อสั่งการท่านนายกรัฐมนตรีอย่างเข้มงวด ช่วยกันให้ผู้ที่กำลังเดือดร้อนได้รับเงินช่วยเหลือเร็วที่สุด จุดใดที่เป็นข้อติดขัดขอให้ช่วยกันแก้ไขไม่ให้เกิดความล่าช้า สำหรับครัวเรือนชุดแรกใน 3 อำเภอ ของเชียงราย ที่เป็นบัญชีของธนาคารออมสิน เงินจะเข้าบัญชีของผู้ประสบภัยในเวลา 13.35 น. ของวันนี้ (27 ก.ย.67) ส่วนที่เป็นบัญชีธนาคารอื่นๆ จะทยอยโอนตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. 67 เช่นกัน” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า หลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 67 จะจ่ายให้กับครัวเรือนซึ่งประสบอุทกภัยตั้งแต่ 20 พ.ค. 67 เป็นต้นมา ในพื้นที่ 57 จังหวัด ซึ่งนอกจากพื้นที่ที่เสียหายมากอย่าง จ.เชียงราย แล้วนายอนุทิน ได้ให้เป็นแนวนโยบายว่าให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดที่ประชาชนอยู่ในเกณฑ์ต้องได้รับเงินช่วยเหลือต้องกำกับการสำรวจ ความเสียหายอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

โดยในวันนี้ นายอนุทิน จะร่วมในคณะของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงราย ซึ่งตามกำหนดการ นายกรัฐมนตรีและคณะจะประชุมบูรณาการเพื่อแผนฟื้นฟูและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหลังจากเหตุการณ์อุทกภัย จ.เชียงรายรวมถึงจังหวัดภาคเหนือ ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือในประเด็นการเร่งรัดจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วย จากนั้นนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะจะลงพื้นที่เพื่อประเมินสถานการณ์และติดตามการฟื้นฟูใน อ.เมืองเชียงรายด้วย .-317 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก