กทม. 19 ก.ย.-“กระทรวงมหาดไทย” ประกาศความสำเร็จการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของกระทรวงมหาดไทย มุ่งสร้างสังคมไทยให้มีการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประกาศความสำเร็จการพัฒนาที่ยั่งยืนของกระทรวงมหาดไทย (MOI’s Success on Sustainable Development) โดยกล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ทั้ง 17 เป้าหมายของสหประชาชาติมาโดยตลอด เนื่องจากสอดคล้องกับการขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ที่มุ่งให้สังคมไทยมีการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้ การลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน การส่งเสริมพลังงานสะอาด การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 การขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านยั่งยืน การบริหารจัดการขยะต้นทาง หรือแม้กระทั่งโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อน รวมไปถึงการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร และการส่งเสริมให้เกิดการสวมใส่ผ้าไทยเป็นต้น ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ทำงานร่วมกับองค์การสหประชาชาติ และองค์กรระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับพื้นที่ ที่ได้มีการสนับสนุนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำหน้าที่บูรณาการภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนให้ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจว่ากระทรวงมหาดไทย ยินดีให้การสนับสนุนทุกภาคีเครือข่าย เพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
ด้าน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเสริมว่า กระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่เป็นหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงพื้นที่ เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชน มีการดำเนินงานผ่านกลไกที่ครอบคลุมทั้งในระดับส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น โดยได้ดำเนินโครงการต่างๆ ที่สนับสนุนการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง 17 เป้าหมาย ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ชุมชน อำเภอ และจังหวัด รวมกับภาคีเครือข่าย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นำการบูรณาการในฐานะนายกรัฐมนตรีของแต่ละพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการแสดงเจตจำนงในการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายฯ อย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้แนวคิด Change for Good 76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญา เพื่อการพัฒนา เพื่อความเท่าเทียม เพื่อความยั่งยืน เพื่อคนไทยกว่า 69 ล้านคน ร่วมกับสหประชาชาติ.-317.-สำนักข่าวไทย
