“พริษฐ์” ย้ำพรรคประชาชน ชงร่างแก้ รธน. รื้อมาตรฐานจริยธรรม

รัฐสภา 18 ก.ย.-“พริษฐ์” ย้ำพรรคประชาชน ชงร่างแก้ รธน. รื้อมาตรฐานจริยธรรม ลดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ คาดรัฐสภาพิจารณา 25 ก.ย.นี้ เล็งยื่นต่อแก้ พ.ร.ป.ศาล รธน.-พรรคการเมือง แก้ปมยุบพรรค วอนรัฐบาลทบทวนคำถามประชามติ ไม่ฟันธงมี รธน.ใหม่ทันเลือกตั้งหน้า

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคประชาชนจะเดินในเส้นทางคู่ขนาน คือเร่งรัดกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้มีความชอบธรรมตามประชาธิปไตยมากที่สุดและการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในประเด็นที่เห็นว่ามีความสำคัญและมีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งได้มีหมวดหมู่ที่เราได้ยื่นไปแล้ว และคาดว่าจะมีการพิจารณาในวันที่ 25 กันยายนนี้ ในที่ประชุมรัฐสภาคือ การลบล้างผลพวงรัฐประหาร ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี การยกเลิกมาตรา 279 ที่คาบเกี่ยวกับการประกาศคำสั่ง คสช. รวมถึงการเพิ่มหมวดในการป้องกันรัฐประหาร ขณะที่อีกหมวดหมู่ที่กำลังเตรียมการ คือเรื่องการทบทวนอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ซึ่งจะมีอำนาจสองอย่างด้วยกันที่จะให้ทบทวนแก้ไข คือ อำนาจของการยุบพรรค คือการยื่นร่างแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เพื่อทำให้สถาบันการเมืองยึดโยงกับประชาชนมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีร่างฉบับกลางหนึ่งฉบับที่จะเซ็นร่วมกันในคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองที่มีการทำงานร่วมกันมาจากหลายพรรคและแต่ละพรรคก็จะมีการยื่นร่างประกบ รวมถึงร่างของพรรคประชาชนด้วยเช่นกัน ส่วนอำนาจที่สองที่เสนอให้มีการทบทวนคือ เรื่องอำนาจมาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งเป็นอำนาจใหม่ที่เพิ่มเติมมาในรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งเห็นว่าการนำเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมมาบรรจุเป็นกฎหมายอาจจะทำให้เกิดปัญหาได้ เพราะว่าเรื่องของจริยธรรมเป็นเรื่องของที่ต่างคนต่างนิยาม และเป็นเรื่องที่เป็นนามธรรมสูง แต่ในวิธีการของรัฐธรรมนูญปี 60 เรียกว่าเป็นการผูกขาดการนิยามและการตีความส่วนใหญ่ ไว้กับศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ คือให้ศาลรัฐธรรมนูญนิยามว่ามาตรฐานทางจริยธรรมคืออะไร เขียนขึ้นมาและบังคับใช้กับทุกองค์กร ท้ายที่สุดแล้วมีการยื่นเรื่องให้วินิจฉัยองค์กรหลัก ที่จะวินิจฉัย ก็คือกลับมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งสิ่งที่เรามองว่าเป็นปัญหาคือการเอาเรื่องที่เป็น นามธรรมไปใส่ในตัวบทกฎหมายและให้อำนาจกับองค์กรกลุ่มเดียวในการนิยาม และมีบทบาทหลักในการตีความวินิจฉัย สิ่งที่เราต้องการจะเห็นคือการปรับปรุงของการกำกับเรื่องจริยธรรม อย่างแรก มองว่าเรื่องจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สิ่งสำคัญคือความรับผิดรับชอบ ทางการเมืองทำอย่างไรให้ระบบการเมืองมีความเข้มแข็งในการตรวจสอบการทำงานของนักการเมือง เช่นหากมีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลที่สังคมมองว่าไม่เหมาะสมมาเป็นรัฐมนตรี จะทำอย่างไรให้ท้ายสุดแล้วผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อกระแสสังคม อย่างที่สองคือการปรับปรุงกลไกจริยธรรมในองค์กรของตัวเอง ในเมื่อเราไม่ได้ผูกขาดให้ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดจริยธรรมของทุกองค์กร จะทำอย่างไรให้ทุกองค์กรปรับปรุงจริยธรรมของตนเองให้เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น


”เราไม่ได้บอกว่าเราไม่ให้ความสำคัญในเรื่องจริยธรรม แต่มองว่าจะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ไม่ควรที่จะเอาเรื่องที่เป็นนามธรรมในลักษณะนี้ไปใส่ในตัวบทกฏหมายในรัฐธรรมนูญ ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระผูกขาดการนิยามและมีบทบาทหลักในการตีความวินิจฉัย แต่ควรจะทำให้ในแต่ละองค์กรมีมาตรฐานจริยธรรมของตนเอง ที่กำกับบังคับใช้ในองค์กรของตัวเองและท้ายสุดคือพัฒนาระบบการเมืองให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น เพื่อให้เรื่องจริยธรรมนักการเมืองเป็นสิ่งที่ต้องมีการรับผิดรับรับผิดชอบกันในทางการเมือง“ นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ เชื่อว่า หลายฝ่ายเห็นปัญหาคล้ายกัน แต่แนวทางการแก้ไขอาจจะแตกต่างกันบ้างตามกระบวนการท้ายสุด ถ้าทุกพรรคต่างยื่นร่างของตัวเอง ก็จะไปจบในการพิจารณาร่วมกันในที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งต้องรอดูว่าจะเป็นในวันที่ 25 กันยายนนี้เลยหรือไม่ แต่ตนคิดว่าถ้าในภาพรวมเห็นปัญหาตรงกัน แต่ต่างกันที่รายละเอียดการแก้ไข ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะรับหลักการไปและถกเถียงกันในชั้นกรรมาธิการ เพื่อให้มีการรัดกุมรอบคอบมากขึ้น


ส่วนจุดยืนในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของพรรคประชาชนนั้น ที่ทางรัฐบาลยังยึดกับมติเดิมคือจะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวด 1 และหมวด2 นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตรงนี้เป็นจุดยืนที่รัฐบาลพูดมาโดยตลอดแม้ว่าในรอบนี้ในคำแถลงนโยบายอาจจะไม่ได้เขียนชัดเหมือนกับในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งจุดยืนของพรรคประชาชนยังคงเหมือนเดิมคือ ยังเห็นต่างกับรัฐบาลในเรื่องนี้ และมองว่าท้ายสุดการจัดทำแล้วรัฐธรรมนูญฉบับฉบับใหม่ ข้อสังเกตที่ผ่านมา จะเห็นว่าไม่เคยมีครั้งไหนที่มีการยกเว้นการปรับปรุงในหมวดใดหมวดหนึ่ง แต่ได้มีการวางกรอบที่ชัดเจนไว้เท่านั้น ว่าจะไม่มีการแก้ไขการนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง และรูปแบบรัฐ ซึ่งคิดว่าเงื่อนไขแบบนั้นก็รัดกุมพอควรแล้ว และในอดีตก็จะเห็นว่า ทุกครั้งที่มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับฉบับใหม่ ก็จะมีการปรับปรุงข้อความในหมวด 1 และหมวด 2 มาโดยตลอดและไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองและรูปแบบรัฐแต่อย่างใด รวมถึงการกำหนดคำถามในการจัดการออกเสียงประชามติ ซึ่งพรรคประชาชนให้ความสำคัญ และควรถามคำถามเปิดกว้าง ไม่นำเงื่อนไขการห้ามแตะเนื้อหาในหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งเป็นคำถาม 2 ชั้นกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะประชาชนอาจเห็นด้วยกับบางส่วนของคำถาม และอาจทำให้โอกาสประชามติผ่านความเห็นชอบลดน้อยลงจากเงื่อนไขดังกล่าว ดังนั้น จึงขอให้รัฐบาลทบทวนคำถามประชามติ เพราะรัฐบาลมีสิทธิในฐานะเสียงข้างมากในสภา เพื่อกำจัดอำนาจ สสร.ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่แตะหมวด 1 และ 2 ได้อยู่แล้ว

นายพริษฐ์ ยังยอมรับว่า ยังคงมีความกังวลใจกับการจัดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และไม่สามารถฟันธงได้ว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะแล้วเสร็จในรัฐบาลนี้หรือไม่ เพราะจะต้องอาศัยเวลา และโรดแม็ปของรัฐบาลในการจัดการออกเสียงประชามติถึง 3 ครั้ง ซึ่งหากรัฐบาลไม่วางแผนอย่างรอบคอบ ก็อาจจะไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ใช้ทันในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ได้

นายพริษฐ์ ระบุว่า ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ยังไม่ได้รับสัญญาณใด ๆ จาก สว.และจะต้องมีการพูดคุยกันต่อไป


นายพริษฐ์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ยังเปิดเผยว่า กรรมาธิการฯ ได้เตรียมเสนอร่างแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวข้องกับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการยุบพรรค และการจัดตั้งพรรคการเมือง สามารถทำได้ง่ายขึ้น ระดมทุนได้ง่ายขึ้น และทบทวนเงื่อนไขการยุบพรรค.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

“20 ชม.” แพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัดต่อมือเด็กสำเร็จ

เชียงใหม่ 20 ก.ย.- ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัด 20 ชั่วโมง ต่อมือเด็กหญิงวัย 14 ปี ประสบความสำเร็จ หลังถูกฟันขาด เบื้องต้นยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุการณ์ ขณะนายจายอ้ายหม่อง หรือ นายหม่อง อันธพาลเมียนมาและพวก ถือมีดสปาต้า วิ่งเข้าไล่ฟันกลุ่มผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บ 3 คน หนึ่งในนั้น คือ ด.ญ.อายุ 14 ปี ซึ่งยกแขนขึ้นบัง ทำให้ถูกนายหม่องฟันจนข้อมือขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณร้านซักรีดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาตำรวจตามจับคนก่อเหตุได้ทั้งหมด 15 ราย ล่าสุด รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ ระบุได้รับผู้ป่วยเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนมือขวาขาดระดับข้อมือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 […]

“นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่

อ่างทอง 20 ก.ย. – “นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง จังหวัดแรก ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่ ทำงานเต็มที่ หวังประชาชนเลือกกลับเข้ามาอีก พร้อมอวยพรวันเกิด “ภราดร” ครบ 46 ปี เจ้าตัวถึงกับคุกเข่ามอบมาลัยขอบคุณ “อนุทิน“ อ้อนชาวอ่างทอง อสม.แฟนเก่า ขอยืมตัว “ลูกแบด” ไปเป็น รมต. คุมสำนักงบฯ ตามติดตัว 24 ชั่วโมง บอกเก่งทุกเรื่อง ยกเว้นหาเมีย ขณะครอบครัว “ปริศนานันทกุล” ปลื้ม คนดังการเมืองตบเท้าแน่น “อนุทิน” ประกาศเชียร์คืนความเป็นธรรม อดีตผู้ว่าฯ อ่างทอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้โอกาสก่อนลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม เดินทางมาที่ อบจ.อ่างทอง เพื่อพบปะกับประชาชน และร่วมอวยพรวันเกิดให้กับนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อายุครบ 46 ปี ซึ่งมีครอบครัว ทั้งนายสมศักดิ์ […]

พิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 20 ก.ย.- รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) ประดิษฐานหน้าอาคาร ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า เมื่อเวลา 08.00 น. รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา (ถนนสามเสน) โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. นายชวนหลีก หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านพรรคเพื่อไทย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และประธานกรรมการ บมจ.อสมท รวมถึงข้าราชการรัฐสภา ร่วมพิธีด้วย โดยนายไชยาและพล.อ.สวัสดิ์ ถวายพวงมาลัยและโปรยดอกไม้ที่พระบาทของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นปักธูปที่เครื่องบวงสรางพร้อมโปรยดอกไม้ จากนั้นนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง อ่านโองการจากนั้นเชิญประธานในพิธีโปรยดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง วางพานประดับพุ่มดอกไม้ และจุด ธูป เทียน […]

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 20 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “มิแทก” บริเวณทะเลมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและสลายตัวอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย -สำนักข่าวไทย