รัฐสภา 10 ก.ย.-สมาพันธ์ฌาปนกิจสงเคราะห์ ยื่น 14,500 รายชื่อ เสนอประธานสภาฯ แก้ไขร่าง พ.ร.บ.การฌาปนกิจสงเคราะห์ เหตุไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
นายสุรพล นาควานิช ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นรายชื่อผู้เข้าชื่อเสนอแก้ไขร่าง พ.ร.บ.การฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. …. จำนวน 14,500 รายชื่อ จากนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) และคณะตามที่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้วินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.การฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. …. เป็นไปตามหมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทยของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ให้ผู้เชิญชวนดำเนินการชักชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งร่วมเข้าชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวได้ จึงขอเสนอร่าง พ.ร.บ. พร้อมบันทึกหลักการลงลายมือชื่อของผู้มีสิทธิเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อของผู้แทนของผู้ซึ่งเสนอร่าง พ.ร.บ. ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
เนื่องจากกฎหมายฉบับดังกล่าวมีการบังคับใช้เป็นระยะเวลานานแล้ว และยังไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะเงินฌาปนกิจสงเคราะห์เป็นเงินของประชาชนที่ประชาชนควรจะบริหารจัดการกันเอง ที่ผ่านมาสมาคมฯ บางแห่งตั้งขึ้นมีสมาชิกจำนวน 30,000-40,000 คน จ่ายเงินสงเคราะห์ปีละ 50-60 ล้านบาท โดยไม่มีเงินของหลวง ประชาชนส่วนใหญ่ที่อยู่ในสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ประสงค์ที่จะปรับเปลี่ยนสถานะเพื่อให้มีการบริหารได้ง่ายขึ้น และมีโอกาสในการนำเงินดังกล่าวไปสู่การมีรายได้เพื่อช่วยเหลือประชาชน จึงต้องการให้สภาฯ เห็นความสำคัญของประเด็นดังกล่าว จึงขอเสนอกฎหมายฉบับนี้เพื่อให้สภาฯ พิจารณา
นายสุรพล นาควานิช กล่าวว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรมีความยินดีต้อนรับประชาชนผู้เสนอกฎหมายทุกคน และมีความตั้งใจว่าในช่วงที่ดำรงตำแหน่งอยู่ ต้องการเห็นกฎหมายที่เสนอโดยประชาชนมีความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรยากาศวันนี้เป็นการดำเนินการของประชาชน ประชาชนเป็นผู้เสนอร่างกฎหมายมาให้สภาฯ พิจารณา เป็นการครบองค์ประกอบของกระบวนการประชาธิปไตยโดยแท้ นักการเมืองตัวจริงคือประชาชนที่เป็นกลุ่มการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง ขั้นตอนต่อไปคือตรวจสอบความถูกต้องของรายชื่อ และจัดการรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน จากนั้นจะได้บรรจุในระเบียบวาระการประชุมต่อไป
สำหรับสาระสำคัญเกี่ยวกับการขอแก้ไขร่างพระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ ฯ ฉบับร่างที่คณะนำเสนอรวม10 ข้อ ประกอบด้วย 1.ปรับความหมายคำว่าการฌาปนกิจให้ครอบคลุมถึงการชำระข้อผูกพันได้ (ชำระหนี้ได้) 2.กำหนดให้สามารถควบรวมสมาคมกันได้ เพื่อช่วยสมาคมขนาดเล็กที่มีสมาชิกลดลงมารวมกันได้ เป็นการสร้างความมั่นคงของสมาชิก 3.ให้สมาคมสามารถกำหนดระยะเวลาการเป็นสมาชิกได้โดยผู้สมัครไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ 4.ให้สมาชิกของสมาคมนำใบเสร็จที่เสียเงินสงเคราะห์มาลดหย่อนภาษี 5.กำหนดคำจำกัดความให้ชัดเจนเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้องตามมาตรฐานเดียวกัน 6.กำหนดให้การบริหารสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ขึ้นอยู่กระทรวงเดียวเท่านั้น เพราะร่างของ กระทรวงเสนอไปเป็น 2 กระทรวง ซึ่งจะทำให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ประสบปัญหาการบริหารจัดการในอนาคต 7.ให้สมาชิกสมาคมมีการเลื่อนไหลเปลี่ยนสมาคมได้เพื่อการโยกย้ายภูมิลำเนา และไม่ขาดการเป็นสมาชิกพร้อมเสียเงินสงเคราะห์ตามกลุ่มอายุ เป็นการสร้างความเป็นธรรมให้กับสมาชิก 8.กำหนดให้มีศูนย์ประสานได้สำหรับสมาคมที่มีพื้นที่บริการข้ามจังหวัด 9.กำหนดให้จัดตั้งสมาพันธ์สมาคมได้เพื่อสร้างความเข็มแข็งให้กับสมาคมและสมาชิก และ 10.สมาคมใดที่มีสมาชิกมากกว่า 500 คน อาจกำหนดในข้อบังคับให้มีการประชุมใหญ่โดยผู้แทนกลุ่มสมาชิก (ม.28).-319.-สำนักข่าวไทย