fbpx

“ภูมิธรรม” ปลื้มงานส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาลไทย แสดงศักยภาพไทย

ศูนย์สิริกิติ์ 4 ก.ย.-“ภูมิธรรม” ปลื้มงานส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย แสดงศักยภาพฮาลาลไทยอย่างยิ่งใหญ่ จุดประกายผู้ประกอบการผลิตกำลังภาครัฐและเอกชนทะยานสู่การเป็น “ฮับฮาลาลอาเซียน” ภายในปี 2570

นายภูมิธรรมเวชชัยยะชัยรองนายกรัฐมนตรีปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดงานส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ( Halal Inspirium ) สร้างแรงบันดาลใจนำอัตลักษณ์ไทยสู่สากล พร้อมด้วยนางพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม


นายภูมิธรรม กล่าวว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางฮาลาลของอาเซียน ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย ด้วยศักยภาพและความพร้อมในด้านต่างๆของประเทศไทย ถือได้ว่ามีความพร้อมในหลายๆ ด้าน ทั้งการเป็นฐานการผลิตสินค้าฮาลาลที่มีคุณภาพและหลากหลายการมีแรงงานและผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่เข้มแข็ง มีศักยภาพ อีกทั้งมีภาคการท่องเที่ยวที่เป็นจุดขาย ซึ่งทำให้ประเทศไทยยังมีโอกาสอีกมากในการขยายตลาดไปยังภูมิภาคทั่วโลก

ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศไทย ตามนโยบายที่ได้มอบหมายไว้อย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม ประกอบกับแนวทางการจัดตั้งหน่วยงานรับผิดชอบอุตสาหกรรมฮาลาลในรูปแบบศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาล ภายใต้แผนปฎิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล และแนวทางการจัดตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ ตลอดจนแผนขยายตลาดสินค้าฮาลาล ไปยังตลาดที่มีกำลังซื้อสูง เช่น ประเทศซาอุดิอาระเบีย กลุ่มประเทศอาเซียน และประเทศอื่นๆทั่วโลก


นางสาวพิมพ์ภัทรา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่าการจัดงานหวังปลุกกระแสฮาลาลไทย พุ่งเป้าชิงตำแหน่งศูนย์กลางอาหารฮาลาลแห่งอาเซียน ภายในปี 2570 ผลักดันทุกสาขาอุตสาหกรรมฮาลาลไทยชิงตลาดฮาลาลโลก มูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะทะยานแตะ 3.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2570

ปัจจุบันไทยมีผู้ประกอบการฮาลาลกว่า 15,000 ราย มีสินค้าฮาลาลกว่า 166,000 รายการ พร้อมร้านอาหารฮาลาลอีกกว่า 3,500 ร้าน ศักยภาพการส่งออกปี 2566 พุ่งทะลุ 216,698 ล้านบาท ขึ้นสู่ระดับผู้ส่งออกอาหารฮาลาลอันดับ 11 ของโลก

ทั้งนี้ภายในงาน มีการแสดงสินค้าแฟชั่นโชว์ศักยภาพตลาดด้านความงามในกลุ่มเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มมุสลิม รวมทั้งสาธิตการทำอาหารฮาร้านไทยโดย “เชฟนูรอ” เชฟหญิงชาวไทยมุสลิม ที่สามารถขยายการรับรู้ซอฟพาวเวอร์อาหารไทยไปยังตลาดผู้บริโภคชาวมุสลิมและกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพทั่วโลก.-314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ภูเก็ตฝนตกต่อเนื่อง เกิดดินสไลด์จากเขานาคเกิด

สถานการณ์น้ำท่วม จ.สตูล เพิ่มความรุนแรง เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ส่วน จ.ภูเก็ต ฝนตกต่อเนื่องทั้งวัน ส่งผลบริเวณปฎักซอย 8 บ้านกะตะ ต.กะรน ที่เคยเกิดดินสไลด์จากเขานาคเกิด ปรากฏภาพน้ำและดินโคลนไหลลงมาจากบนเขา สร้างความกังวลให้กับชาวบ้าน เพราะยังไม่มีมาตรการป้องกัน

ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยชาวเชียงราย

สถานการณ์น้ำท่วม อ.เมืองเชียงราย ดีขึ้นต่อเนื่อง แม้ดูเหมือนเป็นข่าวดี แต่ปัญหาที่ชาวเชียงรายต้องเผชิญคือดินโคลนที่ยังต้องรอการฟื้นฟู หลายคนยังทำใจไม่ได้ แต่ฮึดสู้จากธารน้ำใจของพี่น้องชาวไทยที่ส่งไปช่วยเหลือและให้กำลังใจสู้วิกฤติครั้งนี้

ชายแดนเสียหายหนัก “แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก” ยังจมโคลน

น้ำท่วมชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย มาเกือบสัปดาห์ลดลงเกือบหมดแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายอย่างหนัก ทั้งฝั่งไทยและเมียนมา เต็มไปด้วยโคลนมหาศาลท่วมอาคารบ้านเรือน ทำให้หลายคนยังกลับเข้าไปอาศัยในบ้านไม่ได้

เร่งสูบน้ำบรรเทาน้ำท่วมตัวเมืองหนองคาย

หลังแม่น้ำโขงล้นตลิ่งเข้าสู่วันที่ 5 วันนี้ระดับน้ำลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนต่ำกว่าแนวพนังกั้นน้ำถาวรแล้ว ทำให้สามารถสูบน้ำได้อย่างเต็มที่ คาดว่าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) จะเห็นน้ำในตัวเมืองหนองคาย ลดระดับลงอย่างชัดเจน