“จุลพันธ์” ย้ำ จัดงบฯ 68 อยู่ในกรอบวินัยการเงิน-การคลัง

รัฐสภา 3 ก.ย.- “จุลพันธ์” ย้ำ จัดงบฯ 68 อยู่ในกรอบวินัยการเงิน-การคลัง บอก ที่ปรับลดไม่กระทบเนื้องาน ยัน ใช้งบอย่างรัดกุมไม่ให้เกิดความเสี่ยงในอนาคต ด้าน “ณัฐพงษ์” ชงปฏิรูประบบภาษี ถามรัฐบาลหาวิธีลดรายจ่ายประจำ กังวลกู้เพื่อกระตุ้น ศก.ระยะสั้น เกิดวัฏจักรขาลง ไม่สร้างอนาคตให้ประเทศ


ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน อภิปรายว่า ปัญหาใหญ่ของประเทศไทยขณะนี้ คือการจัดเก็บรายได้ จัดเก็บภาษีต่อจีดีพี จาก 16 เปอร์เซ็นต์เหลือ 14 เปอร์เซ็นต์ และดูเหมือนจะจัดเก็บภาษีจากคนจนมากกว่าเก็บคนรวย อย่างไรก็ตาม ตนเป็นห่วงว่าการกู้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น จะทำให้เกิดวัฏจักรขาลง เพราะขาดพื้นที่การคลังระยะยาว ไม่สามารถสร้างรายได้ในอุตสาหกรรมในอนาคต ทำให้ในอนาคตรัฐเก็บภาษีได้น้อยลงไปอีก

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนวิธีการแก้ไขก็ต้องปฏิรูประบบภาษีและระบบงบประมาณ ต้องตั้งคำถามว่าจะทำอย่างไรให้รัฐจัดเก็บภาษีเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่อจีดีพี ลดความเหลื่อมล้ำ พูดง่ายๆคือพุ่งเป้าเก็บคน 1 เปอร์เซ็นต์ในส่วนที่เหมาะสม เพื่อกระจายทำสวัสดิการให้ประชาชน พัฒนาต้นทุนมนุษย์ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างระยะยาวให้ประเทศเป็นวัฏจักรขาขึ้น


“สิ่งที่พวกเราต้องตั้งคำถามไปถึงรัฐบาลนี้และรัฐบาลหน้า นอกจากข้อเสนอปฏิรูประบบภาษี อยากเห็นการลดรายจ่ายประจำ จะทำอย่างไรให้พวกเรามั่นใจว่า ไม่ใช่กู้เพื่อแจกเพียงอย่างเดียว แต่กู้เพื่ออัปสกิล พัฒนาต้นทุนมนุษย์ด้วยเหตุผลข้างต้น ผมขออนุญาตไม่เห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างมาก และขอปรับลดกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่กู้จนชนเพดาน ไม่สร้างอนาคตตให้กับประเทศ” หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าว

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า การพิจารณาของกมธ.งบประมาณฯ มีการตั้งอนุกมธ.ฯ เพื่อพิจารณารายละเอียดในเนื้องานและดูการปรับลดที่เหมาะสม รวมถึงมีการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งการปรับลดส่วนมากจะไม่กระทบต่อเนื้องานและผลิตผลของสิ่งที่หน่วยงานหรือหน่วยรับงบประมาณมีหน้าที่ในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด แต่เป็นการปรับลดตามสัดส่วนที่จะไม่กระทบต่องานและสามารถสัมฤทธิ์ผลได้ตามที่วางเป้าหมายไว้ได้ เป็นการรีดไขมัน และยืนยันการปรับลดที่เกิดขึ้น

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า การที่ต้องตั้งประมาณการและเป็นสมมติฐานสำหรับการที่ต้องเดินหน้าในเรื่องของงบประมาณปี 2568 โดยข้อห่วงใยที่มีในตัวเลขการจัดเก็บ เป็นข้อห่วงใยที่เรารับฟัง อย่างไรก็ตาม กลไกทางด้านการจัดเก็บรายได้ของรัฐไม่ได้มีปีกเดียว ซึ่งในปี 2567 ที่ได้มีการยกตัวอย่าง มีความเป็นห่วงโดยเฉพาะเรื่องภาษีสรรพสามิต ที่มีการจัดเก็บพลาดเป้าเกิดจากการที่รัฐบาลตัดสินใจช่วยพี่น้องประชาชน ในเรื่องของการลดราคาพลังงานในประเภทต่างๆในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการลดในเรื่องของรายได้ลงไปเพื่อไปแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ยืนยันว่ากระทรวงการคลัง สามารถบริหารจัดการการจัดเก็บรายได้เพิ่มเติมผ่านทั้งรัฐวิสาหกิจ รวมถึงกรมจัดเก็บได้หลายวิธีการ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ การอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียภาษี การใช้เทคโนโลยีเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี รวมถึงการเร่งรัดการลงทุนของภาครัฐ ผ่านการกระตุ้นการท่องเที่ยว ผ่านการลงทุนของบีโอไอ สามารถทำให้เกิดการจัดเก็บรายได้ที่เพิ่มขึ้นในปี 2567 ที่ผ่านมา


นายจุลพันธ์ กล่าวว่า กระทรวงการคลังยืนยันว่าการจัดเก็บรายได้ในปลายปีงบประมาณ 2567 อยู่ในกรอบน่าจะตามเป้า หากจะผิดพลาดบวกลบไม่ได้อยู่ในจุดที่มีนัยยะสำคัญหรือไม่เป็นตัวเลขหลักหมื่นล้าน ที่ท่านเป็นห่วง และไม่กระทบกับการจัดเก็บรายได้ในปี 2568 ด้วยเช่นกัน ฉะนั้น การดำเนินการต่างๆ โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อยู่ในงบฯปี 68 ก็จะทำให้รัฐบาลสามารถเพิ่มการจัดเก็บรายได้ และการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็จะเพิ่มความสามารถของรัฐบาลในการมาชำระหนี้สินในอนาคต ลดสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีต่อไป และยืนยันว่าการประมาณการที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าสถานการณ์ในช่วงของการตั้งงบประมาณ ก่อนวันที่เรารับหลักการในวาระ 1 มาจนถึงวันนี้ อาจจะมีความเปลี่ยนแปลงอยู่บ้าง แต่อยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการของหน่วยงานรัฐรองรับได้

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า แน่นอนว่าประเทศไทยมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าศักยภาพมาเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งเศรษฐกิจไทยยังเผชิญกับปัญหาทั้งภายในและภายนอกประเทศ ทั้งความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และเรื่องของปัญหาการฟื้นตัวที่ช้ากว่าการคาดการณ์ ส่วนปัญหาหนี้ครัวเรือนก็อยู่ในระดับที่สูง รัฐบาลจึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลในระยะสั้น เพื่อสนับสนุน การฟื้นตัวและส่งเสริมอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้กลับมาเร่งตัวขึ้นได้มากกว่าในอดีตที่ผ่านมา และเราต้องการสร้างให้การเติบโตของประเทศไทย อยู่ในระดับที่สามารถทัดเทียมและแข่งขันได้กับประเทศอื่นในภูมิภาค เมื่อเศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นก็จะทำให้รัฐจัดเก็บรายได้ได้เพิ่มมากขึ้นและจะช่วยลดสัดส่วนภาระดอกเบี้ยต่อรายได้ให้ลดลงและจะทำให้จีดีพี เพิ่มขึ้นซึ่งจะเป็นส่วนช่วยในการลดสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีให้มีความเหมาะสม และยืนยันในกรอบการจัดทำงบประมาณในครั้งนี้อยู่ในกรอบวินัยทางการเงินและการคลังทุกประการ

“ผมเข้าใจว่าท่านกรรมาธิการและท่านสมาชิกอาจมีความห่วงใยในเรื่องของการที่มีการขาดดุลเพิ่มเติมสูงกว่าปกติในปีนี้แต่อย่างไรก็ตามข้อห่วงใยของท่านเรารับฟัง และทั้งหมดอยู่ในกรอบวินัยทางการเงินและการคลัง หากจะยกข้อห่วงใยว่าการดำเนินการของรัฐบาลที่ท่านยกว่ามีความเสี่ยง ผมขอเรียนด้วยความเคารพ หากรัฐบาลไม่ดำเนินการใดๆ วันนี้เราบอกว่าเราให้มีการปรับลดงบประมาณปี 68 ลง 2 แสนล้านบาท อย่างที่ท่านสมาชิกได้มีการเสนอความเห็นไว้ หากเราปรับลดลง การขาดดุลน้อยลง ท่านบอกว่ามีพื้นที่ทางการคลังมากขึ้น ก็ไม่ได้ยืนยันว่าประเทศไทยจะพ้นกับความเสี่ยงใดๆ เพราะความเสี่ยงในรูปแบบอื่นก็ยังเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน นั่นคือความเสี่ยงที่ประชาชนจะไม่ได้รับบริการการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือการช่วยเหลือในภาวะเศรษฐกิจต่างๆ ในอนาคตเช่นเดียวกัน ฉะนั้น ทุกรูปแบบของการดำเนินการหากจะยกเรื่องความเสี่ยงขึ้นมา ผมขอตอบว่ามีความเสี่ยงในทุกรูปแบบ แต่ความห่วงใยของท่านเรารับไว้ และด้วยความห่วงใยที่ท่านมี รวมถึงความเข้าใจในเรื่องของกลไกทางงบประมาณ กลไกในเรื่องของการคลัง เรายืนยันว่าจะดำเนินการด้วยความรัดกุมและใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าไม่ให้ความเสี่ยงที่ท่านเป็นห่วงเกิดขึ้นได้ในอนาคต” นายจุลพันธ์ กล่าว

ทั้งนี้ที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่ที่ประชุมสภาฯ เห็นด้วยกับมาตรา 4 ภาพรวมงบประมาณทั้งหมดตามคณะกมธ. ด้วยคะแนน 266 ต่อ147 งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียงไม่มี .312 – 319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

วันเกิดอนุทิน

แกนนำรัฐบาลร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.- แกนนำรัฐบาล ร่วมเบิร์ธเดย์ 59 ปี “อนุทิน” ชื่นมื่น สส.อวยพร หลังเลือกตั้งขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีก 4 ปี พรรคภูมิใจไทยจัดงานวันเกิดครบรอบ 59 ปี ให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โดยมีพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ บุตรชายนายสันติ, พิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงบุคคลในครอบครัว เช่น ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา, เศรณี และนัยน์ภัค ชาญวีรกูล บุตรชายและบุตรสาวของนายอนุทิน, ไตรศุลี ไตรสรณกุล อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์และเป่าเค้ก […]

Nepal President and Interim Prime Minister

เนปาลยุบสภา หลังได้นายกฯ เฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรก

กาฐมาณฑุ 13 ก.ย.- ทำเนียบประธานาธิบดีเนปาลออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวันศุกร์ว่า ประธานาธิบดีได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร และกำหนดให้จัดการเลือกตั้งในวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2569 หลังจากที่ได้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ ประธานาธิบดีรามจันทระ เปาเฑลของเนปาลสั่งยุบสภาและให้จัดการเลือกตั้งใหม่ดังกล่าว โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงเพิ่งแต่งตั้งนางสุชีลา การ์กี วัย 73 ปี อดีตประธานศาลฎีกา เป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ หลังจากที่ได้เจรจาหารือกันอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 2 วัน กับผู้บัญชาการทหารบกและแกนนำผู้ประท้วงกลุ่มเจเนอเรชันซีหรือเจนซี (Gen Z) เพื่อเดินหน้าประเทศที่เกิดการลุกฮือครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 51 คน ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,300 คน มีการเผาอาคารรัฐสภา ที่ทำการรัฐบาล และบ้านพักนักการเมือง ทำให้นายกรัฐมนตรีเค.พี. ชาร์มา โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 กันยายน ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียที่มีพรมแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับเนปาล โพสต์เอ็กซ์ (X) แสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อนางการ์กีที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลเฉพาะกาลเนปาล และว่าอินเดียมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อสันติภาพ ความก้าวหน้า และความรุ่งเรืองของพี่น้องชาวเนปาล การประท้วงในเนปาลปะทุขึ้นในกรุงกาฐมาณฑุแล้วลุกลามไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 8 กันยายน ชนวนเหตุเกิดจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งไปโหมกระพือกระแสความไม่พอใจเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศที่ตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยในปี 2551 […]

“อนุทิน” เข้าพรรคฯ นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.-“อนุทิน” เข้าพรรคภูมิใจไทย วันเกิด นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย ก่อนแถลงต่อสภาฯ ขณะที่ภาคเอกชน-นักการเมือง-ข้าราชการ ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิด ครบ 59 ปี บรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทย เวลา 14.15 น. นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ส่งแจกันดอกไม้สีฟ้า-ขาว มาร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด ครบ 59 ปี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ขณะที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายยังมีบรรดานักการเมือง ข้าราชการ และภาคเอกชน ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิดและแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พลเอกเทพพงษ์ ทิพยจันทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม นายกร ทัพพะรังสี อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย นอกจากนี้ยังมีแจกันดอกไม้ที่ส่งมาอวยพรนายอนุทิน ทั้งส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฯ […]

ธปท.เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือ 15 ก.ย.นี้

กทม. 13 ก.ย.-ธปท. เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือจันทร์นี้ หลัง กกร.ตั้งข้อสังเกตส่งออกทองคำไปกัมพูชาพุ่งสูงผิดปกติ กรณีนายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน (กกร.) ได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าแรงผิดปกติ สวนทางเศรษฐกิจปัจจุบัน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความผิดปกติของการส่งออกทองคำไปกัมพูชา มีตัวเลขสูงผิดปกติ ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่านั้น ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เรียกด่วนผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย เพื่อหารือถึงประเด็นดังกล่าวในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ด้านวงในให้จับตา “ทองคำ” ช่องโหว่เศรษฐกิจ เหตุเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล จนกระทรวงการคลัง-แบงก์ชาติ ต้องถกหาวิธีดูแลธุรกรรมทองคำเพื่อปิดช่องฟอกเงิน เผย 7 เดือนไทยส่งออกทองไปกัมพูชาแล้วกว่า 71,800 ล้านบาท ทั้งนี้ การส่งออกทองคำของไทยที่อยู่ในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับ ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 ตามตัวเลขของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) พบว่าไทยมีการส่งออกไปยังกัมพูชาอยู่ในอันดับ 3 รองจากการส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ และอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งค้าทองคำที่สำคัญของโลก โดยตัวเลขการส่งออกไปยังกัมพูชา 7 เดือนแรกของปี 2568 […]