ชี้ “บิ๊กป้อม” ยังมีโอกาสพลิกเกม หากรัฐบาลเพลี่ยงพล้ำ

รัฐสภา 1 ก.ย. – “อ.สติธร” ชี้ “บิ๊กป้อม” ยังมีโอกาสพลิกเกม หากรัฐบาลเพลี่ยงพล้ำ มอง “แพทองธาร” ยังต้องใช้บารมี “ทักษิณ” เป็นใบเบิกทาง ส่วนอายุสั้นหรือยาว ขึ้นอยู่กับผลงาน แต่หากต้นปีหน้าเศรษฐกิจยังไม่กระเตื้อง มีโอกาสคดีความตามหลอกหลอน มองประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล เป็นลบกับทุกพรรค คะแนนนิยมอาจเท “ภูมิใจไทย”


นายสติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะอยู่ได้ไม่นานว่า การตั้งรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร เกิดขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับความนิยมของพรรคประชาชน เป้าหมายคือการรักษาอำนาจให้อยู่ครบเทอม และครั้งหน้าให้พรรคเพื่อไทยกลับมาชนะการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นผลงานจะเป็นตัวพิสูจน์ว่าจะอยู่ได้ครบเทอมหรือไม่ และมีโอกาสแค่ไหนที่จะชนะการเลือกตั้ง แต่ถ้าดูแล้วปลายปีนี้เศรษฐกิจยังไม่กระเตื้องขึ้น มีโอกาสที่จะอยู่ไม่นาน

ส่วนเรื่องคดีความ ทั้งเรื่องของการครอบงำและคุณสมบัติต่างๆ ของรัฐมนตรี นายสติธร กล่าวว่า เมื่อเขาตั้งรัฐบาลแบบมีดีล ก็ต้องมีหลักประกันที่จะทำให้ดีลเป็นไปตามที่คุยกันไว้ ยอมรับว่าคดีความเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง แต่รัฐบาลเพิ่งตั้งบนความสมประโยชน์ของทุกฝ่าย จะมีคนที่อกหักก็แค่ลุงบ้านป่า ดังนั้น ระยะแรกคดีความน่าจะยังไม่กลับมาทิ่มแทง คงต้องรอสักระยะหนึ่ง และถ้าหากผลงานไม่ขึ้นจริงๆ คดีความต่างๆ ก็จะตามมาหลอกหลอน


เมื่อถามว่าการร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นปัจจัยที่ทำให้รัฐบาลนางสาวแพทองธาร อยู่ไม่ครบเทอมหรือไม่ นายสติธร กล่าวว่า การร่วมกับประชาธิปัตย์เป็นการดึงเข้ามาเสริมเสถียรภาพ เพราะพรรคเพื่อไทยมองว่าตัวเลข 310 กว่าเสียง ทำให้มีเสถียรภาพ เพราะเขาแตกหักกับพรรคพลังประชารัฐ ฝั่ง พล.อ.ประวิตร จึงมีความจำเป็นต้องดึงประชาธิปัตย์เข้ามา 21 เสียง จึงลงตัว พูดง่ายๆ ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ทั้งเอาคืนลุงในป่าได้ และก็เติมเสียงรัฐบาลได้ด้วย ขณะเดียวกันประชาธิปัตย์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็ไม่ใช่ประชาธิปัตย์ที่เราคุ้นเคย และประชาธิปัตย์ดั้งเดิมก็เหลือแค่ 3-4 ท่าน ที่มีจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการร่วมรัฐบาล ส่วนประชาธิปัตย์ปัจจุบันที่ตัดสินใจร่วมรัฐบาลก็มีจริตคล้ายๆ กัน คือเป็นสไตล์บ้านใหญ่ เหมือนพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่าการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร จะเป็นผลลบต่อนางสาวแพทองธารหรือไม่ นายสติธร กล่าวว่า ในแง่ลบเป็นการกระตุ้นความรู้สึก หรือเรียกแขกอยู่แล้ว แต่ในแง่ของการทำงาน ระยะแรกนางสาวแพทองธาร จะต้องอาศัยบารมีของนายทักษิณเพื่อเป็นใบเบิกทาง แต่พอนางสาวแพทองธาร ตั้งรัฐบาลได้ระยะหนึ่งแล้ว ควรจะปล่อยให้นางสาวแพทองธาร เป็นตัวหลัก เพราะอาจจะเรียกแขกไปเรื่อยๆ จนงานการไม่ได้ทำ

ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะกลับมาเอาคืนหรือไม่ นายสติธร กล่าวว่า ตราบใดที่ พล.อ.ประวิตร ยังแข็งแรงพอ และยังมีใจที่จะทำงานการเมือง วันนี้ สส. ที่อยู่กับ พล.อ.ประวิตร อาจจะดูไม่เยอะ แต่หากทำให้ พล.อ.ประวิตร ยืนในระยะยาว ก็มีโอกาสที่จะทำให้พลิกเกมได้ เพราะการเมืองเป็นเรื่องที่ทุกคนจะมุ่งเข้าไปหาผลประโยชน์ แต่วันนี้ผลประโยชน์ส่วนใหญ่อยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาล และ พล.อ.ประวิตร ก็ดูเหมือนพลังน้อยลงในการที่จะดึงดูดนักการเมืองให้เข้ามา แต่ถ้ารัฐบาลเพลี่ยงพล้ำเมื่อไร โอกาสคนที่จะย้ายกลับมาซบ พล.อ.ประวิตร ยังมี


เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์ว่าเกมของพรรคเพื่อไทยสามารถฆ่าได้ทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐ จะส่งผลให้การเลือกตั้งปี 2570 พรรคเพื่อไทยสามารถแลนด์สไลด์ได้หรือไม่ นายสติธร กล่าวว่า ถ้าคงสภาพนี้ไปได้ บวกกับผลงานที่ได้ตามที่ทุกคนคาดหวัง ยิ่งบทบาทของนายทักษิณที่แสดงออกมาผ่านการเคลื่อนไหวทางการเมือง ทำให้คนคาดหวังต่อรัฐบาลของนางสาวแพทองธารสูง ยิ่งกว่าตอนตั้งรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน แปลว่าถ้าทำได้อย่างที่คาดหวัง โอกาสที่เขาจะกลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่ของพรรคเพื่อไทยก็มีโอกาส แต่คงไม่แลนด์สไลด์ แต่อาจจะอยู่ในระดับที่นายทักษิณพูดประมาณ 200 เสียง และการกลับมาเป็นพรรคอันดับ 1 นั้นเป็นไปได้

เมื่อถามว่าการที่จับขั้วรัฐบาลแบบนี้จะทำให้คะแนนเสียงเทไปที่พรรคส้มโดยอัตโนมัติหรือไม่ นายสติธร กล่าวว่า ไม่ขนาดนั้น เพราะความจริงแล้วฐานเสียงจากประชาธิปัตย์ก็ย้ายไปเลือกพรรคส้ม ตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เหลือเพียงกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ไม่น่าจะเอียงไปทางพรรคส้ม อยู่ที่ว่าคนกลุ่มนี้จะมองหาพรรคฝั่งอนุรักษ์นิยมพรรคใดเข้ามา โดยยอมรับว่ามันส่งผลกระทบหมด ทั้งพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ และประชาธิปัตย์ คนที่อาจจะเซฟที่สุดคือพรรคภูมิใจไทย แต่พรรคภูมิใจไทยก็ต้องพิสูจน์กับปีกอนุรักษ์นิยมมากพอสมควร และหลักฐานที่เห็นได้ชัดคือการเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่พรรคภูมิใจไทยไปช่วงชิงพื้นที่ในภาคใต้แทนที่พรรคประชาธิปัตย์ สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจว่าถ้าไม่เอาส้ม หรือเอาแดง ก็ต้องเอาน้ำเงิน.-315-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย