อาคารชินวัตร3 23 ส.ค.-เริ่มวงแรก “แพทองธาร” นายกฯ คุยแผน-มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านสภาหอการค้าไทย เสนอ 3 เรื่องเร่งด่วน และ 5 เรื่องสร้างความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศ
เมื่อเวลา 09.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามายังอาคารชินวัตร3 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสทักทายสื่อมวลชน ก่อนที่ภาคเอกชนได้ขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อสะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจ และข้อเสนอมาตรการแนวทางในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเร่งด่วนด้านต่างๆ โดยช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 10.00-11.00 น. เป็นการพบกับสภาหอการค้าไทย และสภาหอการค้าไทย-จีน ต่อด้วยเวลา 11.00-12.00 น. เป็นการหารือกับสภาอุตสาหกรรมไทย และเวลา 13.00-14.00 น.เป็นการพบกับสมาคมธนาคารไทย
โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายจุลพันธ์อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมพบปะในครั้งนี้ด้วย
นางสาวแพทองธาร กล่าวทักทาย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ก่อนจะกล่าวว่า สวัสดีทุกท่านอีกครั้งทราบว่ามีประชุมที่ จ.ร้อยเอ็ด เลยต้องยกเลิกแผนมาที่นี่ ซึ่งต้องขอขอบคุณ ความจริงอยากให้มาแลกเปลี่ยนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ทำได้แค่การเปิดพื้นที่และรับฟัง และอยากให้วันนี้เป็นวันที่ทุกท่านสามารถให้ความเห็นสามารถแนะนำอะไรที่อยากจะแชร์ทางด้านของสภาหอการค้าไทยสามารถแชร์ได้เลย เรามีทีมงานมาทั้งหมดช่วยรับฟัง วันนี้จะได้แบ่งปันความคิดเห็นกันในด้านต่างๆ
ด้านนายสนั่น กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยคณะกรรมการทั้ง 12 ท่านและผู้อำนวยการหอการค้าไทย ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรี ขอให้ท่านนายกฯบริหารประเทศอย่างราบรื่น และทำให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืน ก็ต้องขอขอบคุณที่นายกฯได้ให้เกียรติสภาหอการค้าไทย เพราะการมาเข้าพบในวันนี้การนำเสนอยังไม่ถึงกับสมบูรณ์ คงจะมีอะไรที่เพิ่มเติมอีกหลายอย่าง ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาก็เสียดายที่เราติดงานอยู่ที่จ.ร้อยเอ็ด ไม่สามารถกลับมาร่วมงานดินเนอร์ แสดงวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ แต่ก็ได้ติดตามวิสัยทัศน์ของท่านอดีตนายกฯทักษิณอย่างใกล้ชิด
นายสนั่น กล่าวอีกว่า สำหรับวันนี้หอการค้าไทยของเราเองอยากจะนำเสนอในการระดมความคิดจากเครือข่ายทั้งภาคเอกชนของเราทั่วประเทศภายใน 2 วันนี้มี 3 เรื่องเร่งด่วนเรื่องที่ 1.การสร้างความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและต่างประเทศทั้งในระยะสั้นกลางและระยะยาว 2.การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน SME เพราะ 90% ของสมาชิกของเราเป็นSMEในจังหวัดต่างๆ 3.การวางยุทธศาสตร์ของประเทศ เพื่อการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน เพราะการพูดคุยกับต่างประเทศ เขาอยากจะเห็นยุทธศาสตร์ของประเทศไทยไปในลักษณะอย่างไร ซึ่งตนขอนำเสนอเกี่ยวกับการสร้างความเชื่อมั่น ในประเทศและต่างประเทศ 5 เรื่องด้วยกัน 1. การกระจายงบประมาณด้วยการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 จัดทำงบประมาณปี 2568 ให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดและให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งจ่ายงบประมาณที่อยู่ในแต่ละพื้นที่ 2.กระตุ้นเศรษฐกิจไปยังประชาชน 3 กลุ่มโดยมุ่งไปยังกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้ทันต่อความต้องการของประชาชนกลุ่มที่ยังพอมีกำลังซื้อกระตุ้นเศรษฐกิจในลักษณะคนละครึ่ง ช่วยเพิ่มกำลังซื้อและกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ด้วยการออกมาตรการดึงการจับจ่ายใช้สอยผ่านมาตรการภาษีอื่นๆ 3.มาตรการช่วยเหลือและเยียวยาด้วยการลดค่าใช้จ่ายทั้งค่าไฟค่าน้ำมันและตรึงราคาสินค้าที่จำเป็นพิจารณาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ตามแต่ละประเภทให้ชัดเจน และให้สถาบันการเงินผ่อนผันค่าปรับการจ่ายหนี้ล่าช้าเพื่อบรรเทาภาระของประชาชน รวมถึงการจัดสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการปรับปรุงเงื่อนไขการชำระเงินค่าสินค้าให้รวดเร็ว โดยทำเป็น Supply Chain Finacing
นายสนั่น กล่าวต่อว่า 4.การกระจายอำนาจโดยออกมาตรการทางภาษีเพิ่มเติมสำหรับการลงทุนในเมืองรองส่งเสริมการใช้โลโก้คอนเทนท์และสานต่อโครงการยกระดับเมืองสู่เมืองหลัก โดยมีเป้าหมาย 10 จังหวัดทั่วประเทศ และ 5.ปรับปรุงระเบียบที่มีอยู่ให้เอื้อต่อการแข่งขัน.-316.-สำนักข่าวไทย