“ธรรมนัส” ชี้ถ้า พปชร.ไม่ขับออก ก็อยู่กันแบบนี้

ก.เกษตรฯ 20 ส.ค.- “ร.อ.ธรรมนัส” นำ 22 สส.พปชร. แถลงยันกลุ่มนี้เป็นรัฐบาลแน่นอน พรุ่งนี้รู้ชื่อชัด บอกมี สส. และพรรคเล็ก กำลังมาร่วมอีก ระบุถ้า พปชร.ไม่ขับออกจากพรรค ก็อยู่กันแบบนี้ ขณะที่ภรรยา “สันติ” โผล่ร่วมวง


ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย สส.พลังประชารัฐ 22 คน โดยในจำนวนนี้ นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ภรรยาของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค ร่วมด้วย นอกจากนี้ มีอีก 7 สส. อยู่ระหว่างเดินทางมา

โดย ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า วันนี้ไม่ใช่การแถลงข่าวตอบโต้ แต่มีพี่น้องร่วมทุกข์ร่วมสุขมาให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่กับตน และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ เพื่อรักษาแนวร่วม เพื่อชาติบ้านเมือง เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่สำคัญตนมีเจตนารมณ์ชัดเจนว่ามีจุดยืนของตัวเองในการทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง และขอบคุณ สส. ซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนทุกภาค ทั้งจังหวัดกำแพงเพชร เพชรบูรณ์ ราชบุรี นราธิวาส สงขลา ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด พะเยา ชลบุรี กาฬสินธุ์ แม่ฮ่องสอน ตราด และเชียงใหม่ ซึ่งเรามีความชัดเจนว่าเราไปด้วยกัน


เมื่อถามว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค มาที่กระทรวงเกษตรฯ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนกับนายไพบูลย์ ทำงานร่วมกันตั้งแต่ปี 2561 ให้เกียรติซึ่งกันและกัน วันนี้นายไพบูลย์มาให้กำลังใจ มาคุย และตนก็ตอบกลับไปว่า ไม่ได้ตั้งป้อมที่จะทะเลาะกับใคร แต่ขอให้มีจุดยืนเป็นของตัวเอง เพราะตนอยู่ตั้งแต่ พปชร. ยังเป็นวุ้น สร้างพรรคมา ดูแลการเลือกตั้งในปี 2562 จนถึงวันนี้ ก็ทำดีที่สุดแล้ว

เมื่อถามถึงการส่งรายชื่อรัฐมนตรีของ สส.กลุ่มนี้ จะเริ่มต้นอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เวลานี้แกนนำรัฐบาลจะให้รัฐมนตรีที่รักษาการเป็นผู้ตัดสินใจและคุยกัน ไม่ใช่ว่าพรรคเราจะทำอะไรโดยไม่ถามแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้เด็ดขาด เพราะเป็นมารยาท

“ขอยืนยันว่า สส.พปชร. ที่ยืนอยู่ตรงนี้จำนวน 22 คน และมีอีก 7 คนที่กำลังเดินทางมา เป็นรัฐบาลทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีตัวแทนพรรคเล็กมาร่วมด้วย” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว


เมื่อถามย้ำว่า สส.พปชร. ที่อยู่บ้านป่ารอยต่อฯ ไม่ได้ร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าไปพูดอย่างนั้นเลย เราจะไม่ก้าวล่วงบุคคลภายนอกที่ไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้

เมื่อถามว่า การส่งรายชื่อให้แกนนำรัฐบาล ส่งในนามของอะไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ในนามของกลุ่มตน สังกัดพรรคพลังประชารัฐ และเราเป็นหนึ่งเดียวกัน เพียงแต่มีบางกลุ่มที่พยายามสร้างความแตกแยก ตนในฐานะที่ สส.ส่วนใหญ่มาขอร้องให้เป็นตัวแทนพูด ยืนยันว่า หากขณะนี้ไม่ถูกขับออกก็ยังยืนอยู่ที่เดิม และหากมีการประชุมที่รัฐสภา รัฐบาลไปทิศทางไหนก็ไปทางนั้น พร้อมกันนี้ยังบอกด้วยว่า วันนี้ นายสันติ ได้ส่งภรรยามาร่วมด้วย

ทั้งนึ้ ยังได้เป็นรัฐมนตรีอยู่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เอาเป็นว่าพวกเราร่วมรัฐบาล ส่วนใครจะเป็นคนส่งรายชื่อให้พรรคเพื่อไทย พรุ่งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่า พรุ่งนี้เช้า (21 ส.ค.) ก็จะรู้

เมื่อถามย้ำว่า ยังเป็น รมว.เกษตรฯ ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องให้เกียรติผู้นำรัฐบาลตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ถือเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า ได้ส่งชื่อตัวเองไปใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ปฏิเสธตอบคำถาม โดยบอกเพียงว่าให้รอดูพรุ่งนี้ เดี๋ยวจะเป็นข่าวเอง ส่วนจะส่งไปชื่อเดียวหรือไม่ ตนไม่ทราบ

ทั้งนี้ ก่อนจะส่งรายชื่อไปได้พูดคุยกับแกนนำรัฐบาลแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเป็นผู้ประสานแต่เพียงผู้เดียว ร่วมกับนายสันติ

เมื่อถามว่า รายชื่อส่งแล้ว พรุ่งนี้เช้าจะได้รับความชัดเจนใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า ประมาณนั้น

ส่วนหากนายทักษิณ ชินวัตร ไฟเขียวให้ไปอยู่พรรคเพื่อไทย จะไปหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จะไปได้อย่างไร เขายังไม่ขับออก ซึ่งในกรณีที่พรรคไม่มีการขับเคลื่อนอะไร เราก็จะอยู่เป็นกลุ่มแบบนี้ ส่วนจะส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่ ยืนยันว่า งานในสภาฯ ก็ไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาล ซึ่งตนเชื่อมั่นว่า สส.พปชร.หลายคน รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้าน

ทั้งนี้ จะพูดได้ว่า มี สส. 2 กลุ่มใน พปชร. กลุ่มหนึ่งได้ไปต่อ อีกกลุ่มอกหักใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ประมาณนั้น

เมื่อถามว่า ที่เคยระบุว่า ตาอยู่จะเอาไปกินนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้พวกเรามากันเยอะ มาทุกจังหวัด

ส่วนหากแกนนำเพื่อไทยเลือก สส. ฝั่งบ้านป่าฯ สส.กลุ่มนี้ จะเป็นอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส ตอบทันทีว่า คำถามนี้เป็นไปไม่ได้ เหมือนกำลังถามว่า ปลาบินได้หรือไม่ ส่วนมีโอกาสที่ 2 กลุ่มจะกลับมาร่วมกันหรือไม่ อยากขอให้พูดเฉพาะเรื่องวันนี้

เมื่อถามว่า ได้แจ้งกับ น.ส.แพทองทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แล้วหรือไม่ ว่าพูดคุยกันจบแล้ว ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ได้แจ้งกับใคร แต่คุยกับเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และรักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งทุกอย่างชัดเจนแล้ว รอฟังผลพรุ่งนี้ ส่วนโควตายังเป็น 4 เก้าอี้เหมือนเดิมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับนายกฯ.-315-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เอกอัครราชทูตชี้แจงข้อเท็จจริงยูเอ็น ปมกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

31 ก.ค. – เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ขึ้นเวทียูเอ็น ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ระหว่างการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศว่าด้วยการระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธีและการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ระหว่างการกล่าวถ้อยแถลง เนื่องจากกัมพูชากล่าวพาดพิงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในเวทีดังกล่าว ไทยเข้าร่วมการประชุมโดยมีเป้าหมายร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศในการผลักดันการแก้ปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธีผ่านแนวทางสองรัฐ.-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เผยประเทศไทยฝนลดลง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 31 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดน่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง […]

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย