พรรคก้าวไกล 7 ส.ค.-“ช่อ พรรณิการ์” เชื่อพรรคก้าวไกลมีแผนสำรอง ยุบ-ไม่ยุบพรรค ระบุหากถูกยุบ จะใช้เวลาไม่นานเดินหน้าต่อ ย้ำงานจะไม่สะดุด
นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า เปิดเผยภายหลังเดินทางมาที่สำนักงานพรรคก้าวไกลภายในอาคารอนาคตใหม่รามคำแหง 42 ว่า สำหรับการจัดกิจกรรมของพรรคก้าวไกลในวันนี้ โปรแกรมแรกจะเริ่มขึ้นในเวลา 13.00 น. เป็นต้นไป โดยนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า จะมีการบรรยายในหัวข้อ “ศาลรัฐธรรมนูญกับการยุบพรรคการเมือง” โดยจะเปิดโอกาสให้มีเกิดมีการซักถามจนกว่าจะมีคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล ก็จะมีการแถลงข่าวที่พรรคในเวลา 18.00 น. ก่อนที่จะมีการขึ้นปราศรัยกับประชาชนที่มาร่วมฟังคำวินิจฉัย ซึ่งกำหนดการจะเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 21.00 น.
นางสาวพรรณิการ์ ยังกล่าวถึงความรู้สึกการยุบพรรคอนาคตใหม่จนสู่การพิจารณายุพรรคก้าวไกลในวันนี้ว่า ความรู้สึกแรกคือแค้น เพราะความฝันและความต้องการของพวกเราคือการตั้งพรรคการเมืองที่ทำให้ประเทศไทยเท่าเทียมกัน และนำประเทศไทยก้าวสู่ทันโลกมีความเสมอภาค อำนาจสูงสุดอยู่ที่ประชาชน ซึ่งไม่ใช่ความฝันสุดโต่งหรือทะเยอทะยาน หลายประเทศในโลกนี้ก็ทำกันได้ แต่สำหรับประเทศไทยคนกลุ่มหนึ่งที่ลุกขึ้นมาทำพรรคการเมืองและมีประชาชนที่เห็นด้วยในแนวเดียวกันจาก 6 ล้านคน สูู่ 14 ล้านคน จึงตั้งคำถามว่าทำไม ได้รับอนุญาตให้เกิดขึ้น และต้องมีการขออนุญาต ซึ่งความแค้นไม่ใช่แค้นเพราะพรรคถูกยุบ แต่เป็นความรู้สึกอัดอั้นตันใจ ว่าทำไมพวกเราไม่สามารถทำได้และต้องขออนุญาตใครบางคน
ส่วนทางออกของพรรคก้าวไกลได้มีการเตรียมแผนสำรองอย่างไรนั้น นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่าต้องถามพรรคก้าวไกล แต่ในฐานะคนที่ถูกยุบพรรคมาก่อน เชื่อมั่นว่าพรรคก้าวไกลได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ทุกกรณีแล้ว หากก้าวไกลไม่ถูกยุบพรรค ก็จะเดินหน้าต่ออย่างทะยานและติดปีกไปข้างหน้า นำเวลาทั้งหมดไปทำประโยชน์ให้กับประชาชน แต่หากถูกยุบขึ้นมาก็เชื่อว่าจะไม่ใช้เวลานานในการเดินหน้าต่อ และสามารถทำงานต่อได้ทันที และการทำงานก็จะไม่สะดุด
นางสาวพรรณิการ์กล่าวอีกว่าส่วนตัวก็ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ให้กำลังใจนายพิธา ในการเดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ เพราะทุกคนต้องทำหน้าที่ของตนเอง หากเชื่อว่าพรรคก้าวไกลทำในสิ่งที่ถูกต้องไม่จำเป็นต้องให้กำลังใจอะไรกัน แต่ก็ขอบคุณประชาชนที่ให้ให้กำลังใจพรรค ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งยืนยันว่าประเทศนี้เป็นของทุกคนและอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน.-319.-สำนักข่าวไทย