สัมมนาสาธาธารณะ “คนไทยไม่โกงในยุค Digital Disruption”

สำนักงาน ป.ป.ช.- นยปส. 15 จัดเวทีสัมมนาสาธารณะ นวัตกรรมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนไทยไม่โกงฯ “ภูมิธรรม” ชี้ หัวใจสำคัญ ต้องทำให้เกิดค่านิยมใหม่ ขณะที่ “วิษณุ” บอกการทุจริตคอร์รัปชันในภาครัฐ เป็นภัยสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโครงการนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง (นยปส.) รุ่นที่ 15 จัดการสัมมนาสาธารณะ หัวข้อ “นวัตกรรมในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนไทยไม่โกงในยุค Digital Disruption” ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดงาน นายวิษณุเครืองามที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีบรรยายพิเศษ มีการเดินขบวนร่วมขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ความฝันอันสูงสุด วีดีทัศน์จากภาคประชาชนและการแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการปราบปรามทุจริตในยุคดิจิทัล

นายภูมิธรรม กล่าวระหว่างเปิดงานว่า ดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ Corruption Perception Index: CPI ของไทยยังตกต่ำ ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อยู่ในลำดับ 108 จาก 180 ประเทศ สะท้อนว่า ปัญหาทุจริตในสังคมไทยทุกคนทราบ แต่แก้ไขไม่ได้ จนเป็นปัญหาสะสมในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นปัญหาสำคัญ ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศมาก รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาคอร์รัปชันในยุค Digital Disruption ที่จะเห็นการทุจริตที่สลับซับซ้อน จนยากที่จะแก้ไขมากขึ้น ทำให้ต้องมีการค้นคว้าอย่างจริงจังว่า จะร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้องอย่างไร และเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกคนจะต้องหาช่องทางแก้ไขให้มากขึ้น


นายภูมิธรรม เห็นว่า การทุจริตคอร์รัปชันขณะนี้ หัวใจสำคัญที่จะต้องทำให้เกิดค่านิยมใหม่ที่นักการเมือง ข้าราชการ เอกชน และประชาชนต้องเข้าใจ และร่วมมือกัน เพราะหากไม่สามารถเปลี่ยนค่านิยมได้ ปัญหาการคอร์รัปชัน ก็จะแก้ไขยาก และหากยิ่งไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศชาติ ก็จะยิ่งยาก และยิ่งหยั่งลึกลงในสังคมไทย จนเป็นอันตรายต่อสังคม ดังนั้น จึงจะต้องสร้างสำนึกคนไทยให้ได้ เพื่อให้การแก้ไขการทุจริตให้สำเร็จ รวมถึงจะต้องเรียนรู้เท่าทันปัญหา เพราะไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ด้วยความรู้สึก แต่จะต้องหาความรู้ และใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่โลกเปลี่ยนแปลงไปมาแก้ปัญหา และดึงการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน เข้ามามีส่วนร่วมด้วย

ด้านนายวิษณุ เครืองาม บรรยายพิเศษเรื่องการป้องกันการทุจริตภาครัฐยุค Digital Disruption ว่า การทุจริตคอรัปชั่นในภาครัฐ ถือเป็นภัยสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ทำให้การดำเนินการหลายอย่างไม่ประสบความสำเร็จเพราะมีการทุจริตและประพฤติมิชอบเกิดขึ้น โดยปัจจุบันการทุจริตเชิงนโยบายและผลประโยชน์ทับซ้อนมีเพิ่มมากขึ้น การยักยอกทรัพย์ การเรียกรับทรัพย์เพื่อการคุ้มครองและอำนวยความสะดวกมีมากขึ้น ซึ่งสังคมไทยชินกับการเรียกรับการให้มาแต่โบราณ และเป็นการทำโดยถูกกฎหมายต่อมาสมัยรัชกาลที่ 5 ให้ยกเลิกระบบภาษีนายอากรและให้นำส่งเข้าคลังทั้งหมด อย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบันการทุจริตคอรัปชั่นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ซึ่งได้มีการจัดตั้งศาลคดีทุจริตขึ้นเป็นการเฉพาะ ที่ตลิ่งชัน เพราะคดีทุจริตประพฤติมิชอบต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะของเจ้าหน้าที่และผู้พิพากษาเพื่อให้รู้เท่าทันคดีทุจริต โดยนำคดีอาญามาตรา 157 การประพฤติมิชอบของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐมาขึ้นกับศาลนี้ด้วย เพราะบางครั้งไม่ใช่คดีคอรัปชั่นแต่เป็นคดีประพฤติมิชอบบางอย่าง เช่น ขาดงานขาดราชการ การปล่อยปะละเลยต่อหน้าที่จนทำให้เกิดการทุจริต

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติ และเป็นหนึ่งในหลักนิติธรรม เพราะการทุจริตประพฤติมิชอบเป็นหลักในการบริหารราชการที่ดี เปิดเผยและโปร่งใส ทั้งนี้ การป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบเป็นหลักสำคัญในการบริหารประเทศและไม่สามารถละเลยได้ วิธีการแก้ปัญหาไม่มีนวัตกรรมใหม่ เพียงแต่ต้องเปลี่ยนกรอบความคิดและต้องยึดมั่นตามกรอบกฏหมาย และที่สำคัญ คือ ความร่วมมือระหว่างรัฐกับประชาชน ซึ่งหากมีสิ่งเหล่านี้ก็เพียงพอในการแก้ปัญหาแล้ว ปัจจุบันการแก้ปัญหาทุจริตมักถูกมองข้ามว่าเป็นหน้าที่ของหน่วยงานต่าง ๆ แต่ลืมนึกว่าประชาชนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบที่ได้ผลดีที่สุด พร้อมย้ำ ที่จริงแล้วได้มีการยกร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการอนุญาตอนุมัติของทางราชการ ไว้นานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรได้เพราะหลายกระทรวงคัดค้าน เนื่องจากหากออกมาจะทำให้ปิดช่องทางการทุจริตหลายช่องทางได้ และจนที่สุดปี 2558 เมื่อ คสช. เข้ามาได้ผลักดันกฎหมายนี้ให้เกิดขึ้นได้ และทราบว่าจะมีการปรับกฎหมายนี้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันยิ่งขึ้น โดยกฎหมายฉบับใหม่ จะเปลี่ยนเอาระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้มากขึ้น เชื่อว่ากฎหมายนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ปัญหาการทุจริตลดน้อยลงได้ เพราะลดการเผชิญหน้าระหว่างข้าราชการและประชาชนก็จะทำให้การเลือกรับเงินลดน้อยลงไป รวมถึงประชาชนต้องเป็นหูเป็นตาด้วย.-319 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ พระราชทานเงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ฯ ให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 10 มิ.ย.-สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานเงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ฯ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา วานนี้ (9 มิ.ย.68) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานสิ่งของให้ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 ณ วังศุโขทัย เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับทหารชายแดน ประกอบด้วย เงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ฯ , พระ และสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตย ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา.-313.-สำนักข่าวไทย

พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกฯ คนที่ 19 ถึงแก่อสัญกรรม

กทม. 10 มิ.ย.- พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 19 ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา ที่ รพ.พระมงกุฎฯ อายุ 91 ปี เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สุจินดา คราประยูร เสียชีวิตอย่างสงบ ด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 เวลา 01.57 น. ที่ รพ.พระมงกุฎฯ ด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี 10 เดือน 4 วัน กำหนดการพิธีศพ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป สำหรับ พล.อ.สุจินดา คราประยูร (เกิด 6 สิงหาคม พ.ศ. 2476) เป็นนายทหาร และนายกรัฐมนตรีคนที่ 19 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารสูงสุด หนึ่งในคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ […]

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย