สัมมนาสาธาธารณะ “คนไทยไม่โกงในยุค Digital Disruption”

สำนักงาน ป.ป.ช.- นยปส. 15 จัดเวทีสัมมนาสาธารณะ นวัตกรรมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนไทยไม่โกงฯ “ภูมิธรรม” ชี้ หัวใจสำคัญ ต้องทำให้เกิดค่านิยมใหม่ ขณะที่ “วิษณุ” บอกการทุจริตคอร์รัปชันในภาครัฐ เป็นภัยสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโครงการนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตระดับสูง (นยปส.) รุ่นที่ 15 จัดการสัมมนาสาธารณะ หัวข้อ “นวัตกรรมในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนไทยไม่โกงในยุค Digital Disruption” ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดงาน นายวิษณุเครืองามที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีบรรยายพิเศษ มีการเดินขบวนร่วมขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ความฝันอันสูงสุด วีดีทัศน์จากภาคประชาชนและการแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการปราบปรามทุจริตในยุคดิจิทัล

นายภูมิธรรม กล่าวระหว่างเปิดงานว่า ดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ Corruption Perception Index: CPI ของไทยยังตกต่ำ ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อยู่ในลำดับ 108 จาก 180 ประเทศ สะท้อนว่า ปัญหาทุจริตในสังคมไทยทุกคนทราบ แต่แก้ไขไม่ได้ จนเป็นปัญหาสะสมในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นปัญหาสำคัญ ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศมาก รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาคอร์รัปชันในยุค Digital Disruption ที่จะเห็นการทุจริตที่สลับซับซ้อน จนยากที่จะแก้ไขมากขึ้น ทำให้ต้องมีการค้นคว้าอย่างจริงจังว่า จะร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้องอย่างไร และเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกคนจะต้องหาช่องทางแก้ไขให้มากขึ้น


นายภูมิธรรม เห็นว่า การทุจริตคอร์รัปชันขณะนี้ หัวใจสำคัญที่จะต้องทำให้เกิดค่านิยมใหม่ที่นักการเมือง ข้าราชการ เอกชน และประชาชนต้องเข้าใจ และร่วมมือกัน เพราะหากไม่สามารถเปลี่ยนค่านิยมได้ ปัญหาการคอร์รัปชัน ก็จะแก้ไขยาก และหากยิ่งไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศชาติ ก็จะยิ่งยาก และยิ่งหยั่งลึกลงในสังคมไทย จนเป็นอันตรายต่อสังคม ดังนั้น จึงจะต้องสร้างสำนึกคนไทยให้ได้ เพื่อให้การแก้ไขการทุจริตให้สำเร็จ รวมถึงจะต้องเรียนรู้เท่าทันปัญหา เพราะไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ด้วยความรู้สึก แต่จะต้องหาความรู้ และใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่โลกเปลี่ยนแปลงไปมาแก้ปัญหา และดึงการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน เข้ามามีส่วนร่วมด้วย

ด้านนายวิษณุ เครืองาม บรรยายพิเศษเรื่องการป้องกันการทุจริตภาครัฐยุค Digital Disruption ว่า การทุจริตคอรัปชั่นในภาครัฐ ถือเป็นภัยสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ทำให้การดำเนินการหลายอย่างไม่ประสบความสำเร็จเพราะมีการทุจริตและประพฤติมิชอบเกิดขึ้น โดยปัจจุบันการทุจริตเชิงนโยบายและผลประโยชน์ทับซ้อนมีเพิ่มมากขึ้น การยักยอกทรัพย์ การเรียกรับทรัพย์เพื่อการคุ้มครองและอำนวยความสะดวกมีมากขึ้น ซึ่งสังคมไทยชินกับการเรียกรับการให้มาแต่โบราณ และเป็นการทำโดยถูกกฎหมายต่อมาสมัยรัชกาลที่ 5 ให้ยกเลิกระบบภาษีนายอากรและให้นำส่งเข้าคลังทั้งหมด อย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบันการทุจริตคอรัปชั่นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ซึ่งได้มีการจัดตั้งศาลคดีทุจริตขึ้นเป็นการเฉพาะ ที่ตลิ่งชัน เพราะคดีทุจริตประพฤติมิชอบต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะของเจ้าหน้าที่และผู้พิพากษาเพื่อให้รู้เท่าทันคดีทุจริต โดยนำคดีอาญามาตรา 157 การประพฤติมิชอบของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐมาขึ้นกับศาลนี้ด้วย เพราะบางครั้งไม่ใช่คดีคอรัปชั่นแต่เป็นคดีประพฤติมิชอบบางอย่าง เช่น ขาดงานขาดราชการ การปล่อยปะละเลยต่อหน้าที่จนทำให้เกิดการทุจริต

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติ และเป็นหนึ่งในหลักนิติธรรม เพราะการทุจริตประพฤติมิชอบเป็นหลักในการบริหารราชการที่ดี เปิดเผยและโปร่งใส ทั้งนี้ การป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบเป็นหลักสำคัญในการบริหารประเทศและไม่สามารถละเลยได้ วิธีการแก้ปัญหาไม่มีนวัตกรรมใหม่ เพียงแต่ต้องเปลี่ยนกรอบความคิดและต้องยึดมั่นตามกรอบกฏหมาย และที่สำคัญ คือ ความร่วมมือระหว่างรัฐกับประชาชน ซึ่งหากมีสิ่งเหล่านี้ก็เพียงพอในการแก้ปัญหาแล้ว ปัจจุบันการแก้ปัญหาทุจริตมักถูกมองข้ามว่าเป็นหน้าที่ของหน่วยงานต่าง ๆ แต่ลืมนึกว่าประชาชนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบที่ได้ผลดีที่สุด พร้อมย้ำ ที่จริงแล้วได้มีการยกร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการอนุญาตอนุมัติของทางราชการ ไว้นานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรได้เพราะหลายกระทรวงคัดค้าน เนื่องจากหากออกมาจะทำให้ปิดช่องทางการทุจริตหลายช่องทางได้ และจนที่สุดปี 2558 เมื่อ คสช. เข้ามาได้ผลักดันกฎหมายนี้ให้เกิดขึ้นได้ และทราบว่าจะมีการปรับกฎหมายนี้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันยิ่งขึ้น โดยกฎหมายฉบับใหม่ จะเปลี่ยนเอาระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้มากขึ้น เชื่อว่ากฎหมายนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ปัญหาการทุจริตลดน้อยลงได้ เพราะลดการเผชิญหน้าระหว่างข้าราชการและประชาชนก็จะทำให้การเลือกรับเงินลดน้อยลงไป รวมถึงประชาชนต้องเป็นหูเป็นตาด้วย.-319 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาสั่งแบนหนัง-ละครไทย

พนมเปญ 13 มิ.ย. – เว็บไวต์ขแมร์ไทม์ส ของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา เรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์กัมพูชายกเลิกการออกอากาศละครไทย เลิกฉายหนังไทย และอาจจะยกเลิกการนำเข้าสินค้าจากไทยด้วยเพื่อรักษาอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศในยามที่เผชิญแรงกดดัน กระทรวงข่าวสารกัมพูชาได้ออกหนังสือถึงเจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งแจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทุกสถานีของกัมพูชาต้องงดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภทเพื่อความเหมาะสมของสถานการณ์และรักษาความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้กระทรวงศิลปะและวัฒนธรรมกัมพูชายังออกประกาศแจ้งเตือนให้ระงับการฉายและห้ามนำเข้าภาพยนตร์ไทยทุกประเภทในกัมพูชาตั้งแต่ 12 นาฬิกาวันนี้เป็นต้นไป.-816.-สำนักข่าวไทย

 อิสราเอลระบุเปิดฉากโจมตีอิหร่าน

เยรูซาเล็ม 13 มิ.ย. – กองกำลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อขัดขวางมิให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ สื่อของอิหร่านและผู้เห็นเหตุการณ์รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดหลายครั้งที่โรงงานเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียม อิสราเอลเรียกปฏิบัติการโจมตีนี้ว่า “สิงห์ผงาด” (Rising Lion) โดยระบุว่าการโจมตียังพุ่งเป้าไปที่บรรดาผู้บัญชาการของอิหร่านและโรงงานผลิตขีปนาวุธ พร้อมกันนั้น อิสราเอลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อเตรียมรับมือกับการโจมตีตอบโต้ด้วยขีปนาวุธและโดรนจากเตหะราน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้กล่าวผ่านข้อความวิดีโอที่บันทึกไว้ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ชี้ขาดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล นายเนทันยาฮูเขากล่าวด้วยว่า อิสราเอลเล็งเป้าโจมตีไปที่นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โครงการขีปนาวุธนำวิถี และโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่เมืองนาทานซ์ (Natanz) ในปฏิบัติการที่จะดำเนินต่อไปอีกหลายวัน เจ้าหน้าที่กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลกำลังโจมตีเป้าหมายทางนิวเคลียร์และทางทหาร ‘หลายสิบแห่ง’ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าอิหร่านมีวัสดุเพียงพอที่จะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 15 ลูกภายในไม่กี่วัน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า อิสราเอลได้ดำเนินการฝ่ายเดียวเนื่องจากเชื่อว่าปฏิบัติการดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการป้องกันตนเอง พร้อมกับย้ำว่า สหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฎิบัติการครั้งนี้ของอิสราเอล ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากข่าวนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

“ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา

ศาลฎีกาฯ 13 มิ.ย.-“ทักษิณ” ไม่มาศาลฎีกา​ “ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี​ เดินทางมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประมาณ 8.30 น. พร้อมทีมทนาย 4-5 คน โดยไม่ปรากฏนายทักษิณ เดินทางมาศาลแต่อย่างใด นายวิญญัติ เปิดเผยถึงกรณีศาลฯได้นัดไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ได้รับการเข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ วันนี้ว่า​ เป็นการนัดของศาลฎีกาฯ เพื่อจะดำเนินการกระบวนการไต่สวน​ ซึ่งต้องรอดู ตนในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจของนายทักษิณ​ มาทำหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นว่า กระบวนการพิจารณาคดีจากนี้ไป จะกำหนดหรือวางแนวทางอย่างไร ยังไม่สามารถตอบได้ ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆ ขอให้สัมภาษณ​์หลังจากที่เสร็จกระบวนการก่อน เนื่องจากว่ายังไม่ทราบ ว่าจะมีกระบวนการอย่างไรบ้าง ทั้งนี้การเป็นทนายความมาพอจะคาดเดาได้ ส่วนในคดีนี้มีโอกาสที่นายทักษิณจะมาหรือไม่​ นายวิญญัติ​ กล่าวว่ายังตอบไม่ได้ และการพิจารณาวันนี้ไม่น่านาน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ ต้องดูว่า เราจะทำคำชี้แจงอย่างไร และหน่วยงานต่างๆ บุคคลที่ได้รับหมายได้ยื่นคำชี้แจงมาหรือไม่ ต้องมาดูว่ามีใครยื่นมาบ้าง หลังจากนั้นศาลจะให้โอกาสทุกฝ่าย ในการชี้แจง.-319​.-สำนักข่าวไทย

เครื่องบินตกอินเดีย

นายกฯ แสดงความเสียใจเครื่องบินตกที่อินเดีย

กทม. 13 มิ.ย.-นายกฯ แสดงความเสียใจโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเมื่อคืนที่ผ่านมา แสดงความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด ในนามของประชาชนและรัฐบาลไทย ขอแสดงความเสียใจไปยังท่านนายกรัฐมนตรีโมที @NarendraModi และผู้ที่ประสบความสูญเสียจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ I am deeply saddened by the tragic plane crash in Ahmedabad earlier today. On behalf of the people and Government of Thailand, I extend our heartfelt condolences to PM @NarendraModi and all those who suffered loss in this tragedy.-314.-สำนักข่าวไทย