รัฐบาลมุ่งส่งเสริมเมืองน่าเที่ยว 5 ภูมิภาคทั่วไทย

ทำเนียบ 25 ก.ค.- โฆษกรัฐบาล ประเมินยอดนักท่องเที่ยวไทยช่วงวันหยุดยาวกรกฎาคม 2567 มากกว่า 5 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท พร้อมจัดกิจกรรมท่องเที่ยวต่อเนื่อง ส่งเสริมเมืองน่าเที่ยวใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ


นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศช่วงวันหยุดยาว ขานรับแนวนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวไทย โดยล่าสุดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่า ตลอดเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งมีวันหยุดยาวต่อเนื่องจะเอื้อต่อจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยรวมกันมากกว่า 5 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียนถึง 18,360 ล้านบาท โดยพบจำนวนผู้เดินทางฯ มากที่สุดคือ ภาคกลาง 1,174,060 คน-ครั้ง รองลงมาคือ กรุงเทพมหานคร 947,810 คน-ครั้ง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 931,950 คน-ครั้ง ขณะที่ภูมิภาคที่สร้างรายได้มากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร 4,781ล้านบาท รองลงมาคือ ภาคตะวันออก 4,061 ล้านบาท และภาคใต้ 3,017 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับผลการสำรวจแผนการเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงวันหยุด/เทศกาลในไตรมาส 3/2567 จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งระบุว่า คนไทยส่วนใหญ่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวใกล้ ๆ ภายในจังหวัดตัวเองและจังหวัดใกล้เคียง โดยจำแนกเป็น 1) วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา: มีการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดตัวเอง 34 % ไปจังหวัดใกล้เคียงทั้งพักค้างและไม่พักค้างคืน 14% และเดินทางข้ามภาค 25% และ 2) วันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ: วางแผนเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดตัวเอง 29% ไปจังหวัดใกล้เคียงทั้งพักค้างและไม่พักค้างคืน 10% และเดินทางข้ามภาค 16%


โดยจากแนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวดังกล่าว รัฐบาลโดย ททท. ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมสร้างแรงจูงใจให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองน่าเที่ยว 5 ภูมิภาคให้ต่อเนื่องตลอดเดือนกรกฎาคม – กันยายน 2567 ทั่วประเทศ ดังนี้

ภาคเหนือ : แคมเปญเหนือความคาดหมายในจังหวัดแพร่ น่าน พิษณุโลก และนครสวรรค์, แคมเปญแอ่วเหนือให้ฉ่ำและเที่ยวเสริมบุญทั่วภาคเหนือ ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ, 365 วัน แห่งการเดินทางของคนรักกาแฟ, งานคาราวานรถยนต์เยือนเมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์ 9 – 12 สิงหาคม 2567, AMAZING MUAY THAI EXPERIENCE จ.อุตรดิตถ์ 16 – 18 สิงหาคม 2567, Amazing Northern Retreat Month ตลอดเดือนสิงหาคม 2567, รถม้าคาร์นิวัลนครลำปาง จ.ลำปาง 9 – 12 สิงหาคม 2567, Amazing Nan Marathon 2024 จ.น่าน 25 สิงหาคม 2567, Chiang Rai Fashion to the World 30 สิงหาคม – 1 กันยายน 2567 และ VIJITR 5 ภาค @พิษณุโลก 7 – 15 กันยายน 2567

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : แซ่บหลายรัน จ.มหาสารคาม 3 สิงหาคม 2567, เทศกาล Coffee fest @Loei #2 จ.เลย 10 – 11 สิงหาคม 2567, B-Quik Thailand Super Series 2024 สนามที่ 4 จ.บุรีรัมย์ 23 – 25 สิงหาคม 2567, Lighting of Isan สีสันแห่งอีสาน จ.ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ 1 – 8 กันยายน 2567, กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว “อีสานไปไสกะแซ่บ”, Isan สะบัดผ้า : เปลี่ยนทุกท่วงท่า ให้อีสานเป็น “Runway” และ ฮักอีสาน…เมืองน่าเที่ยว


ภาคกลาง : 117 เกจิอาจารย์สังขารเหนือกาลเวลา, มหัศจรรย์แสงเหนือ @ เพชรบุรี กาญจนบุรี, WHY Festival Carnival Charity จ.ราชบุรี 3 สิงหาคม 2567, วิ่งในวรรณคดีซีรีส์รามเกียรติ จ.ราชบุรี 24 – 25 สิงหาคม 2567 จ.ลพบุรี 7 – 8 กันยายน 2567 และ จ.สมุทรสงคราม 21 – 22 กันยายน 2567, ไหว้พระริมน้ำให้ฉ่ำบุญ ” สิงหาพาแม่ล่องเรือทำบุญ” จ.ปทุมธานี 18 สิงหาคม 2567, กอล์ฟยกก๊วน กินกันยกแก๊งค์ จ.ปทุมธานี 1 – 31 สิงหาคม 2567, Amphawa Food Experience 2 ” Night at The Museum” อุทยาน ร.2 จ.สมุทรสงคราม 23 – 25 สิงหาคม 2567 และ AMAZING MUAY THAI EXPERIENCE จ.ลพบุรี 13 – 15 กันยายน 2567

ภาคตะวันออก : กิจกรรม “Happy Weekday Trips จันทร์ถึงศุกร์ เที่ยวให้ฉ่ำ จัดทริปให้สุข”จัดทำโปรโมชั่น ที่พักวันธรรมดาในราคาพิเศษ พร้อมรับ Voucher เติมน้ำมัน 500 บาท เมื่อซื้อแพคเกจขั้นต่ำ 5,000 บาทขึ้นไป ตั้งแต่วันนี้ – 15 กันยายน 2567, กิจกรรมฝนนี้…เที่ยวที่ภาคตะวันออก ร่วมกับภาคเอกชนจัดทำโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษห้องพักโรงแรม สำหรับการเข้าพัก 2 คืนต่อเนื่องในชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราดตั้งแต่วันนี้ – 15 กันยายน 2567, กิจกรรม Amazing Outdoor Fest 2024 จ.นครนายก 10 – 11 สิงหาคม 2567, Sakaeo Craft Coffee & Friend #2″ จ.สระแก้ว 11 – 12 สิงหาคม 2567 และ Prachinburi Night At The Museum Ep.2 จ.ปราจีนบุรี 6 – 8 กันยายน 2567

ภาคใต้ : Creative Nakhon Festival จ.นครศรีธรรมราช 25 – 28 กรกฎาคม 2567, Satun Halal Street 2024 จ.สตูล 2 – 4 สิงหาคม 2567, Yala Marathon 4 สิงหาคม 2567, ระนองมหานครน้ำแร่ จ.ระนอง 10 – 11 สิงหาคม 2567, เดิน วิ่ง ท้าฝน เมืองฝน 8 จ.ระนอง 11 สิงหาคม 2567, สตูล ชิลล์ Eat Art 16 – 18 สิงหาคม 2567, Bala Trail จ.นราธิวาส 17 – 18 สิงหาคม 2567, Southern Bliss Fest จ. ชุมพร 23-25 สิงหาคม 2567 และจ.นครศรีธรรมราช 30 สิงหาคม – 1 กันยายน 2567, เสน่ห์ ปัตตานี “เมืองงามสามวัฒนธรรม” 28 สิงหาคม – 5 กันยายน 2567 และ Pattani Decode 2024 24 สิงหาคม – 1 กันยายน 2567

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่เพจเฟซบุ๊กข่าวสารท่องเที่ยว ททท.https://www.facebook.com/thaitourismnews/ หรือโทรสอบถาม TAT Call Center 1672 เพื่อนร่วมทาง (ตลอด 24 ชั่วโมง) รวมทั้งผ่านแอปพลิเคชันไลน์ @tatcontactcenter (https://bit.ly/34lbUjn)

“นายกรัฐมนตรีสนับสนุนการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวไทยสร้างบรรยากาศ เพื่อให้สามารถเที่ยวไทยได้ตลอดปี เชื่อมั่นว่าผลสะท้อนจากการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศตลอดช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ส่งเสริมทิศทางที่ดีในการต่อยอดเพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไทย และเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ปี 2568 ซึ่งจะเป็นปีแห่งการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย Amazing Thailand Grand Tourism Year โดยเฉพาะการนำเสนอเส้นทางการท่องเที่ยวที่กระจายไปสู่เมืองน่าเที่ยวในภูมิภาคต่าง ๆ คู่ขนานกับการจัดอีเวนต์ ต่อยอดกระจายรายได้ทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ” นายชัย กล่าว .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ

ก.ต่างประเทศ 4 ส.ค.-กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา คาดแจงข้อมูลที่บิดเบือน หลังกัมพูชาปล่อยเฟคนิวส์ต่อเนื่อง ด้าน “มาริษ” ย้ำไทยไม่ได้เริ่มก่อน ยึดแก้ปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี เรียกร้องกัมพูชายึดหลักสันติวิธี-จริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกับ นายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และ นางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงภายหลังจากที่ฝ่ายกัมพูชามีการให้ข้อมูลที่บิดเบือนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ก่อนการบรรยาย นายมาริษ กล่าวเปิดโดยขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมรับฟังการบรรยายในวันนี้ พร้อมชี้แจงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และท่าทีของไทยต่อกรณีดังกล่าว โดยตนตั้งใจจะแบ่งการบรรยายเป็น 2 ประเด็นหลัก คือ 1. การเจรจาหยุดยิงที่มาเลเซียเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไทยขอประท้วงต่อฝ่ายกัมพูชากรณีที่ละเมิดกฎหมายมนุษยชนและใช้ความรุนแรง โดยมีเป้าหมายแบบไม่เลือกเป้าและโจมตีไปที่พลเรือน รวมถึงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งขัดต่อหลักการของอนุสัญญาออตโตวา ในขณะที่ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด จึงหวังเป็นอย่างยิ่งให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างจริงใจด้วยเช่นกัน ภายใต้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ส่วนประเด็นที่ 2 คือการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม […]

EOD ทำลายวัตถุระเบิด ใกล้ปั๊มน้ำมันบ้านผือ จ.ศรีสะเกษ 

ศรีสะเกษ 4 ส.ค. – เจ้าหน้าที่อีโอดีเก็บกู้จรวด BM 21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาตกและฝังอยู่ในพื้นถนนกันทรลักษ์อีกจุด ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่วันที่ 24 ก.ค. เช่นเดียวกัน บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บวัตถุระเบิดหรือ EOD จากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC เข้าเตรียมความพร้อมเพื่อเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดแรงสูง ประเภท BM21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่ แล้วตกลงไปฝังอยู่ในถนน กันทรลักษ์-เขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ เป็นจรวด BM 21 ที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม ปตท. บ้านผือ ระเบิดจุดนี้ อยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ประเมาณ 500 เมตร และห่างจากจุดที่มีการเก็บกู้ จรวดบีเอ็ม 21 บนถนนกันทรลักษ์ลูกแรก ในวันที่ 2 สิงหาคม […]

พล.อ.ณัฐพล แจ้งกัมพูชา เร่งมาเก็บศพทหาร หวั่นเกิดโรคระบาด

ทำเนียบ 4 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล ยืนยันดูแลทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวอย่างดี พร้อมเปิดให้องค์การระหว่างประเทศร่วมตรวจสอบ ขอให้ประชาชนมั่นใจการประชุม GBC เชื่อจะทำอย่างรอบคอบ ยึดผลประโยชน์ประเทศ พร้อมแจ้ง รมต.กลาโหมกัมพูชา เร่งมาเก็บศพทหารกัมพูชา หวั่นทิ้งไว้นานอาจเกิดโรคระบาด พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ในการประชุม GBC ที่เริ่มขึ้นในวันนี้  เราได้มีการเตรียมแนวทางที่จะไปประชุมตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ได้เสนอให้ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณา เพื่อให้เห็นชอบ จากนั้น ก็ได้มาเตรียมการในเช้าวันเสาร์ ประกอบกับในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางมาเลเซียได้ติดต่อขอประชุม 3 ฝ่าย ซึ่งประกอบไปด้วย รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย ไทย และกัมพูชา แต่ในการประชุม 3 ฝ่าย ไม่ได้มีการลงประเด็น โดยไทยตอบเพียงในเรื่องหลักการ และในวันอาทิตย์ก็ได้คุยกับเหล่าทัพว่า ยืนยันและรับได้หรือไม่ รับได้ไหม พอใจไหม สบายใจไหม เหล่าทัพก็สบายใจ และกองเลขาฯ ก็ไปประชุม GBC ซึ่งจะใช้เวลาประชุมในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม และในวันที่ 6 […]

เตรียมเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” และคนขับกระบะเข้าให้การ

กทม. 4 ส.ค.-ตำรวจเตรียมเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” มาให้การอย่างละเอียด รวมถึงคนขับกระบะ ด้านผู้ก่อเหตุ สอบปากคำเรียบร้อยแล้ว พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยว่าคดี “เป๊ก ผลิตโชค” ถูกฟันบริเวณคาง ภายในปั๊มน้ำมัน คดีนี้ไม่มีความซับซ้อนทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ขณะนี้รวบรวมพยานหลักฐานได้มากพอสมควรแล้ว ยังเหลือเรื่องของคำให้การของพยาน โดยหลังจากนี้จะเรียก “เป๊ก ผลิตโชค” ในฐานะผู้ถูกกระทำมาให้การอย่างละเอียด รวมถึงจะเชิญคนขับรถกระบะที่ “เป๊ก” ปีนขึ้นไป ตอนนี้พนักงานสอบสวนพยายามติดต่ออยู่ และพยานต่างๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ต้องเรียกมาให้การเพิ่มเติมด้วย ส่วนนายชุติเทพ ที่เป็นผู้ก่อเหตุได้ทำการสอบปากคำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องการตรวจร่างกายของ “เป๊ก” นั้น ก็เป็นในส่วนของแพทย์.-419.-สำนักข่าวไทย