“บิ๊กเกรียง” ลั่นเป็นกลาง-อิสระ-เที่ยงธรรม ประชาชนพึ่งได้

รัฐสภา 23 ก.ค. – “บิ๊กเกรียง” แสดงวิสัยทัศน์ชิงรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ลั่นจะยึดมั่นจงรักภักดี “ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์” เป็นกลาง-อิสระ-เที่ยงธรรม ประชาชนพึ่งได้ ฟังเสียงส่วนใหญ่ ไม่เพิกเฉยเสียงส่วนน้อย ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วม หวังวุฒิสภาเป็นที่ยอมรับเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน


พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ สว. แสดงวิสัยทัศน์ หลังถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 โดยขอบคุณสมาชิกที่ให้ความไว้วางใจที่เสนอชื่อทำหน้าที่รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ยืนยันว่าจะยึดมั่นในความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และดำรงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เทิดทูนและปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนจนกว่าชีวิตจะหาไม่

พลเอก เกรียงไกร ยังให้ความเชื่อมั่นกับสมาชิกในการดำเนินการทางการเมืองและองค์กรอิสระ ว่าจะเที่ยงธรรมเป็นอิสระ เป็นกลาง สามารถเป็นที่พึ่งพาของพี่น้องประชาชนได้ สภาแห่งนี้จะเป็นหลักในการดำเนินการให้เกิดประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง


ส่วนความเชื่อมั่นของสมาชิกในการทำหน้าที่ในสภาร่วมกัน พลเอก เกรียงไกร กล่าวว่า เรามาจากหลากหลายกลุ่มอาชีพ ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนด ยึดมั่นในเกียรติของสมาชิกทุกท่าน พร้อมรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกทุกคน ในการดำเนินงานกิจการที่เกี่ยวข้อง ของสภาแห่งนี้อย่างเท่าเทียมกัน เคารพเสียงส่วนใหญ่แต่รับฟัง ไม่เพิกเฉยต่อเสียงส่วนน้อยที่เห็นต่าง

พลเอก เกรียงไกร ยังระบุว่า จะดำเนินการทุกอย่างให้วุฒิสภาเป็นที่ยอมรับเชื่อมั่นศรัทธาของพี่น้องประชาชน ให้ความสำคัญกับกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนในการทำงานร่วมกับเรา ทั้งทางตรง ทางอ้อม เพื่อประกอบการตัดสินใจของวุฒิสภาแห่งนี้ และสัญญาว่าจะกระทำในสิ่งที่ดีงาม เพื่อให้วุฒิสภาแห่งนี้เป็นสภาอันทรงเกียรติที่มีเพื่อนสมาชิกร่วมกันจรรโลงความดีงาม อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอันเป็นที่รักยิ่งของเราต่อไป

ทั้งนี้ การประชุมวุฒิสภา โดยมี พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ประธานชั่วคราว ดำเนินการเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และคนที่ 2 ซึ่งจะใช้หลักเกณฑ์ในการเลือกเดียวกับการเลือกประธานวุฒิสภา สว. 1 คน สามารถเสนอได้ 1 ชื่อ โดยจะต้องมีผู้รับรองไม่น้อยกว่า 10 คน


นายบุญส่ง น้อยโสภณ สว.เสนอชื่อ พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ เป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ด้านนายสหพันธ์ รุ่งโรจนพณิชย์ สว.เสนอชื่อนายนพดล อินนา เป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ขณะที่ น.ส.นิชาภา สุวรรณนาค สว.เสนอชื่อ ดร.ปฏิมา จีระแพทย์ เป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ส่วน น.ส.มณีรัตน์ เขมะวงศ์ เสนอชื่อ รศ.แล ดิลกวิทยรัตน์ เป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 โดยกำหนดให้แสดงวิสัยทัศน์ไม่เกินคนละ 5 นาที ตามลำดับ ดังนี้ พลเอกเกรียงไกร นายนพดล ดร.ปฏิมา และ รศ.แล .-319, 317 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก