“วรภพ” เชื่อดิจิทัลวอลเล็ตกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้

รัฐสภา 17 ก.ค.-“วรภพ” สส.ก้าวไกล เชื่อดิจิทัลวอลเล็ตไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเพียงการกู้เงินครั้งใหญ่ ห่วงเงื่อนไขการเข้าร่วมร้านค้าขนาดเล็ก จะกลายเป็นการกีดกันเข้าร่วมโครงการ แถมร้านสะดวกซื้อกลับได้ประโยชน์

นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 จำนวนไม่เกิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต มองว่า ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง เป็นเพียงโครงการกู้เงินครั้งใหญ่และทิ้งหนี้ไว้ให้กับประชาชน แต่จะเปลี่ยนเป็นพายุหมุนเข้าห้างร้านขนาดใหญ่แทน และที่แย่ที่สุด คือ การกีดกันร้านค้ารายย่อยในการร่วมโครงการ โดยเฉพาะเงื่อนไขห้ามร้านค้าแลกเป็นเงินสุดในการรับเงินดิจิทัล


นายวรภพ กล่าวว่า ถ้าเป้าหมายของการแจกเงิน คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ เงื่อนไขของมาตรการนี้ต้องทำให้เกิดการกระจายรายได้สูงสุด เกิดการหมุนเหวียนให้กับผู้ประกอบการรายย่อยให้มากที่สุด แต่เมื่อดูเงื่อนไขของโครงการนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น

นายวรภพ กล่าวว่า เงื่อนไขของโครงการออกแบบกีดกันร้านค้ารายย่อย ทั้งขนาดเล็กและขนาดกลางที่สายป่านไม่ยาวพอ เนื่องจากร้านค้าไม่สามารถถอนเงินสดได้ทันทีหลังประชาชนใช้จ่าย แต่ร้านค้าจะถอนเป็นเงินสดได้เมื่อมีการใช้จ่ายตั้งแต่รอบ 2 เป็นต้นไป ซึ่งร้านค้าจะหาเงินจากไหนมาหมุนจ่ายค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ใช้เงินดิจิทัลไปจ่ายต่อไม่ได้


“การตั้งเงื่อนไขร้านค้าที่รับเงินดิจิทัลมาแล้วแลกเป็นเงินสดไม่ได้ คือการกีดกันร้านค้ารายย่อยออกจากโครงการเงินดิจิทัลเอง…ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนว่า คนที่คิดนโยบายไม่เคยเป็นผู้ประกอบการรายย่อย ไม่ต้องหมุนเงิน ถึงคิดเงื่อนประหลาดโลกขึ้นมา ที่มีประเทศไหนเขาคิดกัน” นายวรภพ กล่าว

นายวรภพ ตั้งข้อสังเกตว่า เงื่อนไขที่ให้ร้านค้าไม่สามารถถอนเงินสดได้ตั้งแต่รอบแรก ทำไมถึงรวมร้านสะดวกซื้อไว้ด้วย หรือเป็นเพราะรัฐบาลกังวลว่า จะไม่มีร้านค้าขนาดเล็กเข้าร่วมในโครงการนี้หรือไม่ จึงเปิดช่องให้ร้านสะดวกซื้อจึงเป็นร้านค้าขนาดเล็กด้วย

นอกจากนี้ ร้านค้ารายย่อยที่รายได้ไม่ถึงเกณฑ์​ที่ต้องเสียภาษี ทำไมโครงการดิจิทัล กลับมาตั้งเงื่อนไขที่กีดกันร้านค้ารายย่อยที่ทำถูกกฏหมายออกไป ตั้งเงื่อนไขที่ต่างกับร้านค้ารายใหญ่ ที่รับเงินดิจิทัลจากรายย่อยมาก็สามารถแลกเป็นเงินสดได้ทันที หากร้านค้ารายย่อยถูกกีดกันออกจากซัพพลายเชน จากห่วงโซ่เศรษฐกิจมากเท่าไร จะกลายเป็นการสูบเงินจากซัพพลายเชนรายย่อยด้วยกัน กลับเข้าสู่ห้างร้านเจ้าสัวทั้งหมด


“ผมคิดว่า เป็นเงื่อนไขที่เลือดเย็นมาก ที่ต้องการเปลี่ยนมูลค่าเศรษฐกิจไปกระจุกกองที่ห้างร้านเจ้าสัวอย่างเป็นระบบ อยากให้นึกตามง่ายๆ จากเดิมจะซื้อลูกชิ้นหน้าปากซอย แต่ถ้ารถเข็นลูกชิ้นไม่รับเงินดิจิทัล คนก็ไปซื้อร้านสะดวกซื้อแทน แถมรายได้เดิมเขาก็จะหายไปด้วย” นายวรภพ กล่าว.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข