โฆษกรัฐบาล เผยโรงงานเปิดกิจการใหม่ 848 แห่ง สูงกว่าจำนวนปิดตัว

ทำเนียบ 12 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล แจงกรณีโรงงานปิดกิจการเพิ่มเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ยันข้อมูลตัวเลข ม.ค.-พ.ค.67
โรงงานเปิดกิจการใหม่ 848 แห่ง สูงกว่าจำนวนปิดตัว 73.77% ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญความอยู่รอดของผู้ประกอบการ

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการปิดกิจการโรงงานในปัจจุบัน ซึ่งข้อเท็จจริงคือ เป็นธรรมดาที่ในแต่ละปีย่อมมีทั้งกิจการโรงงานที่ต้องปิดตัวลงและเลิกจ้างงาน ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุด้วยกัน ในขณะเดียวกันก็มีกิจการโรงงานใหม่ ๆ มาทดแทน พร้อมกับการจ้างงานใหม่ที่เกิดขึ้น


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เมื่อพิจารณาตัวเลขจำนวนโรงงานที่ปิดตัวลง กับโรงงานที่เปิดใหม่จะพบว่า ภาพรวมการดำเนินกิจการโรงงานในปัจจุบันยังคงขยายตัว โดยข้อมูลจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมพบว่าระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2567 มีโรงงานเปิดกิจการใหม่ 848 โรงงาน มีโรงงานขยายกิจการ 126 โรงงาน ขณะเดียวกันมีโรงงานปิดกิจการ 488 โรงงาน อัตราส่วนจำนวนโรงงานเปิดใหม่สูงกว่าปิดกิจการถึง 73.77%

โดยในช่วงระยะเวลา ตั้งแต่มกราคม-พฤษภาคม 2567 มีมูลค่าการลงทุนของการเปิดโรงงานใหม่ในประเทศไทยถึง 149,889 ล้านบาท ส่วนโรงงานเดิมที่มีการขยายกิจการมีการลงทุนเพิ่มขึ้น 11,748 ล้านบาท ในขณะที่การปิดกิจการคิดเป็นมูลค่า 14,042 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีเงินลงทุนมากกว่าปิดกิจการกว่า 10 เท่า นอกจากนี้ ในด้านการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม การเปิดโรงงานใหม่มีการจ้างงานถึง 33,787 คน ส่วนการปิดกิจการมีการเลิกจ้างงาน 12,551 คน แสดงให้เห็นว่าการจ้างงานมีมากกว่าการเลิกจ้างงานจากการปิดกิจการคิดเป็น 169%


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้วางนโยบายเพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรม ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว โดยในระยะสั้น ได้แก่ การกระตุ้นตลาดในประเทศ ออกมาตรการกระตุ้นการซื้อสินค้าจากผู้ผลิตในประเทศ พัฒนาสมรรถนะแรงงานด้านเทคโนโลยีการผลิตในประเทศ สนับสนุนเงินทุนเพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่อง เชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิต และส่งเสริมการลงทุน รวมทั้งมาตรการระยะยาว ได้แก่ มุ่งปรับอุตสาหกรรมให้ตอบโจทย์ต้องการของโลก พัฒนาปัจจัยแวดล้อมที่เอื้ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ สร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่โลกต้องการ และส่งเสริม Green Productivity เพิ่มผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรม สร้างความเข้มแข็งควบคู่ไปกับความยั่งยืน

“นายกรัฐมนตรี มุ่งขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมให้เติบโต และเมื่อพิจารณาจากตัวเลขของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตัวเลขการเปิดตัวของโรงงานยังเป็นไปด้วยดี และดีกว่าตัวเลขในสองปีก่อนหน้านี้ รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานยังมีสูงกว่าการเลิกจ้างมาก แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ให้ความสำคัญกับความอยู่รอดของผู้ประกอบการ การดำรงชีวิต วิถีชีวิตของพี่น้องประชาชน พร้อมส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมในประเทศด้วยมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาวอย่างครอบคลุมถึงอุตสาหกรรมอนาคต ทั้งนี้ ขอชี้แจงด้วยหลักฐานและเหตุผล การดำเนินกิจการต้องปรับตัว เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลกธุรกิจเป็นธรรมดา ซึ่งรัฐบาลได้วางแนวทางให้การช่วยเหลือประชาชนให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ” นายชัย กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โรงสีข้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โกดังโรงสีข้าว หลังคาทะลุ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ด้านโรงสีไม่ได้แจ้งความหรือดำเนินคดี