ร.อ.ธรรมนัส ยัน “ปุ๋ยคนละครึ่ง” ไม่ล็อกสเปก

ทำเนียบ 9 ก.ค.-ร.อ.ธรรมนัส รมว.เกษตรฯ ชี้ปุ๋ยคนละครึ่ง ต้องถามความเห็นเกษตรกร ยืนยันไม่ล็อกสเปก เปิดโอกาสทุกบริษัทร่วมโครงการ แจงไม่ได้ยกเลิกเงินอุดหนุนไร่ละ 1,000 บาท ยังช่วยเหลือหากเกิดวิกฤต

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ว่าเป็นความเห็นชอบของคณะกรรมการ นโยบายข้าวแห่งชาติ ซึ่งเป็นการเรียกร้องของชาวนา จึงได้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หลังจากนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมการข้าว จะตั้งคณะกรรมการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจะเป็นที่ต้องการของชาวนาหรือไม่นั้นต้องดูว่าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์หรือ ธ.ก.ส.เปิดให้เกษตรกรลงทะเบียน ว่าสนใจโครงการนี้หรือไม่ ซึ่งต้องดูตรงนี้ไม่ใช่ไปบังคับ หรือยัดเยียดให้เกษตรกร เรื่องนี้เกษตรกรต้องการหรือไม่ จะต้องแยกกันเพราะบางคนออกไปวิพากษ์วิจารณ์ ว่าเป็นการเพิ่มภาระให้เกษตรกร เกษตรกรที่ไม่มีความพร้อมไม่เข้าร่วมโครงการก็ไม่ได้ไปบังคับ เมื่อเกษตรกรลงทะเบียนแล้ว ยังต้องไปเข้าแอปพลิเคชันของ ธ.ก.ส. ซึ่งเงินจะไม่ผ่านระบบราชการ แต่สิ่งสำคัญที่สุดหลายคนไปมองว่ามีการล็อกสเปก ล็อกสูตรปุ๋ย ล็อกบริษัทหรือไม่ แต่เรื่องนี้เปิดโอกาสให้ทุกบริษัท เข้าร่วมโครงการ โดยลงทะเบียนผ่านกรมวิชาการเกษตร ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบคุณภาพปุ๋ย เป็นเรื่องของการพัฒนาคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรประเภทข้าว


ส่วนที่ชาวนาต้องการไร่ละ 1,000 บาทไม่ได้ต้องการปุ๋ยคนละครึ่ง เป็นส่วนที่รัฐอุดหนุน ให้กับเกษตรกรที่มีปัญหา จากปัญหาพืชผลราคาตกต่ำ ภัยแล้ง น้ำท่วม เป็นคนละส่วนกับโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ซึ่งโครงการดังกล่าวยังมีอยู่หากเกิดวิกฤตกับชาวนา

ส่วนกรณีที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีสั่งให้ทบทวนโครงการปุ๋ยคนละครึ่งนั้น ร้อยเอกธรรมนัสระบุว่า เป็นขั้นตอนที่ไม่ให้หน่วยงานราชการเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ เพื่อให้เกิดเกษตรกรได้ปุ๋ย สำหรับพัฒนาคุณภาพข้าว


ทั้งนี้ที่ผ่านมารัฐบาลได้แถลงข่าวว่าเมื่อมีโครงการปุ๋ยคนละครึ่งจะไปยกเลิกการจ่ายเงินเงินอุดหนุนไร่ละ 1,000 บาท ร้อยเอกธรรมนัสระบุว่าเป็นการนำสองเรื่องมารวมกัน หากโครงการปุ๋ยคนละครึ่งผ่านไปแล้วแต่ชาวนายังเดือดร้อน จากภัยธรรมชาติ ก็เป็นเรื่องที่รัฐต้องเข้าไปช่วยเหลือเป็นปกติอยู่แล้ว.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย