รร.อัศวิน 1 ก.ค.- ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย (AACC) เชื่อไทยได้ประโยชน์ รับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่างประเทศเจอการเมืองกดดันเช่นเดียวกับไทย เล็งใช้เวทีนี้ปรับทุกข์-แนะนำ-ให้กำลังใจกัน
นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และนายนพดล เทพพิทักษ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แถลงข่าวศาลรัฐธรรมนูญเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย หรือ AACC ครั้งที่ 6 วันที่ 17-21 กันยายน 2567 ที่ภายใต้หัวข้อหลัก “Constitutional Courts and Equivalent Institutions in Strengthening Constitutional Justice for Sustainable Society ,: ศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าในการเสริมสร้างความยุติธรรมทางรัฐธรรมนูญเพื่อสังคมที่ยั่งยืน” ซึ่งจะมีประธานศาลรัฐธรรมนูญกว่า 10 ประเทศมาเยือนประเทศไทย
นายนพดล เทพพิทักษ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่าการประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมของสมาคมศาลรัฐธรรมนูญฯ ในหลายประเทศ ซึ่งมีสมาชิก 21 ประเทศ สะท้อนว่าทั่วโลกมีศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นและศาลเป็นเสมือนหนึ่งการสะท้อนถึงประชาธิปไตย ศาลรัฐธรรมนูญรักษาดุลยภาพระหว่างสถาบันบริหารกับสถาบันนิติบัญญัติ เพื่อปกป้องไม่ให้ผู้บริหารหรือฝ่ายนิติบัญญัติ ออกกฏหมายริดรอนสิทธของประชาชน ศาลจะเช็คว่ากฎหมายที่ออกมาขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และหลักรูออฟลอว์
อีกทั้งการประชุมครั้งนี้มีความสำคัญเพราะการเป็นประธานไม่ใช่เรื่องง่าย ประเทศไทยได้รับเลือกได้เป็นประธานหมายความว่าทั่วโลกเห็นความสำคัญของสมาชิก และประธานมีบทบาทสำคัญในการกำหนดหัวข้อการประชุม ให้เป็นในทิศทางต้องการ โดยหัวข้อการประชุมครั้งนี้พูดถึงเรื่อง “ศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าในการเสริมสร้างความยุติธรรมทางรัฐธรรมนูญเพื่อสังคมที่ยั่งยืน”
“เราไม่ได้มองแก้ไขปัญหาไปวันวันเรามองว่าจะทำอย่างไรให้ศาลรัฐธรรมนูญดำรงไว้ซึ่งหลักนี้ทำความเป็นประชาธิปไตยและปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างยั่งยืนไม่ให้ถูกเปลี่ยนแปลงหรือคนล้มโดยอำนาจนิยม ซึ่งประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญมาหลายฉบับ” นายนพดล กล่าว
นายนพดล ยังคาดหวังจะออกคำประกาศ หรือจุดมุ่งหมายในการจัดประชุม เพราะให้โลกดำเนินต่อไปในทิศทางที่ต้องการ ซึ่งจะต้องขอความเห็นชอบจากประเทศสมาชิก
นายนพดล ยังกล่าวถึงข้อดีที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม AACC ว่าเมืองไทยได้เป็นประธานก็มีสิทธิจะกำหนดหัวข้อการประชุม ซึ่งย่อมไม่เลือกหัวข้อที่จะทำให้เสียประโยชน์หรือเป็นปัญหา ซึ่งทุกประเทศที่เป็นประธานก็จะคิดเช่นกันในการกำหนดหัวข้อ เมื่อไทยไปเข้าร่วมก็อาจจะผูกพันสำนักงาน ถ้าปลูกภายในทางบวกก็ดีไปแต่ถ้าผูกพันในทางลบก็ไม่ดี อาจไม่เข้าร่วมเมื่อมีการตกลงเกิดขึ้นฝ่ายไทยก็ต้องยอมรับและรับผล ดังนั้นการเป็นประธานก็ได้สิทธิ์ในฐานะประธานในการวินิจฉัยชี้ขาด ดังนั้นเมื่อไทยเป็นฝ่ายจัดก็ง่ายที่จะคุม ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญทั้งประเทศที่เผชิญเหมือนกันคือการถูกกดดันจากฝ่ายการเมือง ดังนั้นเวทีนี้จะเป็นการให้คำแนะนำ ปรับทุกข์ ให้ Moral supports ซึ่งกันและกัน แต่ต้องอยู่บนหลักการตุลาการต้องเป็นกลาง มีอิสระ ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน รักษาสิทธิมนุษยชน ยึดหนักนิติรัฐและนิติธรรม
ด้านนายนครินทร์ กล่าวเสริมว่าตุลาการมีหน้าที่วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ และยอมรับว่าศาลถูกกดดัน ซึ่งได้มีการปรับทุกข์กับตุลาการเรื่องนี้บ่อยมาก และเชื่อว่าตุลาการของประเทศอื่นก็น่าจะเจอเช่นเดียวกัน
ส่วนการประชุมจะมีคดีสำคัญสำคัญที่จะต้องพิจารณา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญประเทศอื่นๆก็ให้ความสนใจมีความหนักใจหรือไม่ นายนครินทร์ กล่าวว่าไม่มีอะไรหนักใจ ก็เป็นกระบวนการพิจารณาไปตามกำหนดเวลาที่ได้รับแจ้งมา มีการส่งคำร้องให้คู่กรณีดู ตรวจสอบพยานหลักฐาน อาจตุลาการคิดว่าพร้อมก็ตัดสินคดีไปไม่มีอะไรน่าหนักใจเพราะเป็นไปตามกระบวนการปกติ .-319 -สำนักข่าวไทย