ครม.อนุมัติงบกลาง อพยพคนไทยในอิสราเอล

ทำเนียบรัฐบาล 25 มิ.ย.-“รองโฆษกฯ” เผย ครม.มีมติอนุมัติวงเงินงบประมาณรายจ่ายฯ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 291,953,797 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือและอพยพคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบในอิสราเอล


นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 291,953,797 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือและอพยพคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในรัฐอิสราเอล (เพิ่มเติม) แก่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ

นายคารม กล่าวว่า สาระสำคัญของเรื่อง มีดังนี้


  1. สถานการณ์ความไม่สงบจากภาวะสงครามในรัฐอิสราเอลได้ส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของคนไทยที่พำนักอยู่ในรัฐอิสราเอล จำนวนกว่า 30,000 คน ซึ่งจากจำนวนดังกล่าวมีคนไทยที่อาศัยอยู่ในบริเวณฉนวนกาซาอันเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงประมาณ 5,000 คน กต. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ความช่วยเหลือและอพยพคนไทยออกจากรัฐอิสราเอลในระหว่างวันที่ 11 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2566 แล้ว จำนวน 7,470 คน โดยมีสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการประสานกับคนไทยในพื้นที่เพื่อดำเนินภารกิจดังกล่าว
  2. กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินภารกิจการให้ความช่วยเหลือและอพยพคนไทยออกจากรัฐอิสราเอลตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในรัฐอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยที่ผ่านมา กต. ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นแล้ว รวม 3 รายการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 515,362,829.80 บาท ดังนี้
    (1) ค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือและอพยพคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในรัฐอิสราเอล ครั้งที่ 1 วงเงิน 97,000,000 บาท
    (2) ค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือและอพยพคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในรัฐอิสราเอล ครั้งที่ 2 วงเงิน 319,043,700 บาท
    (3) เงินชดเชยค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับประเทศไทยเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในรัฐอิสราเอล ระหว่างวันที่ 7 ตุลาคม – 7 พฤศจิกายน 2566 แก่ผู้ที่ทดรองจ่ายค่าใช้จ่ายไปก่อน วงเงิน 99,319,129.80 บาท

และในครั้งนี้ (ครั้งที่ 3) กต. ได้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (เพิ่มเติม) จำนวน 291,953,797 บาท สำหรับ กต. และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงกลาโหม (กห.) กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) และกระทรวงแรงงาน (รง.) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือและอพยพคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในรัฐอิสราเอล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบด้วยแล้วตามความเห็นของสำนักงบประมาณ (สงป.) รวมทั้ง กห. ยธ. รง. และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นชอบด้วย -317 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย