“ปกรณ์วุฒิ” ฉะรัฐบาลวางแผนงบฯ 68 ไม่รอบคอบ

รัฐสภา 21 มิ.ย.-“ปกรณ์วุฒิ” สส.ก้าวไกล ฉะรัฐบาลวางแผนงบฯ 68 ไม่รอบคอบ เสนอตั้งตัวชี้วัดการใช้งบฯ ก้าวให้ทันโลก ย้ำรัฐบาลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพราะจะไม่มีใครที่ได้ก้าวไปข้างหน้าเลยแม้แต่คนเดียว

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. พรรคก้าวไกล กล่าว อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ว่าเทคโนโลยีดิจิทัลคือสิ่งที่เปลี่ยนโลกในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา และจะเปลี่ยนโลกเร็วยิ่งกว่าเดิม ในเวลาอันใกล้นี้ และนับจากวันนี้อีก5-10 ปีการก้าวตามไม่ทันโลกและไขว่คว้าโอกาสที่ปล่อยให้หลุดลอยไปหลายครั้งเป็นเดิมพันที่สูงมากสำหรับประเทศไทย เพราะหากล้มเหลวจะทำให้ถูกนำหน้าไปโดยไม่เห็นแม้แต่ฝุ่น และงบกระทรวงดิจิทัลเพิ่มขึ้นกว่า 5,000 ล้านบาท ก็ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์ว่าประเทศไทยมุ่งมั่นจริงจังหรือการการันตีความสำเร็จพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล


โดยการจัดงบประมาณครั้งนี้ขาดการวางแผนและไม่มีความเข้าใจ ไม่มีการวางยุทธศาสตร์ให้ชัด คนสั่งไม่รู้เรื่อง คนไปต่อก็ทำไม่เป็น สุดท้ายโยนงบประมาณลงไป และหวังว่าจะประสบความสำเร็จแต่ไม่มีการถอดบทเรียนจากความผิดพลาดในอดีต และจะสร้างปัญหาเดิมให้เกิดในอนาคต ซึ่งการจัดงบด้านดิจิทัลจะต้องทำให้ประชาชนได้รับความปลอดภัย-ได้รับความสะดวก-และได้รับโอกาส

โดยเสนอแนะให้ตั้งตัวชี้วัดการใช้งบประมาณของศูนย์ AOC โดยใช้เวลารอสายของประชาชนเฉลี่ยลดลงและประสานงานเพื่อระงับบัญชีได้เร็วขึ้น ถ้าของบเพิ่มสภาก็ยินดีแต่ถ้าหากไม่ทราบว่าจะนำงบมาจากไหนให้ยุคศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม


พร้อมติงหากมี 2 หน่วยงานทำหน้าที่เตือนภัยผ่านเซลบอร์ดแคส อาจสร้างความสับสนต่อหน่วยงาน ภาคเอกชน หรือเกิดความซ้ำซ้อนกัน โดยเฉพาะปี 68 มีการตั้งงบโครงการนี้ 344 ล้านบาท โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งเห็นว่าเป็นงบยัดไส้ด้วยตัวชี้วัดไม่เกี่ยวกับโครงการ หากสภาอนุมัติงบโครงการนี้จะกลายเป็นงบที่เปล่าประโยชน์และก่อให้เกิดปัญหาในอนาคตตามมา จึงเสนอให้ตัดงบระบบเตือนภัยฉุกเฉิน

“จะเอาให้ได้จนเอามายัดไส้ไว้ในแผนงานที่ตัวชี้วัดไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการเตือนภัยประชาชนเลยและระหว่างที่แย่งชิงงบนี้อยู่ ทราบข้อมูลมาว่าตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะกำหนดมาตรฐานการแบ่งระดับเตือนภัยว่าแบ่งเป็นกี่ระดับ เตือนอะไรบ้าง ภัยแบบไหน ที่ระดับร้ายแรงที่สุด หรือภัยร้ายแรงรองลงมา เหลืออีก4 เดือน จะครบปีที่ได้ขอไว้ทำงานแบบนี้จะทันได้อย่างไร” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

นายปกรณ์วุฒิเสนอแนะการใช้บริการคลาวด์เพื่อเก็บข้อมูลของภาครัฐ จะคุ้มค่ากว่าการใช้ดาต้าเซ็นเตอร์ และประหยัดงบประมาณ นโยบายรัฐบาล คลาวด์เฟิร์ส และเสนองบประมาณตั้งงบยุทธศาสตร์เชื่อมแอพพลิเคชั่นขอวรัฐ 700 ล้านบาท พร้อมกำหนดคุณสมบัติมาตรฐานพลับบิคคลาวด์ ยังเปิดเผยข้อมูลงบประมาณเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ปี 2567 และปี 2568 พบว่ารวมกันเกือบ 2,500 ล้านบาท โดยเสนอแนะให้กรรมาธิการไปตรวจสอบโครงการระบบให้บริการข้อมูลประชาชนผ่านระบบอัตโนมัติ Bora AI Chatbot วงเงิน 9,600,000 บาทของกรมการปกครอง จังหวัดปทุมธานี ว่าเป็น AI จริงหรือไม่หรือเป็นคีย์เวิดเแชทบอร์ด


พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า “นี่คือการเตรียมพร้อมความเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเทคโนโลยีคลื่นใหญ่ของโลก เอาเวลาออกอีเวนท์ถ่ายรูปเอาน่ามาทำงานบ้าง งบประมาณด้านดิจิทัลปี 2568 สะท้อนว่ารัฐบาลไม่ได้มีความเข้าใจไม่มีวิสัยทัศน์ที่จะนำพาประเทศไปสู่สังคมโลกยุคดิจิทัล ไม่ถอดบทเรียนจากอดีตเพิกเฉยละเลยกับอนาคตของประเทศ มีแค่บัส Word สวยหรูกับสั่งการลอยๆไม่มีความเข้าใจไม่มีความพร้อมมีแต่สารปัญหาต่อก่อปัญหาใหม่ประกาศนโยบายไปแต่ทำอะไรไม่เป็นถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่บอกได้เลยว่ารัฐบาลนี้จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังเพราะจะไม่มีใครที่ได้ก้าวไปข้างหน้าเลยแม้แต่คนเดียว”.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน

นายกฯ ขีดเส้น 30 วัน ออกมาตรการคุมสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ

นายกฯ สั่ง พาณิชย์-ดิจิทัลฯ เข้ม 3 มาตรการ คุมสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศให้มีคุณภาพ ขีดเส้นให้เสร็จภายใน 30 วัน

“มาริษ” ประท้วงอิสราเอล หลังแรงงานไทยดับ 4

“มาริษ” รมว.ต่างประเทศ ร่อนหนังสือ​ประท้วงอิสราเอล หลังแรงงานไทยดับ 4 เจ็บ 1 ให้ยุติส่งเข้าพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมยับยั้งชั่งใจ ป้องกันความขัดแย้งขยายตัว ขอคนไทยชะลอการเดินทางไปอิสราเอล-ตะวันออกกลาง