ผู้นำฝ่ายค้านผิดหวังงบฯ 68 ซัดดันทุรังทำ “ดิจิทัลวอลเล็ต”

รัฐสภา 19 มิ.ย.- “ชัยธวัช” ซัดจัดงบฯ 68 น่าผิดหวัง ดันทุรังทำ “ดิจิทัลวอลเล็ต” แขวะทำแบบเจ๊งไม่ว่าแต่เสียหน้าไม่ได้ เอาอนาคตประเทศเป็นเดิมพัน ชี้แนวคิดจัดงบเสี่ยงเกิด “หลุมดำ” ดูดเม็ดเงินออกนอกประเทศ ด้าน “องครักษ์เพื่อไทย” ทำหน้าที่ รับไม่ได้พูดว่า “เจ๊ง” บอกไม่สุภาพ-เสียดสี-ใส่ร้าย


นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ว่า งบที่ตั้งสูงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เงินใช้จ่ายมาจาก 2 ส่วน คือรายได้และเงินกู้ เป็นการจัดงบขาดดุลต่อเนื่อง 2 ปี ขณะที่การประมาณการรายได้ของรัฐบาล 2,887,000 ล้านบาทเป็นการจัดสรรงบประมาณที่น่าผิดหวัง แบบหมดหวัง เพราะคงการจัดสรรงบประมาณเหมือนเดิมเพิ่มเติมโครงการใหม่ คือ เติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต รัฐบาลจัดงบเหมือนมียุทธศาสตร์ มีคำพูดสวยหรูเต็มไปหมด แต่พอลงรายละเอียดก็ซ้ำซาก ซ้ำซ้อน เบี้ยหัวแตก มองไม่เห็นเป้าหมายทางนโยบายที่ชัดเจน จับต้องได้ ตัวชี้วัดใช้ไม่ได้ ใช้งบประมาณแบบไม่สนใจผลลัพธ์ในทางปฏิบัติ ซึ่งงบปี 67 ยังมีโครงการใหม่ 236 โครงการ แต่งบปี 68 กลับมีโครงการใหม่เพียง 163 โครงการ เป็นเหล่าเก่าในขวดใหม่ไม่มีอะไรใหม่ ไม่สนใจผลลัพธ์ในทางปฏิบัติ ทั้งนี้ในส่วนของรายจ่ายในการลงทุนจำนวนมาก ไม่มีนัยสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ยึดโยงเครือข่ายการเมืองและผลประโยชน์ที่ผลักดันให้รัฐบาลเข้าสู่อำนาจจำนวนมาก จัดงบยุทธศาสตร์ แบบไม่มียุทธศาสตร์

นายชัยธวัช กล่าวการจัดงบของรัฐบาล ตั้งแต่ปี 67 ถึงปี 68 รัฐบาลไม่มีวาระทางุยทธศาสตร์ที่ชัดเจน แต่ละกระทรวงต่างคนต่างทำและไร้ทิศทาง ตนพบว่าผู้นำรัฐบาลถนัดสั่ง จึงมีข้อสั่งการจำนวนมาก แต่ไม่มีแนวทางปฏิบัติมอบหมายราชการให้ทำอย่างไรหรือไม่ ทำให้เห็นว่าการจัดทำงบฯ 68 เป็นการนำโครงการเดิมเปลี่ยนป้ายใหม่ มาสรุปภาพรวม ตัวเลขสวยว่าตอบสนองยุทธศาสตร์ใหม่ของรัฐบาลแล้ว


นายชัยธวัช กล่าวด้วยว่า หากมีสิ่งใหม่ ตนพบว่ามีเพียงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีความพยายามผลักดัน ระดับดันทุรัง แบบเจ๊งไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ โดยงบที่ทำโครงการดังกล่าว ถูกจัดไว้ในงบกลาง ส่วนของค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข้งของระบบเศรฐกิจ วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท คิดเป็น 18.9% ของงบกลาง หากไม่พอ รัฐบาลจะของบกลางปี67 จำนวน 1.2แสนล้านบาท หากไม่พอ ออกกฎหมายโอนงบจากงบฉุกเฉินเพิ่มเติมอีก หรือ กู้ ธกส. ทั้งนี้ความพยายามจัดสรรงบเพื่อใช้โครงการดังกล่าว เสี่ยงทำให้เกิดปัญหาทางการคลังทั้งเฉพาะหน้าและระยะยาว เพิ่มภาระค่าใช้จ่าย การจ่ายหนี้ภาครัฐสูงขึ้นในอนาคต และเสียพื้นที่ทางการคลัง หากมีใช้จ่ายฉุกเฉินหรือลงทุนภาครัฐขนาดใหญ่

นายชัยธวัช กล่าวว่าเหตุที่รัฐบาลต้องผลักดัน เพราะต้องการรักษาหน้าพรรคแกนนำรัฐบาล ที่เจอปัญหาการเมือง ในวิกฤติความชอบธรรม ที่ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่น พลิกฟื้นเศรษฐกิจปากท้องได้ ดังนั้นเพื่อฟื้นควาเชื่อมั่น รัฐบาลต้องผลักดันนโยบายเรือธง คือ แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อให้ประชาชนมีความหวังว่าได้เงินหมื่นเพื่อไปใช้สอย ทั้งนี้เราไม่ต้องการรัฐบาลที่สายตาสั้น แต่ต้องการรัฐบาลที่ผลักดันนโยบายที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ มีเจตจำนงผลักดันนโยบายตอบโจทย์ประเทศ ไม่ใช่ตอบโจทย์การเมืองของพรรคแกนนำรัฐบาล

“ดันทุรังทำแบบเจ๊งไม่ว่าแต่เสียหน้าไม่ได้นโยบาย โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นนโยบายเพื่อใช้หาเสียงเท่านั้น เนื่องจากไม่คิดให้จบ ให้รอบคอบแต่แรก ยึดแต่กรอบคิดเดิม ที่ใช้ประโยชน์ได้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่มันไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในวันนี้แล้ว การกระตุ้นการบริโภคโดยการอัดเงินลงไปในระยะสั้น จะไม่ได้นำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจได้ง่ายๆ อีกแล้ว เพราะจะเจอปัญหาช่องทางเงินไหลออกที่เปรียบเสมือน “หลุมดำ 2 หลุม” ที่คอยดูดเม็ดเงินออกจากระบบเศรษฐกิจในประเทศ การจัดงบเพื่อตอบโจทย์ทางการเมืองของรัฐบาล ไม่ตอบโจทย์ประเทศ ถ้าสุดท้ายไม่สามารถตอบโจทย์ ได้จริงก็จะเป็นการจัดสรรงบประมาณที่ไม่ได้เอาโจทย์ของประเทศเป็นตัวตั้ง แต่เป็นการเอาโจทย์ของพรรคแกนนำรัฐบาล เอาโอกาสและอนาคตของประเทศ มาวางเป็นเดิมพัน อย่างที่บอกว่าประเทศเจ๊งไม่ว่าจะต้องรักษาหน้าพรรคแกนนำรัฐบาลให้ได้” นายชัยธวัช กล่าว


นายชัยธวัช กล่าวว่า บทสรุปสำหรับร่างพ.ร.บ.งบฯ 68 คือ การจัดสรรงบที่สะท้อนให้เห็นว่าจากปัญหาความไม่ชอบธรรมทางการเมืองจากการจัดตั้งรัฐบาล จึงเป็นคนละโจทย์ของประเทศ จัดสรรงบที่มักง่ายที่สุด สุ่มเสี่ยงที่สุด เพราะรัฐบาลนำทรัพยากรประเทศมุ่งแก้ปัญหาวิกฤติการเมืองของตนเอง เอาโอกาสและอนาคตของคนไทย ประเทศวางเดิมพันอย่างไม่รับผิดชอบ วิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND เป็น IGNORE THAILAND เจ๊งไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ และเป็นเหตุผลที่ไม่เห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายชัยธวัช อภิปรายมีการประท้วงจาก นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า ยกแรกตนไม่อยากขัดจังหวะ แต่คำว่าเจ๊งไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ ไม่สุภาพ เสียดสี ใส่ร้าย แต่นายวันมูมะมัดนอร์ ให้นายชัยธวัชอภิปรายต่อไปได้.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]