“สว.สมชาย” จี้ กกต. เร่งสอบ ฮั้วเลือก สว.

รัฐสภา 4 มิ.ย.-“สว.สมชาย” ขู่ ฮั้วเลือก สว. ติดคุกยกแผงแน่ แนะรีบสารภาพ ได้กันตัวเป็นพยาน จี้ กกต. เร่งสอบ หลังพบหลายจังหวัดส่อเค้าเกณฑ์เลือก บอก 149 คนแค่ภูเขาน้ำแข็ง พบต้นเหตุใหญ่คือกฎหมายลูกเปิดช่องไม่ต้องเลือกตัวเองได้

นายสมชาย แสวงการ สว. ในฐานะประธานกรรมาธิการสิทธิ มนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ออกมาเปิดเผยข้อมูล “โพยก๊วนฮั้วเลือก สว.” และมีรายชื่อระดับประเทศออกมา 149 คนว่า โพยที่เกิดขึ้นมาจากแหล่งข้อมูลดิบ ที่ตนคิดว่า ทำหน้าที่ตรวจสอบการเลือก สว. เพื่ออยากให้ได้ สว.ที่เป็นตัวแทนกลุ่มอาชีพ ทั้ง 20 กลุ่มด้วยความซื่อสัตย์เที่ยงธรรม และสุจริตตามที่ กกต.ต้องการ มาแทน สว.ชุดตนจะได้หมดห่วง และเป็นรูปแบบใหม่ของ สว.ที่เลือกกันเอง ซึ่งตนได้ข้อมูลติดตามและจะนำเข้าหารือในที่ประชุมกรรมาธิการวันนี้ เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการติดตาม ให้ได้ สว.ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ไม่ใช่มาจากการฮั้ว ประเด็นเรื่องโพยนี้ได้ถูกส่งไปตามกลุ่มต่างๆ ทั้งที่ตน ในโซเชียลรวมถึงกลุ่มสื่อมวลชน เป็นประเด็นต่อเนื่องที่มีการร้องกันตั้งแต่จังหวัดสมุทรสาคร ที่ต่างอาชีพกำหนดกลุ่มผิด เช่นกลุ่มทำนาเกลือแต่ไปอยู่ในกลุ่มทำนาข้าว ว่าคนเหล่านั้นมีประสบการณ์ 10 ปีจริงหรือไม่ และยังมีอาชีพอื่นเช่น เด็กปั๊ม มาสมัครตัวแทนด้านพลังงาน หรือ อสม. ที่อบรม 12 ชั่วโมงแต่มาสมัครกลุ่มแพทย์ ที่ใช้เวลาเรียนถึง 6 ปี ซึ่งหากได้รับเลือกเข้ามา จะทำหน้าที่ต่างจากอาชีพจริงหรือไม่ และตนยังได้รับรายงานจากบางพื้นที่ว่ามีการสมัครในกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำ โดยใช้คุณสมบัติว่าเป็นกรรมการบริหารน้ำหมู่บ้าน ซึ่งทำให้มีการยกตัวอย่างว่าถ้าเป็นเช่นนี้ รปภ. ที่ประจำอยู่ที่ศาล สามารถสมัคร เป็นตัวแทนในกลุ่มนักกฎหมายได้หรือไม่ ตนจริงต้องออกมาทักว่ากติกาเหล่านี้ เกิดจากรัฐธรรมนูญด้วยการเลือกสว. ที่เพิ่งตรวจเจอ ว่ามีมาตราที่เป็นปัญหา ที่ทำให้ สามารถจัดคนมาลง เกิดการฮั้วและบล็อกโหวตได้ คือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือก สว. มาตรา 40 41 และ 42 (3) ที่ เขียนบอกให้ผู้เลือกในระดับอำเภอ จังหวัดและประเทศ เลือกตนเองก็ได้ นั่นหมายความว่าไม่เลือกก็ได้ ซึ่งเป็นการ เปิดช่องให้คนที่รับจ้างเข้ามาสามารถเลือกคนอื่นได้หมด ถือเป็นการผิดเจตนารมณ์ ที่ไม่ได้เปิดให้สมัครมาเป็นผู้โหวต แต่ให้สมัครมาเป็น สว. และการที่มารณรงค์บอกว่าผู้มาสมัครกว่า 48,000 คนน้อยไป ตนคิดว่าเป็นการขัดเจตนารมณ์ เพราะจะเท่ากับเป็นการเกณฑ์คนมาเลือก และก่อนหน้านี้ยังมีการรณรงค์ 1 ครอบครัว 1 คนส่งมา ยอมสละคนละ 2,500 บาทเพื่อมาเป็นผู้โหวต สว. ซึ่งไม่มีรัฐธรรมนูญมาตราไหน เขียนให้มาเป็นผู้ สว. และส่วนตัวเคยทักท้วงหลายเดือนแล้วแต่กกต.ไม่เคยหยุด ออกมายับยั้ง จนทำให้มีผู้สมัครสว.บางคนบอกว่ายอมจ่ายเงิน เพื่อต้องการมาเลือก สว.ที่ดี


นายสมชาย เห็นว่า การกำหนดกลุ่มอาชีพต่างๆที่วางไว้ดีแล้วแต่เห็นความผิดเพี้ยน ในรายละเอียดของคุณสมบัติ ที่ตนได้รับข้อมูลมาค่อนข้างมาก เช่น มีผู้สมัครเป็นผู้นำกลุ่มสตรี อย่างน้อย 2 กลุ่ม อยู่คนละจังหวัดแต่งกายเหมือนกัน ภาพถ่ายร้านเดียวกัน แล้วยังมีกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงไก่ ที่พบว่าไปถ่ายรูปจากร้านเดียวกัน แต่อยู่คนละพื้นที่ ซึ่งหากกกตไปตรวจสอบอาจเจอข้อพิรุธในลักษณะนี้ ที่มีคนส่งมาให้ตนนับพันเรื่อง ดังนั้น สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ กกต.ระดับอำเภอจะต้องคัดกรอง ไม่ควรปล่อยให้สมัครเข้ามา เพราะการที่ผู้สมัครรู้อยู่แล้วว่า ตัวเองไม่มีคุณสมบัติ แล้วโกหกรับจ้างเข้ามา ลงสมัครมีโทษ จำคุก 1-10 ปีปรับ 20,000-200,000 บาท และตัดสิทธิ์การเลือกตั้งตลอด 20 ปี รวมถึงผู้ให้การรับรองคุณสมบัติ

นายสมชาย ยังกล่าว ว่าขณะนี้พบ ข้อมูลว่ามีผู้สมัครบางส่วน รับรองกันเอง โดยมีภาพของการขนคนทั้งหมู่บ้าน โดยฝ่ายที่มีผลประโยชน์ จะมาฮั้วมาบล็อกโหวต ซึ่งทั้งหมดเป็นเพราะ กฎหมายมีการเปิดช่องให้ทำได้ และถ้าพฤติกรรมเหล่านี้ผ่านการเลือกระดับอำเภอมาสู่ระดับจังหวัด แล้วจะมีช่องสู่ระดับประเทศ เพราะไม่จำเป็นต้องเลือกตัวเองก็ได้ ซึ่งในจังหวัดที่พบว่ามีข้อพิรุธคือ สมุทรสาคร เพชรบุรี สระบุรี บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สตูล สงขลา ซึ่งมีการร้องเรียนแต่ยังไม่เห็น ปฏิกิริยากกต. ว่ามีการตรวจสอบ


ส่วนที่เลขาธิการ กกต.ระบุว่าต้องตรวจสอบว่าหากใครไม่ได้เลือกตัวเอง ถือว่าเข้าข่ายฮั้วนายสมชายกล่าวว่า จะตรวจสอบได้อย่างไรเพราะเป็นการลงคะแนนรับ อยากรู้ก็แสดงว่าไม่ลับ และถือว่าผิดกฎหมายเพราะไปเปิดเผยผลการลงคะแนน และกฎหมายยังเปิดช่อง ให้เลือกคนอื่นได้ด้วย

“โดยสรุป 149 คน เป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งของปัญหาขบวนการทั้งหมด ผมไม่เคยระบุและไม่เคยสนใจชื่อ บุคคลเหล่านั้น และไม่ตรวจด้วยว่าท่านเป็นใคร ข้อมูลนั้นจะตรงหรือไม่ตรง จะเป็นการเช็คทางสถิติ หรือเป็นการฮั้วหรือไม่ ผมตั้งคำถามให้กกต.ได้ตอบว่าท่านตรวจสอบแล้วหรือยัง ว่ามันมีข้อบกพร่อง ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. หรือระเบียบของกกต. หรือมีการจัด ฮั้วหรือบล็อคโหวตจริงหรือไม่ และฝากสื่อมวลชนทำหน้าที่แทนประชาชนตรวจสอบการเลือกสว.ครั้งนี้ และขอให้กกตทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ละเอียด เชื่อว่าหาข่าวได้อยู่แล้ว” นายสมชาย กล่าว

นายสมชายกล่าวว่านอกเหนือจากประเด็น 149 คนที่ต้องไปตรวจสอบ ยังมีประเด็น เรื่องที่นักวิชาการได้คำนวณ สถิติ สัดส่วน การลงสมัคร ว่า 53% จากจำนวนผู้สมัคร กว่า 48,000 คน หรือจำนวน ประมาณ 25,000 คน มาจากการรับจ้างลงสมัคร ซึ่งหากพบว่าเป็นเช่นนั้นจริงจะเข้าข่ายความผิด มีโทษถึงจำคุก ซึ่งมีข้อมูลที่ชัดเจนแล้วว่ามีหนุ่มนครศรีธรรมราชคนหนึ่งรับสารภาพ กับ กกต.ในพื้นที่ ซึ่งทางกฎหมาย สามารถกันเป็นพยานได้ แล้วต้องขอต่อไปโดยใช้อำนาจมาตรา 77 ใช้ความผิดมูลฐานวงเล็บ 1 ในเรื่องการให้จัดให้ให้ทรัพย์สิน หรือจ้างและสาวถึงตัวบงการ เพราะสารภาพว่าถูกการเมืองท้องถิ่นให้ไปสมัคร ซึ่งใช้พ.ร.บ.ฟอกเงินได้ โดยส่งเรื่องให้เลขาป.ป.ง. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ถ้าพบว่าผิดต้องดำเนินการ และ กกต. ควรทำหน้าที่ ให้ครบถ้วนอย่าเร่งให้มีสวเพียงอย่างเดียว แล้วมาเกิดปัญหาในภายหลัง


ส่วนที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.มองว่าอาจมีการล้มกระดาน ในการเลือก สว. ครั้งนี้ นายสมชาย ย้อนว่า “เรื่องของท่าน ไม่ใช่เรื่องของผม” พร้อมระบุส่วนตัวเชื่ออีกอย่างหนึ่ง ว่าการที่ ตรวจสอบจะทำให้การเลือกสว. เป็นไปอย่างถูกต้องและไม่ล้ม แต่ถ้าปล่อยไป ให้การเลือกไปถึงขั้นสุดท้ายระดับประเทศ ตนไม่ทราบว่าใครได้รับประโยชน์ เพราะความผิดจะสำเร็จไปเรื่อยๆ และมีผู้ร่วม กระทำผิดสองหมื่นกว่าคน ต่างกรรมต่างวาระ เพราะรับจ้างตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน เวลารับโทษ ก็ต้องนับโทษ ตามกรรมตามวาระ หากปล่อยไว้จะทำให้เกิดปัญหาชาวบ้านเป็นเหยื่อการเมือง ดังนั้นจึงฝากไปยังพี่น้องประชาชน ใครที่ไปรับจ้าง มาลงสมัคร เพื่อเลือก สว. คิดว่าเสี่ยงที่จะผิดกฎหมาย ติดคุกแน่นอน ซึ่งกรรมาธิการทุกคณะและสื่อมวลชนต่างคอยติดตาม เมื่อถึงตรงนั้นใครก็ช่วยไม่ได้ ฝ่ายการเมืองก็ช่วยไม่ได้ ดังนั้นขอให้แจ้งไปยัง กกต. ในพื้นที่ กกต. กลางหรือสื่อ โดยให้ กกต. ใช้มาตรา 65 กันไว้เป็นพยาน และให้กกต.ตรวจสอบเพื่อให้ผลออกมาได้ สว.ที่มีคุณภาพ ตรงไปตรงมา ไม่ต้องคิดว่าจะไปยื้ออะไร เพราะทำได้ไม่เยอะ แต่ขอให้ทำอย่างถูกต้องดีกว่า.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

พายุหนองฟ้ายังไม่สิ้นฤทธิ์ หลายพื้นที่ภาคเหนืออ่วม

1 ก.ย. – พายุ “หนองฟ้า” แม้อ่อนกำลังลงแล้ว แต่ยังไม่สิ้นฤทธิ์ ทำให้หลายพื้นที่ทางภาคเหนือมีฝนตกต่อเนื่องนับสัปดาห์ จนเกิดน้ำป่าหลากจากบนดอยสูงหลายจุด โดยเฉพาะภาพน้ำป่าหลากลงมาผ่านน้ำตกผาแก่งสร้อย ในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนภูมิพล กลายเป็นภาพที่สวยงามแต่น่ากลัว นอกจากนี้ยังมีน้ำทะลักท่วมภาคเหนือตอนล่าง ทั้งที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และอีกหลายอำเภอของ จ.พิษณุโลก.-สำนักข่าวไทย

เปิดวงจรปิดล่า 4 คนร้ายลอบวางระเบิดตู้ ATM

1 ก.ย. – เปิดภาพวงจรปิดไล่ล่า 4 คนร้าย สวมชุดปิดบังอำพราง พร้อมอาวุธครบมือ ลอบวางระเบิดตู้ ATM ในพื้นที่ จ.ยะลา โดยพยายามปล้นเงินในตู้เซฟ แต่ไม่สามารถนำเงินออกมาได้ กล้องวงจรปิดในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง สาขาบ้านบุ อ.เมืองยะลา จับภาพเมื่อเวลาประมาณ 01.15 น. มี 4 คนร้ายใส่ชุดปิดบังอำพราง สวมหมวกปีกปิดหน้า ถืออาวุธปืน ลอบนำระเบิดแสวงเครื่องมาวางระเบิดตู้ ATM จากนั้นทั้ง 4 คน หลบไปซ่อนตัว ผ่านไปประมาณ 1 นาที เกิดระเบิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 01.16 น. โดยคนร้าย 2 คน พยายามงัดตู้เซฟเก็บเงิน ส่วนอีก 2 คน ถือปืนประกบ แต่ไม่สามารถงัดตู้เซฟออกมาได้ จึงหลบหนีไปในเวลา 01.18.10 น. หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมประสานชุดเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา เข้าตรวจสอบเมื่อเช้าที่ผ่านมา […]

“ปชน.” ยังไม่เคาะโหวตนายกฯ ประชุมต่อพรุ่งนี้

พรรคประชาชน 1 ก.ย.- “ปชน.” ยังไม่เคาะโหวตเลือกใครเป็นนายกฯ พรุ่งนี้ประชุมต่อ “พริษฐ์” เผยสุดท้าย จบ กก.บห.เหตุต้องรับผิดชอบ ไม่ปล่อยโหวตในวง สส. ยันไม่ใช้อารมณ์มาตัดสิน แต่ไม่ลืมอดีตเพื่อไทยฉีก MOU – ภูมิใจไทย ซัด “พิธา” นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน เปิดเผยภายหลังประชุมกรรมการบริหารพรรค และ สส. นับ 90 คน นานเกือบ 4 ชั่วโมงว่า ที่ประชุมมีความเห็นที่หนักหลายหลายคนแสดงความคิดเห็น และมีความหนักใจในการเลือกทางใดทางหนึ่ง ที่ประชุมจึงได้ข้อสรุปว่าเจ้าของประชุมในวันพรุ่งนี้ต่อ เพื่อให้สส. ที่มาในวันนี้และแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม รวมทั้ง สส.ที่ไม่ได้มาร่วมประชุมในวันนี้แสดงความคิดเห็นด้วย ก่อนจะนำความเห็นของสส.มาประกอบกับภาคส่วนอื่น ๆ ซึ่งในการพูดคุยมี 2 ประเด็นที่ชัดเจนคือ ยังยืนยันจุดยืนเดิมว่าสิ่งที่ตอบโจทย์ประเทศ คือ การเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว ซึ่งพรรคประชาชนได้ออกมาเรียกร้องเรื่องยุบสภามาโดยตลอด ตั้งแต่มีคลิปเสียงหลุดออกมา เพียงแต่ผู้มีอำนาจไม่ตอบสนอง วันนี้ยังยืนยันว่าการยุบสภาและการเลือกตั้งใหม่โดยรวมเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ประเทศ หากรักษาการนายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจยุบสภาจะยืนดำเนินการยุบสภาก็จะสอดคล้องกับจุดยืนของพรรค ซึ่งพรรคยินดีและพร้อมเลือกตั้ง แต่หากรักษาการนายกไม่ยุบสภาและมีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง ก็ต้องใช้กระบวนการพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อนำไปสู่การยุบสภาและเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว […]

“วันนอร์” ยันสภาพร้อมโหวต “นายกฯ คนใหม่”

กทม.1 ก.ย.- “วันนอร์” ยันสัปดาห์นี้ สภาฯ พร้อมโหวต “นายกฯ คนใหม่” แต่ต้องให้ทุกฝ่ายมีความพร้อม ชี้ต้องมีรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว เพื่อไม่ให้กระทบงบประมาณและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ ว่า สัปดาห์นี้ ได้ออกระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร 3 วัน คือวันที่ 3-5 กันยายน โดยวันพุธที่ 3 กันยายน จะเป็นการพิจารณากฎหมาย ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน จะเป็นการพิจารณากระทู้แต่ต้องยกเลิกไปเนื่องจาก คณะรัฐมนตรีทุกคนพ้นจากตำแหน่ง จึงไม่สามารถตอบกระทู้ถามได้ แต่ยังมีเรื่องเพื่อทราบ ที่จะต้องเชิญหน่วยงานมาชี้แจง ขณะที่ในวันศุกร์ที่ 5 กันยายน เป็นการพิจารณาวาระพิเศษ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ค้างอยู่หลายฉบับ ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เสนอเข้ามาและมีความจำเป็น ต้องเร่งประกาศใช้จะต้องเร่งพิจารณาโดยไม่มีวาระหารือ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่ง โดยกระบวนการจากนี้สภาผู้แทนราษฎรจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี มี 2 […]