นักวิชาการ เชื่อหากศาลชี้ “พิชิต” ขาดคุณสมบัติ จะโยงถึงนายกฯ ทันที

กรุงเทพฯ 23 พ.ค.-นักวิชาการ มอง ศาลรธน.รับคำร้อง 40 สว.ยื่นถอดถอน “เศรษฐา” เพื่อเป็นบรรทัดฐาน เชื่อหากศาลชี้ “พิชิต” ขาดคุณสมบัติ จะโยงถึงนายกฯ ทันที


นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ อดีตรองอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์  และอดีตโฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง 40 สว. ให้ถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ว่า การที่นายพิชิต ชื่นบาน ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ก็เท่ากับว่าผู้ที่ถูกร้องว่ากระทำผิดไม่ได้อยู่ในตำแหน่งแล้ว โดยรูปการศาลก็จำหน่ายคดีก็ได้ แต่การที่ศาลรับคดีไว้พิจารณา ก็คงมองว่าเพื่อประโยชน์สาธารณะที่จะให้มีบรรทัดฐานเอาไว้ ซึ่งศาลก็ต้องดูว่ากรณีของนายพิชิต ความผิดสำเร็จหรือยัง นายพิชิตขาดคุณสมบัติหรือไม่ หากขาดคุณสมบัติ แม้ชิงลาออก แต่ความผิดสำเร็จแล้ว เสมือนหยิบของจากห้างมา แล้วกลัวเจ้าของจับได้ก็เอามาคืน ถามว่าผิดหรือไม่ ก็ผิดตั้งแต่หยิบของออกไปจากห้างแล้ว จะอ้างว่าเอามาคืนแล้ว คงไม่ได้ แต่โทษอาจจะเบาลง ดังนั้นศาลอาจจะพิจารณาในประเด็นนี้ได้ว่า เมื่อมีคุณสมบัติไม่ครบ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ตามมาตรา 160 ในคุณสมบัติของรัฐมนตรี  อาจจะส่งผลกระทบกับคนที่เสนอชื่อแต่งตั้ง คือนายกรัฐมนตรีได้

“เหมือนไปหยิบของจากร้านมา แล้วบอกว่าตัวเองไม่ตั้งใจขโมย ก็คงพูดไม่ได้ ถ้าศาลไปตีความว่าคุณพิชิตขาดคุณสมบัติ เพราะว่าไม่ซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ประจักษ์ตามมาตรา 160 เรื่องนี้อาจจะลามไปถึงคนที่แต่งตั้งคือท่านนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ดูเรื่องนี้หรืออย่างไร มีผลอะไรเหตุผลอะไร เพราะเขาทักกันมาตั้งแต่ก่อนแต่งตั้ง ตั้งแต่รอบที่แล้ว รอบแรกก็มีชื่อโผล่มา คนก็วิจารณ์ ก็มีพยานหลักฐานแวดล้อมอยู่ ไม่ใช่ไม่รู้มาก่อน ก็รู้อยู่แล้วว่ามีคนวิพากษ์วิจารณ์ทำไมถึงแต่งตั้ง ถ้าศาลตีความว่าขาดคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีก็เข้าข่าย ถูกศาลวินิจฉัยว่าทำอะไรไม่ถูกด้วย ทั้งหมดทั้งมวลก็แล้วแต่ศาล เราก็คาดเดา ไปเฉยๆ ว่า เหตุผลที่ศาลรับไว้พิจารณา คือ มีมูลเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน” นายชาติชาย กล่าว


สำหรับกรณีที่ไม่สั่งนายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น นายชาติชาย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังคงปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่างตามปกติ เพราะการจะให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ต่อเมื่อเป็นการกระทำ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเมือง และถ้าให้ทำหน้าที่ต่อไป อาจจะมีความเสียหายเกิดขึ้น แต่กรณีนี้เป็นเรื่องของการเสนอแต่งตั้ง ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการปฏิบัติหน้าที่ บริหารบ้านเมืองต่างๆ จึงให้นายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยสุดท้ายจะออกมาว่าอย่างไร

ส่วนคาดว่าจะใช้เวลาในการวินิจฉัยนานหรือไม่นั้น นายชาติชาย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ตอบยาก แต่ความจริงแล้ว หลักฐานในเชิงประจักษ์ในเชิงข้อกฎหมาย และในเชิงเอกสารหลักฐานก็ค่อนข้างชัด น่าจะไม่ต้องไปไต่สวนเพิ่มเติมที่ไหน เพราะมีลายลักษณ์อักษรมาหมดแล้ว จึงไม่น่าจะใช้เวลานานนัก หรืออย่างมาก ก็เรียกกฤษฎีกาไปถาม หรืออาจจะให้นายกรัฐมนตรีชี้แจง.-1-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า