ผลสำรวจพบคนไทยส่วนใหญ่สนใจติดโซลาร์เซลล์

กรุงเทพฯ 3 พ.ค.- “สยามเทคโนโพล” เผย คนไทยส่วนใหญ่สนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เหตุช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า ขอรัฐบาล-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หามาตรการช่วยเหลือประชาชน เน้น 3 ด่วนกลไกลสำคัญ สภาพแวดล้อม-สังคม-ธรรมาภิบาล


ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา นักวิชาการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และการจัดการความเสี่ยง วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ร่วมกับ อาจารย์วงศกร อยู่มาก หัวหน้าสาขาวิชาการตลาด วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม และ ดร.ธนเสฏฐ์ อัคคัญญ์ภูดิส อาจารย์ประจำสำนักวิจัยสยามเทคโนโพล เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “ประชาชนสนใจโซลาร์เซลล์” ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 18 เมษายน – 2 พฤษภาคม2567 จากประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าเกิน 3,000 บาท ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,330 หน่วยตัวอย่าง ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 73.98 สนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในอนาคต ในขณะที่ ร้อยละ 26.02 ระบุว่า ไม่สนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในอนาคต

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.77 ระบุว่า สนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในอนาคตเนื่องจากช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า ร้อยละ 16.09 ระบุว่า สนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในอนาคตเนื่องจากเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นพลังงานสะอาด และร้อยละ 7.14 ระบุว่าสนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในอนาคตเนื่องจากมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในขณะที่กลุ่มที่ไม่สนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในอนาคต ร้อยละ 46.39 ระบุว่า ไม่สนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในอนาคตเนื่องจากไม่มั่นใจในระบบความปลอดภัย รองลงมา ร้อยละ 32.78 ระบุว่า ไม่สนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในอนาคตเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูง ร้อยละ 7.90 ระบุว่า ไม่สนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในอนาคตเนื่องจากความแข็งแรงของหลังคารับน้ำหนักแผงโซลาร์เซลล์ไม่ได้ ร้อยละ 7.37 ระบุว่า ไม่สนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในอนาคตเนื่องจากพื้นที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์มีไม่เพียงพอ และร้อยละ 5.56 ระบุว่า ไม่สนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในอนาคตเนื่องจากเรื่องการขออนุญาตกับทางการไฟฟ้า


เมื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 3,000 บาท ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป ในกลุ่มผู้สนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในอนาคตเกี่ยวกับประเภทของแผงโซลาร์เซลล์ที่สนใจติดตั้ง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.05 ระบุว่า ประเภทของแผงโซลาร์เซลล์ที่สนใจติดตั้ง คือ แผงโมโนคริสตัลไล(ราคาสูง คุณภาพสูง) รองลงมา ร้อยละ 31.65 ระบุว่า ประเภทของแผงโซลาร์เซลล์ที่สนใจติดตั้ง คือ แผงโพลีคริสตัลไลน์ (ราคาปานกลาง คุณภาพดี) และร้อยละ 27.30 ระบุว่า ประเภทของแผงโซลาร์เซลล์ที่สนใจติดตั้ง คือ แผงโซลาร์เซลล์ชนิด ฟิล์มบาง (ราคาถูก คุณภาพพอใช้)

ท้ายที่สุดเมื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 3,000 บาท ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในกลุ่มผู้สนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในอนาคตเกี่ยวกับระบบของแผงโซลาร์เซลล์ที่สนใจติดตั้ง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 58.20 ระบุว่า ระบบของแผงโซลาร์เซลล์ที่สนใจติดตั้ง คือ ระบบไฮบริด (ผสมระหว่างระบบ Off Grid และ On Grid  คือ มีการใช้ไฟจากการไฟฟ้าและแบตเตอรี่) รองลงมา ร้อยละ 25.71 ระบุว่า ระบบของแผงโซลาร์เซลล์ที่สนใจติดตั้ง คือ ระบบออนกริด (ใช้ไฟกลางวันใช้ไฟร่วมกับการไฟฟ้า) และร้อยละ 16.09 ระบุว่า ระบบแผงโซลาร์เซลล์ที่สนใจติดตั้ง คือ ระบบออฟกริด(ไม่เชื่อมต่อกับการไฟฟ้า มีแบตเตอรี่สำรองไฟเวลากลางคืน ใช้ในสวน ไร่นา ดอยสูง)

สำหรับความเห็นของ อาจารย์วงศกร อยู่มาก หัวหน้าสาขาวิชาการตลาด วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ให้ความเห็นเพิ่มเติมในกรณีนี้ว่า ปัจจุบันการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เป็นที่สนใจเป็นอย่างมากเนื่องจากราคาที่ถูกลง เมื่อเทียบกับราคาในอดีต ประกอบกับ ค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นในปัจจุบัน และมีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต เนื่องจากใช้ก๊าซธรรมชาติและถ่านหินเป็นหลักในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งราคาก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี จากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น และสภาวะสงครามในขณะนี้ แผงโซลาร์เซลล์มีการบำรุงรักษาไม่ยุ่งยาก มีอายุการใช้งานประมาณ 25 ปี และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นพลังงานทางเลือก พลังงานสะอาด ในสภาวะสังคมที่มีค่าครองชีพสูง ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากเมื่อเทียบกับบ้านที่ใช้ไฟจากการไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว  แต่ยังคงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ในระยะยาวในเรื่องของอายุการใช้งาน การดูแลรักษา และความคุ้มค่าในระยะยาว


ขณะที่ ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา นักวิชาการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และการจัดการความเสี่ยง วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม กล่าวว่า จากผลโพลของสยามเทคโนโพลนี้ชี้ให้เห็นว่า ความเดือดร้อนค่าครองชีพและเหตุผลจำเป็นของประชาชนเรื่องค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ประชาชนสนใจการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ดังนั้น รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลัก อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง ควรมีโปรโมชั่นพิเศษและมาตรการช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วนในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ให้กับครัวเรือนของประชาชนผู้สนใจโดยเน้นไปที่ความยั่งยืนของ 3 เร่งของกลไกสำคัญ ได้แก่ สภาพแวดล้อม (Environment) สังคม (Society) และธรรมาภิบาล (Government) ที่เป็นองค์ประกอบของ ESG เร่งขับเคลื่อนผลกระทบที่ดีต่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และผู้มีส่วนได้เสียที่เปราะบางกลุ่มหนึ่งในหลายกลุ่ม นั่นคือประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศทั้งภาคครัวเรือนและการเกษตร

“ผลที่จะตามมาคือ สภาพแวดล้อมจะดีขึ้นด้วยความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และลดก๊าซเรือนกระจกของชั้นบรรยากาศโลก ช่วยป้องกันแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อน (Global Warming) และวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ได้ และส่วนของสังคมที่ช่วยเยียวยาประชาชนผู้มีส่วนได้เสียที่เดือดร้อนจากโครงสร้างอุตสาหกรรมไฟฟ้า และการกำกับกิจการไฟฟ้าที่ดีมุ่งสู่การตอบสนองความต้องการความสนใจของประชาชน ด้วยสำนึกรับผิดชอบ (Accountability) และความมั่นคงยั่งยืน(Sustainability) ในการพัฒนาธุรกิจไฟฟ้าและห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของกิจการไฟฟ้าของรัฐบาลและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง” ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา นักวิชาการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และการจัดการความเสี่ยง วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม กล่าว .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]