“สุทิน” เชื่อหากถูกปรับ นายกฯ จะคุยก่อน ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณ

กองทัพอากาศ 19 เม.ย.-“สุทิน” ร่ายยาวครั้งแรก หลังมีชื่อพ้น ครม. เชื่อหากถูกปรับ นายกฯ จะคุยก่อน แต่ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณ แจงปมดราม่า “ทักษิณ” เมินมาลัย โชว์เหนือเจอกัน 2 ต่อ 2 แล้ว


นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความพอใจผลงาน 6-7 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงกระแสข่าวจะถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ผลงานเป็นที่พอใจ แต่ยังไม่ 100% เพราะหลายเรื่องยังไม่ออกมา บางเรื่องยังเป็นเรื่องของการเริ่มต้น แต่เรามีคณะกรรมการ 8 คณะที่ตั้งขึ้นมา ซึ่งวันนี้ได้สั่งการอีกว่าคณะไหนที่ขับเคลื่อนได้ โดยยังไม่ต้องพึ่งการแก้ไขกฎระเบียบ หน่วยงานไหนทำได้ก็ทำเลย ส่วนเรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับการแก้กฎหมาย หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก็จะเริ่มดำเนินการ เชื่อว่าคณะกรรมการ 8 + 2 ของตน ไม่เกิน 1-2 เดือนจะเห็นผล ส่วนเรื่องปรับ ครม. เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้คิดอะไรมาก

เมื่อถามว่าทำไมถึงมีชื่อของนายสุทินในการปรับ ครม. นายสุทิน กล่าวว่า กระทรวงนี้เป็นที่น่าสนใจ


เมื่อถามว่าหากมีการปรับ แล้วนายกฯ มาควบกลาโหมเอง ตามมารยาทแล้ว นายกฯ จะต้องมาคุยกับนายสุทินหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า “ผมเคยบอกแล้วว่านายกฯ เป็นกัปตันทีม ท่านจะเปลี่ยนและสลับตำแหน่งผู้เล่น สามารถทำได้ เพราะเป้าหมายคือต้องได้ประตู และต้องชนะ สำหรับผมไม่มีปัญหา”

เมื่อถามว่า หากนายกฯ มาควบกระทรวงกลาโหม นโยบายและแผนงานต่างๆที่ผ่านมา จะได้รับการสานต่ออย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า หากท่านมา ท่านต้องทำอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่ผมทำก็เป็นนโยบายรัฐบาล ใครมาอยู่ตรงนี้ หากมาจากพรรคเรา ก็ต้องทำต่อ

ทั้งนี้ ไม่รู้สึกน้อยใจหรือเสียใจ เพราะมาอยู่กระทรวงกลาโหมได้ประมาณ 7 เดือน กำลังวางฐานปรับตัวเข้ากับระบบราชการแต่ถูกย้าย นายสุทิน กล่าวว่า ก็เสียดายเพียงว่า อยากจะใช้เวลาพิสูจน์ว่าพลเรือนก็เป็นรัฐมนตรีที่ดีได้ นักการเมืองก็มีวุฒิภาวะพอที่จะรับผิดชอบงานความมั่นคงได้ เสียดายตรงนี้นิดเดียว ส่วนเรื่องอื่นไม่เสียดาย เพราะใครมาก็ทำต่อได้ ถ้านายกฯ มา อำนาจท่านก็สมบูรณ์อยู่แล้ว ทำได้ดี


เมื่อถามว่าบางคนบอกว่าระยะเวลา 7 เดือน น้อยไปที่จะพิสูจน์การทำงาน นายสุทิน กล่าวว่า อยู่ที่เกณฑ์ช่วงเวลา เช่น 6 เดือนทำได้เท่านี้ ก็ดีแล้ว 10 เดือนเท่านี้ 2 ปีต้องเท่านี้ สำหรับ 7 เดือน ก็วัด 7 เดือน ถ้า 7 เดือน ทำได้แค่นี้ ก็พอใจ มันอยู่ที่เกณฑ์วัดและเวลา

เมื่อถามว่าเคพีไอ 6-7 เดือน โหดไปหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่หรอก ในอดีต 2 เดือนก็มี นายกฯ ประเทศไทย 16 วัน ยังมีเลย 2 เดือนก็มี ไม่เป็นไร

ทั้งนี้ จะมีแรงกระเพื่อมในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะรายชื่อรัฐมนตรีที่หลุด ครม. เป็น สส.อีสาน ถึง 3 คน นายสุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นรัฐมนตรีที่มีชื่อออกมาแสดงท่าทีจะทำให้เกิดปัญหา ทุกคนก็ให้เกียรตินายกฯ ให้เกียรติพรรค ถ้าทุกคนออกมาแสดงท่าทีโวยวาย หรือไม่ให้เกียรตินายกฯและพรรค อันนี้ตนมองว่าน่าห่วง แต่ตอนนี้ทุกคนมีท่าทีให้ความร่วมมือ

เมื่อถามว่าไม่ว่านายสุทินจะอยู่ในตำแหน่งใด ยังอยู่คงพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า พรรคให้อยู่ก็อยู่  ถ้าอยู่มันอยู่ 2 ฝ่าย คือ พรรคให้อยู่ และเราอยู่ ถ้าคิดจะย้ายพรรคก็ย้ายแล้ว ถูกไหม มีเหตุการณ์หนักกว่านี้ที่ควรย้าย เยอะชีวิตผม

ส่วนหากต้องพ้น รมว.กลาโหม โครงการเรือดำน้ำ โครงการจัดหาเครื่องบินรบ และโครงจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆ จะดำเนินการต่อได้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า คนมาทำก็ดำเนินการต่อได้ ผมอยู่ไหนก็ช่วยต่อ แม้ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ผมก็จะช่วย ไม่มีปัญหา

”มีเรื่องเดียวที่จะพูด แม้จริงๆ ไม่อยากจะพูด แต่ดราม่ากันไปเยอะ ถือโอกาสอธิบายเรื่องมอบพวงมาลัย ส่งแล้วไม่รับ ผมฟังอยู่ผิดเพี้ยนไปเยอะ ผมเข้าพบท่านทักษิณก่อนใครเลย คือวันที่ 9 เม.ย. สองต่อสอง ก็ไปรดน้ำดำหัว และคุยกัน ท่านก็มีเมตตาให้พร ให้คำปรึกษาในการทำงานเยอะ แต่มีคนไปลงข่าว บอกว่าวันที่ 12 เม.ย. ผมไปขอเข้าพบ แล้วท่านไล่มาทำงาน ไปทำไมบ่อยๆ จะไปวันที่ 14 เม.ย. ยังเกรงใจเลย กลัวว่ามาบ่อย แต่เพื่อนชวนก็ไป ตอนนั้นตอนที่คนเอาคลิปมาลง ถ้าสังเกตดีๆ ผมอยู่กับท่านพายัพ ชินวัตร ท่านพายัพก็ถือ ผมก็ถือพวงมาลัย ก็คุยกัน ท่านพายัพบอกว่าไม่เหมาะหรอก ถ้ามามอบตอนนี้ ให้ท่านนั่งเป็นทางการ เป็นเด็กให้ผู้ใหญ่ ผมไม่ได้ยื่นเลย แต่ผมยกมือไหว้ ถ้าจะมอบผมก็ต้องยื่น ถ้ายื่นท่านก็ต้องรับ ท่านเป็นผู้ใหญ่มีเมตตา ท่านไม่ได้คิดแค่นั้น ขอให้เข้าใจกันใหม่ เรื่องนี้ไม่มี ยังเป็นปกติ ยังคุยปกติ จากนั้นก็เข้าไปนั่งคุยในห้อง แล้วก็มอบให้ แต่ตอนมอบคนไม่ได้ดู“นายสุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่ได้เป็นสัญญาญลบอะไร นายสุทิน กล่าวว่า “ผมไม่ได้มีความรู้สึกอะไรที่ไม่ดี เป็นปกติ ผมยังแซวท่านเลย ท่านใส่เสื้อหัวใจแดง ท่านบอกว่าผมใส่เสื้อตัวนี้มา เพราะผมรักทุกคน”

ส่วนการที่พูดคุยกับนายทักษิณ มีสัญญาใจรับประกันอะไรหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวพุ่งไปที่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร แทน จากผู้ที่หลุด ครม. นายสุทิน กล่าวว่า ไม่มีคุย แต่คุยเรื่องแนะนำการทำงานและอวยพรการทำงาน เทคนิคการทำงาน

เมื่อถามว่า หากหันไปมอง ผบ.เหล่าทัพ ที่อยู่ด้านหลัง มองแววตาอยากให้ย้ายหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องหรอก อันนี้เป็นเรื่องละเอียดเกินไป

ส่วนการไปเข้าพบนายทักษิณเป็นสัญญาณได้อยู่ต่อหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ท่านคงไม่แนะนำถึงขนาดนั้น ท่านแนะนำกว้างๆ ส่วนเรื่องการบริหารบุคคลบริหารทีม อยู่ที่การตัดสินใจของนายกฯ เอง

ขณะที่นายทักษิณ เคยได้รับบทเรียนราคาแพงจากกองทัพมาก่อน มีการเตือนให้ระวังกองทัพหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า “ท่านไม่ได้พูด และไม่ต้องพูดด้วย เพราะผมก็อยู่ด้วยในสถานการณ์นั้นมาตลอด ก็ได้เรียนรู้มาพร้อมๆ กัน รู้ว่าอะไรควรไม่ควร อะไรต้องระวัง ไม่ต้องระวัง ท่านไม่ต้องบอก ผมก็รู้พอๆ กับท่าน อยู่ด้วยกันมากับท่าน”

เมื่อถามว่า นายกฯ ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับการปรับนายสุทินออกจากรัฐมนตรีหรือไม่ และถ้าไม่ได้มีการพูดคุย แต่ปรับออก จะรู้สึกเคืองหรือไม่ นายสุทิน บอกว่า “ไม่พูด ก็ไม่เป็น และไม่เคือง เพราะ สุทิน เป็นคนแบบนั้น แฟร์ๆ อยู่แล้ว ให้เกียรติกับทุกคน ส่วนตัวมองว่าหากปรับออก ยังไงก็ต้องมีการบอกและส่งสัญญาณกัน จึงเข้าใจว่ายังไม่ถึงเวลา”

ส่วนที่มีคนมองว่าขณะนี้เป็นการเมืองแบบถอยหลังเข้าคลอง เพราะที่สุดแล้ว ต่างเป็นการมืองแบบตอบแทนให้กัน นายสุทิน กล่าวว่า แล้วแต่คนจะคิด แต่เรื่องดีๆ ก็มี

ส่วนเหตุผลที่มีการปรับ นายสุทิน และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข เป็นเพราะไม่มีคนหนุนหลังหรือไม่ นายสุทิน ตอบว่า เรื่องนี้ต้องไปถามว่า เหตุผลเพราะอะไร เพราะตนไม่รู้ ที่ผ่านมาก็ปรับเปลี่ยนกันตลอด

ส่วนจะบอกคนในพื้นที่ภาคอีสานอย่างไร เพราะเป็นเหมือน เสร็จนาฆ่าโคถึก นายสุทิน กล่าวว่า ชาวบ้านรู้ใครทำงาน ชาวบ้านทุกวันนี้เก่ง และให้กำลังใจกับตน บอกว่าจะเป็นรัฐมนตรีกี่เดือนก็แล้วแต่ 6 เดือน ก็เป็น 6 เดือน ที่ครองใจประชาชนอยู่แล้ว เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาจะอธิบายกับประชาชนได้

นายสุทิน ย้ำว่า หลังมีกระแสข่าวปรับออกจาก ครม. ยังไม่ได้พูดคุยกับนายกฯ และในที่ประชุม ครม. ไม่ได้คุยเรื่องนี้ เป็นการทักทายกันปกติ และคุยกันหลายเรื่อง และหากถูกปรับออก ให้ไปทำงานสภาฯนั้น ก็ทำงานได้ทุกที่ ถนัดทุกอย่าง บริหารก็ถนัด

ส่วนประเด็นเรือดำน้ำที่แก้ปัญหาไม่สำเร็จ และกลายเป็นว่าทำงานไม่สนองนโยบาย จึงเป็นเหตุทำให้ถูกปรับออกจากรัฐมนตรีนั้น นายสุทิน คิดว่าไม่เกี่ยว เพราะเป็นการทำงานร่วมกันกับหลายคน  และตนเข้าใจสถานการณ์ดี ยืนยันว่าทำงานตามกฎและนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ นายสุทิน ออกจากโพเดียม ได้เดินมาพูดคุยกับสื่อมวลชน ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม จากการสังเกตพบว่า นายสุทิน ได้นำพิมเสนที่ถือในมือ มาทาบริเวณจมูก พร้อมขยี้ตาด้วย.- 313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]