“สุทิน” เชื่อหากถูกปรับ นายกฯ จะคุยก่อน ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณ

กองทัพอากาศ 19 เม.ย.-“สุทิน” ร่ายยาวครั้งแรก หลังมีชื่อพ้น ครม. เชื่อหากถูกปรับ นายกฯ จะคุยก่อน แต่ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณ แจงปมดราม่า “ทักษิณ” เมินมาลัย โชว์เหนือเจอกัน 2 ต่อ 2 แล้ว


นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความพอใจผลงาน 6-7 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงกระแสข่าวจะถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ผลงานเป็นที่พอใจ แต่ยังไม่ 100% เพราะหลายเรื่องยังไม่ออกมา บางเรื่องยังเป็นเรื่องของการเริ่มต้น แต่เรามีคณะกรรมการ 8 คณะที่ตั้งขึ้นมา ซึ่งวันนี้ได้สั่งการอีกว่าคณะไหนที่ขับเคลื่อนได้ โดยยังไม่ต้องพึ่งการแก้ไขกฎระเบียบ หน่วยงานไหนทำได้ก็ทำเลย ส่วนเรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับการแก้กฎหมาย หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก็จะเริ่มดำเนินการ เชื่อว่าคณะกรรมการ 8 + 2 ของตน ไม่เกิน 1-2 เดือนจะเห็นผล ส่วนเรื่องปรับ ครม. เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้คิดอะไรมาก

เมื่อถามว่าทำไมถึงมีชื่อของนายสุทินในการปรับ ครม. นายสุทิน กล่าวว่า กระทรวงนี้เป็นที่น่าสนใจ


เมื่อถามว่าหากมีการปรับ แล้วนายกฯ มาควบกลาโหมเอง ตามมารยาทแล้ว นายกฯ จะต้องมาคุยกับนายสุทินหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า “ผมเคยบอกแล้วว่านายกฯ เป็นกัปตันทีม ท่านจะเปลี่ยนและสลับตำแหน่งผู้เล่น สามารถทำได้ เพราะเป้าหมายคือต้องได้ประตู และต้องชนะ สำหรับผมไม่มีปัญหา”

เมื่อถามว่า หากนายกฯ มาควบกระทรวงกลาโหม นโยบายและแผนงานต่างๆที่ผ่านมา จะได้รับการสานต่ออย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า หากท่านมา ท่านต้องทำอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่ผมทำก็เป็นนโยบายรัฐบาล ใครมาอยู่ตรงนี้ หากมาจากพรรคเรา ก็ต้องทำต่อ

ทั้งนี้ ไม่รู้สึกน้อยใจหรือเสียใจ เพราะมาอยู่กระทรวงกลาโหมได้ประมาณ 7 เดือน กำลังวางฐานปรับตัวเข้ากับระบบราชการแต่ถูกย้าย นายสุทิน กล่าวว่า ก็เสียดายเพียงว่า อยากจะใช้เวลาพิสูจน์ว่าพลเรือนก็เป็นรัฐมนตรีที่ดีได้ นักการเมืองก็มีวุฒิภาวะพอที่จะรับผิดชอบงานความมั่นคงได้ เสียดายตรงนี้นิดเดียว ส่วนเรื่องอื่นไม่เสียดาย เพราะใครมาก็ทำต่อได้ ถ้านายกฯ มา อำนาจท่านก็สมบูรณ์อยู่แล้ว ทำได้ดี


เมื่อถามว่าบางคนบอกว่าระยะเวลา 7 เดือน น้อยไปที่จะพิสูจน์การทำงาน นายสุทิน กล่าวว่า อยู่ที่เกณฑ์ช่วงเวลา เช่น 6 เดือนทำได้เท่านี้ ก็ดีแล้ว 10 เดือนเท่านี้ 2 ปีต้องเท่านี้ สำหรับ 7 เดือน ก็วัด 7 เดือน ถ้า 7 เดือน ทำได้แค่นี้ ก็พอใจ มันอยู่ที่เกณฑ์วัดและเวลา

เมื่อถามว่าเคพีไอ 6-7 เดือน โหดไปหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่หรอก ในอดีต 2 เดือนก็มี นายกฯ ประเทศไทย 16 วัน ยังมีเลย 2 เดือนก็มี ไม่เป็นไร

ทั้งนี้ จะมีแรงกระเพื่อมในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะรายชื่อรัฐมนตรีที่หลุด ครม. เป็น สส.อีสาน ถึง 3 คน นายสุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นรัฐมนตรีที่มีชื่อออกมาแสดงท่าทีจะทำให้เกิดปัญหา ทุกคนก็ให้เกียรตินายกฯ ให้เกียรติพรรค ถ้าทุกคนออกมาแสดงท่าทีโวยวาย หรือไม่ให้เกียรตินายกฯและพรรค อันนี้ตนมองว่าน่าห่วง แต่ตอนนี้ทุกคนมีท่าทีให้ความร่วมมือ

เมื่อถามว่าไม่ว่านายสุทินจะอยู่ในตำแหน่งใด ยังอยู่คงพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า พรรคให้อยู่ก็อยู่  ถ้าอยู่มันอยู่ 2 ฝ่าย คือ พรรคให้อยู่ และเราอยู่ ถ้าคิดจะย้ายพรรคก็ย้ายแล้ว ถูกไหม มีเหตุการณ์หนักกว่านี้ที่ควรย้าย เยอะชีวิตผม

ส่วนหากต้องพ้น รมว.กลาโหม โครงการเรือดำน้ำ โครงการจัดหาเครื่องบินรบ และโครงจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆ จะดำเนินการต่อได้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า คนมาทำก็ดำเนินการต่อได้ ผมอยู่ไหนก็ช่วยต่อ แม้ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ผมก็จะช่วย ไม่มีปัญหา

”มีเรื่องเดียวที่จะพูด แม้จริงๆ ไม่อยากจะพูด แต่ดราม่ากันไปเยอะ ถือโอกาสอธิบายเรื่องมอบพวงมาลัย ส่งแล้วไม่รับ ผมฟังอยู่ผิดเพี้ยนไปเยอะ ผมเข้าพบท่านทักษิณก่อนใครเลย คือวันที่ 9 เม.ย. สองต่อสอง ก็ไปรดน้ำดำหัว และคุยกัน ท่านก็มีเมตตาให้พร ให้คำปรึกษาในการทำงานเยอะ แต่มีคนไปลงข่าว บอกว่าวันที่ 12 เม.ย. ผมไปขอเข้าพบ แล้วท่านไล่มาทำงาน ไปทำไมบ่อยๆ จะไปวันที่ 14 เม.ย. ยังเกรงใจเลย กลัวว่ามาบ่อย แต่เพื่อนชวนก็ไป ตอนนั้นตอนที่คนเอาคลิปมาลง ถ้าสังเกตดีๆ ผมอยู่กับท่านพายัพ ชินวัตร ท่านพายัพก็ถือ ผมก็ถือพวงมาลัย ก็คุยกัน ท่านพายัพบอกว่าไม่เหมาะหรอก ถ้ามามอบตอนนี้ ให้ท่านนั่งเป็นทางการ เป็นเด็กให้ผู้ใหญ่ ผมไม่ได้ยื่นเลย แต่ผมยกมือไหว้ ถ้าจะมอบผมก็ต้องยื่น ถ้ายื่นท่านก็ต้องรับ ท่านเป็นผู้ใหญ่มีเมตตา ท่านไม่ได้คิดแค่นั้น ขอให้เข้าใจกันใหม่ เรื่องนี้ไม่มี ยังเป็นปกติ ยังคุยปกติ จากนั้นก็เข้าไปนั่งคุยในห้อง แล้วก็มอบให้ แต่ตอนมอบคนไม่ได้ดู“นายสุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่ได้เป็นสัญญาญลบอะไร นายสุทิน กล่าวว่า “ผมไม่ได้มีความรู้สึกอะไรที่ไม่ดี เป็นปกติ ผมยังแซวท่านเลย ท่านใส่เสื้อหัวใจแดง ท่านบอกว่าผมใส่เสื้อตัวนี้มา เพราะผมรักทุกคน”

ส่วนการที่พูดคุยกับนายทักษิณ มีสัญญาใจรับประกันอะไรหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวพุ่งไปที่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร แทน จากผู้ที่หลุด ครม. นายสุทิน กล่าวว่า ไม่มีคุย แต่คุยเรื่องแนะนำการทำงานและอวยพรการทำงาน เทคนิคการทำงาน

เมื่อถามว่า หากหันไปมอง ผบ.เหล่าทัพ ที่อยู่ด้านหลัง มองแววตาอยากให้ย้ายหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องหรอก อันนี้เป็นเรื่องละเอียดเกินไป

ส่วนการไปเข้าพบนายทักษิณเป็นสัญญาณได้อยู่ต่อหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ท่านคงไม่แนะนำถึงขนาดนั้น ท่านแนะนำกว้างๆ ส่วนเรื่องการบริหารบุคคลบริหารทีม อยู่ที่การตัดสินใจของนายกฯ เอง

ขณะที่นายทักษิณ เคยได้รับบทเรียนราคาแพงจากกองทัพมาก่อน มีการเตือนให้ระวังกองทัพหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า “ท่านไม่ได้พูด และไม่ต้องพูดด้วย เพราะผมก็อยู่ด้วยในสถานการณ์นั้นมาตลอด ก็ได้เรียนรู้มาพร้อมๆ กัน รู้ว่าอะไรควรไม่ควร อะไรต้องระวัง ไม่ต้องระวัง ท่านไม่ต้องบอก ผมก็รู้พอๆ กับท่าน อยู่ด้วยกันมากับท่าน”

เมื่อถามว่า นายกฯ ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับการปรับนายสุทินออกจากรัฐมนตรีหรือไม่ และถ้าไม่ได้มีการพูดคุย แต่ปรับออก จะรู้สึกเคืองหรือไม่ นายสุทิน บอกว่า “ไม่พูด ก็ไม่เป็น และไม่เคือง เพราะ สุทิน เป็นคนแบบนั้น แฟร์ๆ อยู่แล้ว ให้เกียรติกับทุกคน ส่วนตัวมองว่าหากปรับออก ยังไงก็ต้องมีการบอกและส่งสัญญาณกัน จึงเข้าใจว่ายังไม่ถึงเวลา”

ส่วนที่มีคนมองว่าขณะนี้เป็นการเมืองแบบถอยหลังเข้าคลอง เพราะที่สุดแล้ว ต่างเป็นการมืองแบบตอบแทนให้กัน นายสุทิน กล่าวว่า แล้วแต่คนจะคิด แต่เรื่องดีๆ ก็มี

ส่วนเหตุผลที่มีการปรับ นายสุทิน และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข เป็นเพราะไม่มีคนหนุนหลังหรือไม่ นายสุทิน ตอบว่า เรื่องนี้ต้องไปถามว่า เหตุผลเพราะอะไร เพราะตนไม่รู้ ที่ผ่านมาก็ปรับเปลี่ยนกันตลอด

ส่วนจะบอกคนในพื้นที่ภาคอีสานอย่างไร เพราะเป็นเหมือน เสร็จนาฆ่าโคถึก นายสุทิน กล่าวว่า ชาวบ้านรู้ใครทำงาน ชาวบ้านทุกวันนี้เก่ง และให้กำลังใจกับตน บอกว่าจะเป็นรัฐมนตรีกี่เดือนก็แล้วแต่ 6 เดือน ก็เป็น 6 เดือน ที่ครองใจประชาชนอยู่แล้ว เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาจะอธิบายกับประชาชนได้

นายสุทิน ย้ำว่า หลังมีกระแสข่าวปรับออกจาก ครม. ยังไม่ได้พูดคุยกับนายกฯ และในที่ประชุม ครม. ไม่ได้คุยเรื่องนี้ เป็นการทักทายกันปกติ และคุยกันหลายเรื่อง และหากถูกปรับออก ให้ไปทำงานสภาฯนั้น ก็ทำงานได้ทุกที่ ถนัดทุกอย่าง บริหารก็ถนัด

ส่วนประเด็นเรือดำน้ำที่แก้ปัญหาไม่สำเร็จ และกลายเป็นว่าทำงานไม่สนองนโยบาย จึงเป็นเหตุทำให้ถูกปรับออกจากรัฐมนตรีนั้น นายสุทิน คิดว่าไม่เกี่ยว เพราะเป็นการทำงานร่วมกันกับหลายคน  และตนเข้าใจสถานการณ์ดี ยืนยันว่าทำงานตามกฎและนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ นายสุทิน ออกจากโพเดียม ได้เดินมาพูดคุยกับสื่อมวลชน ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม จากการสังเกตพบว่า นายสุทิน ได้นำพิมเสนที่ถือในมือ มาทาบริเวณจมูก พร้อมขยี้ตาด้วย.- 313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย