แนะนศ.วปอ.จูเนียร์ใช้คอนเนคชั่นช่วยเหลือสังคม

วปอ. 9 เม.ย.-นายกฯ ปาฐกถาพิเศษนศ.หลักสูตรวปอ.จูเนียร์​ ระบุมาเรียนเพราะอยากได้คอนเนคชั่น​ ไม่ใช่เรื่องผิด​ แต่ขอให้ใช้ช่วยเหลือคน อย่าเบียดเบียน​ผู้อื่น​ ย้ำจุดยืนไทย​เป็นกลางสถานการณ์​เมียนมา​ ยกแลนด์บริดจ์​เหมือน กริพเพน- ฟริเกต​ เป็นอาวุธทางเศรษฐกิจ​


นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร  สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต​ หรือ​ วปอ.บอ.​รุ่นที่ 1 โดยนายกรัฐมนตรี​กล่าวปาฐกถา​พิเศษหัวข้อ บทบาทของผู้นำในอนาคต​ในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ​ ว่า​ วปอ.​ชื่อหลักสูตร บอกชัดเจนอยู่แล้วว่า​ เป็นหลักสูตรที่มีเกียรติ​ มีศักดิ์ศรี และเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้ในอนาคต รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 1 ซึ่งเข้าใจว่ามีหลายคนอยากมาเรียนกันมาก เนื่องจากเป็นคอร์สที่มีความต้องการที่จะเข้ามาเรียนอย่างสูง เชื่อว่าทุกคนได้รับการคัดเลือกมาด้วยความเหมาะสม มีการอบรมเป็นอย่างดี

“ไหน ๆ ก็มาแล้ว​ ก็อย่าขาดเรียน เข้ามาก็เข้ายาก​ และขอให้เรียน​ ผมมั่นใจว่าหลักสูตรสถาบันนี้ให้ความรู้แน่นอน ซึ่งนอกจากความรู้แล้วเรื่องของคอนเนคชั่น​ หรือเรื่องเครือข่ายในการทำงานร่วมกันเป็นเรื่องที่สำคัญ​ เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านมาในที่นี้เพราะเหตุผลนี้ ถามว่าผิดไหม ไม่ผิด แต่คอนเนคชั่น​ต่าง ๆ เหล่านี้ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง​ แก่ผู้อื่น โดยไม่ไปเบียดเบียน หรือไปทำให้เกิดความไม่เหมาะสม ผมเคยพูดหลายครั้งแล้วเรื่องนี้​ ไม่อยากจะเน้นย้ำ​ แต่สังคมของเราในช่วงนี้มีความเหลื่อมล้ำกันสูงมาก​ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มีการแพร่ระบาดโควิด​ -​19  เกิดขึ้นคนรวย รวยขึ้น  คนจน จนลง จึงต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาที่สุด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่บั่นทอนความมั่นคงของประเทศพอสมควร” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายก​รัฐมนตรี​ กล่าวว่า​ เชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในที่นี้ เป็นอนาคตของชาติและจะมีบทบาทสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองต่อไป เป็นเรื่องที่ทุกคนควรตระหนักดี เพราะฉะนั้นต้องมีความพยายามลดความเหลื่อมล้ำลงมา ถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกคน วันนี้ตำแหน่งหน้าที่การงานอาจจะไม่ใหญ่โตมากมาย การประพฤติตัวตรงนี้ก็จะเป็นที่จับตามองของสาธารณชนค่อนข้างมาก​ การใช้โซเชียลมีเดียต่าง ๆ นานา​ เป็นตัวที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม เรามาอยู่ในที่นี้มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่​ มีองค์กรอิสระ​ มีนักธุรกิจ​ มีนักการเมือง เป็นการผสมผสานอย่างลงตัว​

“สถาบันคิดมาดีแล้ว​ เพราะฉะนั้นเรื่องเหล่านี้เราจะให้ความสำคัญเรื่องของการใช้โซเชียมีเดีย​ ผมขอย้ำอีกครั้งว่า​ อะไรที่ทำให้คนรู้สึกหรือไม่มีโอกาสได้เข้ามาตรงนี้เวลาจะทำอะไรขอให้คิด พวกท่านเป็นที่จับตามอง รายชื่อทุกคนประกาศชัดเจนว่าใครอยู่ในคอร์สนี้บ้าง ชื่อคอร์สก็บอกอยู่แล้ว Future Reader ผู้บริหารแห่งอนาคต​ ผมมองว่าเป็นเรื่องสำคัญของอนาคตของพวกท่านทุกคน ส่งต่อไปสู่อนาคตของประเทศชาติ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้หากพูดถึงเรื่องความมั่นคง เรื่องที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดในเรื่องความมั่นคงของประเทศ​ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศเมียนมา​ ซึ่งเป็นประเด็นที่ร้อนแรงในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ประเทศไทยยืนยันจุดยืนที่เป็นกลาง ช่วยเหลือมนุษยชนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย​ ไม่ก้าวก่ายกิจการภายในของแต่ละประเทศ​ ชายแดนของเราติดเมียนมาประมาณ 2,000 กิโลเมตร การเข้าออกได้ทุกทาง หากเมียนมา​มีความเป็นหนึ่งเดียว สามารถพัฒนาได้ ประเทศที่จะได้ประโยชน์สูงสุดคือประเทศไทย ในทางกลับกัน หากเขาอยู่ไม่ได้เราก็เดือดร้อน ซึ่งจุดยืนของเราชัดเจน ตามนโยบายอาเซียน


“ความมั่นคงของประเทศมีหลายมิติ เศรษฐกิจมีส่วนที่ทำให้เรามีความมั่นคงด้านการรักษาดินแดนหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ วันนี้ไม่ได้มาโฆษณาโครงการของรัฐ เรามีโครงการแลน​ด์บริดจ์​ที่จะช่วยเชื่อมระหว่างทะเลอันดามัน อ่าวไทย ช่องแคบมะละกาที่สิงคโปร์ มีความแออัดค่อนข้างมาก เป็น 60% ของทั่วโลก ทำให้ล่าช้าและเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก เรื่องแลนด์​บริดจ์​ก็ต้องพูดถึงคอคอดกระ​ เราพูดกันมาหลายสิบปีหลาย ๆ ท่านพูดว่า ทำไม่ได้เนื่องจากเรื่องความมั่นคง แต่แลนด์​บริดจ์​ ไม่ใช่การแบ่งแยกดินแดน​ เป็นการลงทุนซึ่งต่ำกว่า​ ผมมั่นใจว่าผลตอบแทนทางด้านการเงินจะเหมาะสมและระยะเวลาการขนถ่ายสินค้า” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีคู่กรณีหลายคู่ที่ไม่เห็นด้วยชัดเจน ที่สุดคืออยู่เขตรัสเซีย แม้ว่าจะอยู่ไกลจากเรามาก แต่ประชาชนคนไทยก็ได้รับผลกระทบมากพอสมควร ได้รับผู้เสียชีวิต 40 กว่ารายและถูกจับ 8 ราย​ แม้ว่าเราจะไม่ใช่คู่ขัดแย้ง​ แต่เราก็ส่งแรงงานไปในภาคเกษตรกรรม ก็ยังโดนหางเลขไปด้วย ขณะที่ความขัดแย้งในการค้าจีน-สหรัฐมีความรุนแรงเกิดขึ้นมาก ส่วนเรื่องทะเลจีนใต้ระหว่างไต้หวัน​ จีน​ ฟิลิปปินส์​ สหรัฐ​ มีคู่กรณีหลายคู่เต็มไปหมด​ อยากฝากข้อคิดว่าประเทศไทยมีจุดยืนเป็นกลาง

“เราจะสร้างแลนด์​บริดจ์​ขึ้นมา​ เป็นการร่วมทุนระหว่างเอกชน รัฐบาล ยืนยันว่าคนที่จะ Control access ทั้งหมดต้องเป็นรัฐบาลไทย คิดว่าจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง จะทำให้ทุกคนต้องการเส้นทางนี้เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศเขา​ มั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็นสวิสเซอร์แลนด์ของโลก แลนด์​บริดจ์จะเป็นอาวุธ ที่สำคัญเท่ากับเรือฟริเกต เครื่องบินกริพเพน จะทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพดีขึ้น​ ใครก็ตามที่รุกรานเราก็จะคิดเสมอว่าเส้นทางนี้เป็นเส้นทางเศรษฐกิจที่สำคัญหากถูกรุกรานเมื่อไห ก็จะได้รับความเดือดร้อน แลนด์​บริดจ์ต้องได้รับการลงทุนที่เหมาะสม​ และต้องนำมาซึ่งความมั่นคงทางเศรษฐกิจ​” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า​ เป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องช่วยเหลือคนที่อยู่ฐานรากของสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ปรารถนาเลยว่า 40% ของประชาชนคนไทย​ ซึ่งอยู่ในภาคเกษตรกรรม อาจจะเรียกว่าอยู่ในกลุ่มเปราะบาง จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลให้ดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเกณฑ์ทหาร ว่า​ ขณะนี้เป็นช่วงฤดูกาลเกณฑ์ทหาร นโยบายที่ชัดเจนเรื่องหนึ่งคือความสมัครใจเกณฑ์  รัฐบาลนี้ต้องค่อย ๆ ทำด้วยการเปลี่ยนผ่าน เพราะสังคมไทยไม่ชอบอะไรที่เป็นอย่างนี้ (ทำท่าพลิกฝ่ามือ) พร้อมกล่าวต่อว่า เป็นเรื่องลำบาก เชื่อว่าสถาบันทหารเองก็ต้องการบุคลากรที่มีคุณภาพเข้าไปอยู่ในองค์กรทำให้สถาบันทหารแข็งแกร่งขึ้น แต่จิตวิญญาณของคนสมัยใหม่ต้องการทางเลือก ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งต้องค่อย ๆ ผ่อนคลายกันไป วันนี้เริ่มเห็นผลแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมาตรการที่รับสมัครทหารมากขึ้น ลดปริมาณการเกณฑ์ทหารลง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สายการแพทย์ของทหาร หากจะรับบุคลากรทางการแพทย์ทหารมากขึ้นแล้วผิดตรงไหน ก็เขาสมัครใจอยากจะมาเป็น อย่าเอาทฤษฎี One site​ fit  all​  มาใช้กับทุกบริบทของประเทศ ซึ่งกำลังจะเปลี่ยนแปลงหลายมิติ อะไรที่เหมาะสม อะไรที่สมควร เชื่อว่าต้องคงไว้หรือเพิ่มมากขึ้นได้ ส่วนการที่จะทำให้คนมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้นถือว่าสำคัญ หลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพการเลือกเพศสภาพหรือการเลือกประกอบอาชีพ ซึ่งส่งผลให้อนาคตของชาติ 2 ปีที่ผ่านมามีปรากฏการณ์ที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นคือประชากรของประเทศไทยลดน้อยลง ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลนี้และรัฐบาลต่อ ๆ ไปที่จะโน้มน้าวให้ประชาชนมีลูกมากยิ่งขึ้น  แต่ไม่ใช่เพียงรณรงค์ให้มีลูกเพิ่มมากขึ้น​ แต่ไม่แก้โครงสร้างพื้นฐาน เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ

“หลังจากที่พวกท่านจบคอร์สในเดือนกันยายนนี้แล้ว จะลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อาจจะมีโครงการแต่ละคน หากสามารถช่วยคนที่อยู่ฐานรากของสังคมได้ ก็ขอให้ช่วยอย่างจริงจัง ใครมีเส้นสายในแง่ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าให้กับเกษตรกรในพื้นที่ที่ลงไป ก็อยากให้ลงมาช่วยพิจารณาช่วยเหลือกัน ใช้เครือข่ายที่ตัวเองมีช่วยเหลือประชาชน คิดว่าสังคมไทยจะมั่นคงยิ่งขึ้น มีฐานรากของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง คิดว่าระยะเวลาการอบรม 6 เดือนนี้จะเป็นมิตรภาพที่แน่นแฟ้น และมีส่วนพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบุคคลที่มีชื่อเสียง ร่วมหลักสูตร​นี้ อาทิ​ น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​  หัวหน้าพรรคเพื่อไทย​ นายชัยชนะ เดชเดโช สส.ปชป. น.ส.รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกรัฐบาล นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ หรือเอิง ทีมงานนายกรัฐมนตรีและเพื่อนสนิทน.ส.แพทองธาร นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ และน.ส.สุภานัน นิราษิท ภรรยานายอนุทิน​ ชาญ​วี​ร​กูล​ รอง​นายก​รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย .-312.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]