แนะนศ.วปอ.จูเนียร์ใช้คอนเนคชั่นช่วยเหลือสังคม

วปอ. 9 เม.ย.-นายกฯ ปาฐกถาพิเศษนศ.หลักสูตรวปอ.จูเนียร์​ ระบุมาเรียนเพราะอยากได้คอนเนคชั่น​ ไม่ใช่เรื่องผิด​ แต่ขอให้ใช้ช่วยเหลือคน อย่าเบียดเบียน​ผู้อื่น​ ย้ำจุดยืนไทย​เป็นกลางสถานการณ์​เมียนมา​ ยกแลนด์บริดจ์​เหมือน กริพเพน- ฟริเกต​ เป็นอาวุธทางเศรษฐกิจ​


นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร  สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต​ หรือ​ วปอ.บอ.​รุ่นที่ 1 โดยนายกรัฐมนตรี​กล่าวปาฐกถา​พิเศษหัวข้อ บทบาทของผู้นำในอนาคต​ในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ​ ว่า​ วปอ.​ชื่อหลักสูตร บอกชัดเจนอยู่แล้วว่า​ เป็นหลักสูตรที่มีเกียรติ​ มีศักดิ์ศรี และเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้ในอนาคต รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 1 ซึ่งเข้าใจว่ามีหลายคนอยากมาเรียนกันมาก เนื่องจากเป็นคอร์สที่มีความต้องการที่จะเข้ามาเรียนอย่างสูง เชื่อว่าทุกคนได้รับการคัดเลือกมาด้วยความเหมาะสม มีการอบรมเป็นอย่างดี

“ไหน ๆ ก็มาแล้ว​ ก็อย่าขาดเรียน เข้ามาก็เข้ายาก​ และขอให้เรียน​ ผมมั่นใจว่าหลักสูตรสถาบันนี้ให้ความรู้แน่นอน ซึ่งนอกจากความรู้แล้วเรื่องของคอนเนคชั่น​ หรือเรื่องเครือข่ายในการทำงานร่วมกันเป็นเรื่องที่สำคัญ​ เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านมาในที่นี้เพราะเหตุผลนี้ ถามว่าผิดไหม ไม่ผิด แต่คอนเนคชั่น​ต่าง ๆ เหล่านี้ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง​ แก่ผู้อื่น โดยไม่ไปเบียดเบียน หรือไปทำให้เกิดความไม่เหมาะสม ผมเคยพูดหลายครั้งแล้วเรื่องนี้​ ไม่อยากจะเน้นย้ำ​ แต่สังคมของเราในช่วงนี้มีความเหลื่อมล้ำกันสูงมาก​ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มีการแพร่ระบาดโควิด​ -​19  เกิดขึ้นคนรวย รวยขึ้น  คนจน จนลง จึงต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาที่สุด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่บั่นทอนความมั่นคงของประเทศพอสมควร” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายก​รัฐมนตรี​ กล่าวว่า​ เชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในที่นี้ เป็นอนาคตของชาติและจะมีบทบาทสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองต่อไป เป็นเรื่องที่ทุกคนควรตระหนักดี เพราะฉะนั้นต้องมีความพยายามลดความเหลื่อมล้ำลงมา ถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกคน วันนี้ตำแหน่งหน้าที่การงานอาจจะไม่ใหญ่โตมากมาย การประพฤติตัวตรงนี้ก็จะเป็นที่จับตามองของสาธารณชนค่อนข้างมาก​ การใช้โซเชียลมีเดียต่าง ๆ นานา​ เป็นตัวที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม เรามาอยู่ในที่นี้มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่​ มีองค์กรอิสระ​ มีนักธุรกิจ​ มีนักการเมือง เป็นการผสมผสานอย่างลงตัว​

“สถาบันคิดมาดีแล้ว​ เพราะฉะนั้นเรื่องเหล่านี้เราจะให้ความสำคัญเรื่องของการใช้โซเชียมีเดีย​ ผมขอย้ำอีกครั้งว่า​ อะไรที่ทำให้คนรู้สึกหรือไม่มีโอกาสได้เข้ามาตรงนี้เวลาจะทำอะไรขอให้คิด พวกท่านเป็นที่จับตามอง รายชื่อทุกคนประกาศชัดเจนว่าใครอยู่ในคอร์สนี้บ้าง ชื่อคอร์สก็บอกอยู่แล้ว Future Reader ผู้บริหารแห่งอนาคต​ ผมมองว่าเป็นเรื่องสำคัญของอนาคตของพวกท่านทุกคน ส่งต่อไปสู่อนาคตของประเทศชาติ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้หากพูดถึงเรื่องความมั่นคง เรื่องที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดในเรื่องความมั่นคงของประเทศ​ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศเมียนมา​ ซึ่งเป็นประเด็นที่ร้อนแรงในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ประเทศไทยยืนยันจุดยืนที่เป็นกลาง ช่วยเหลือมนุษยชนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย​ ไม่ก้าวก่ายกิจการภายในของแต่ละประเทศ​ ชายแดนของเราติดเมียนมาประมาณ 2,000 กิโลเมตร การเข้าออกได้ทุกทาง หากเมียนมา​มีความเป็นหนึ่งเดียว สามารถพัฒนาได้ ประเทศที่จะได้ประโยชน์สูงสุดคือประเทศไทย ในทางกลับกัน หากเขาอยู่ไม่ได้เราก็เดือดร้อน ซึ่งจุดยืนของเราชัดเจน ตามนโยบายอาเซียน


“ความมั่นคงของประเทศมีหลายมิติ เศรษฐกิจมีส่วนที่ทำให้เรามีความมั่นคงด้านการรักษาดินแดนหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ วันนี้ไม่ได้มาโฆษณาโครงการของรัฐ เรามีโครงการแลน​ด์บริดจ์​ที่จะช่วยเชื่อมระหว่างทะเลอันดามัน อ่าวไทย ช่องแคบมะละกาที่สิงคโปร์ มีความแออัดค่อนข้างมาก เป็น 60% ของทั่วโลก ทำให้ล่าช้าและเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก เรื่องแลนด์​บริดจ์​ก็ต้องพูดถึงคอคอดกระ​ เราพูดกันมาหลายสิบปีหลาย ๆ ท่านพูดว่า ทำไม่ได้เนื่องจากเรื่องความมั่นคง แต่แลนด์​บริดจ์​ ไม่ใช่การแบ่งแยกดินแดน​ เป็นการลงทุนซึ่งต่ำกว่า​ ผมมั่นใจว่าผลตอบแทนทางด้านการเงินจะเหมาะสมและระยะเวลาการขนถ่ายสินค้า” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีคู่กรณีหลายคู่ที่ไม่เห็นด้วยชัดเจน ที่สุดคืออยู่เขตรัสเซีย แม้ว่าจะอยู่ไกลจากเรามาก แต่ประชาชนคนไทยก็ได้รับผลกระทบมากพอสมควร ได้รับผู้เสียชีวิต 40 กว่ารายและถูกจับ 8 ราย​ แม้ว่าเราจะไม่ใช่คู่ขัดแย้ง​ แต่เราก็ส่งแรงงานไปในภาคเกษตรกรรม ก็ยังโดนหางเลขไปด้วย ขณะที่ความขัดแย้งในการค้าจีน-สหรัฐมีความรุนแรงเกิดขึ้นมาก ส่วนเรื่องทะเลจีนใต้ระหว่างไต้หวัน​ จีน​ ฟิลิปปินส์​ สหรัฐ​ มีคู่กรณีหลายคู่เต็มไปหมด​ อยากฝากข้อคิดว่าประเทศไทยมีจุดยืนเป็นกลาง

“เราจะสร้างแลนด์​บริดจ์​ขึ้นมา​ เป็นการร่วมทุนระหว่างเอกชน รัฐบาล ยืนยันว่าคนที่จะ Control access ทั้งหมดต้องเป็นรัฐบาลไทย คิดว่าจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง จะทำให้ทุกคนต้องการเส้นทางนี้เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศเขา​ มั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็นสวิสเซอร์แลนด์ของโลก แลนด์​บริดจ์จะเป็นอาวุธ ที่สำคัญเท่ากับเรือฟริเกต เครื่องบินกริพเพน จะทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพดีขึ้น​ ใครก็ตามที่รุกรานเราก็จะคิดเสมอว่าเส้นทางนี้เป็นเส้นทางเศรษฐกิจที่สำคัญหากถูกรุกรานเมื่อไห ก็จะได้รับความเดือดร้อน แลนด์​บริดจ์ต้องได้รับการลงทุนที่เหมาะสม​ และต้องนำมาซึ่งความมั่นคงทางเศรษฐกิจ​” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า​ เป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องช่วยเหลือคนที่อยู่ฐานรากของสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ปรารถนาเลยว่า 40% ของประชาชนคนไทย​ ซึ่งอยู่ในภาคเกษตรกรรม อาจจะเรียกว่าอยู่ในกลุ่มเปราะบาง จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลให้ดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเกณฑ์ทหาร ว่า​ ขณะนี้เป็นช่วงฤดูกาลเกณฑ์ทหาร นโยบายที่ชัดเจนเรื่องหนึ่งคือความสมัครใจเกณฑ์  รัฐบาลนี้ต้องค่อย ๆ ทำด้วยการเปลี่ยนผ่าน เพราะสังคมไทยไม่ชอบอะไรที่เป็นอย่างนี้ (ทำท่าพลิกฝ่ามือ) พร้อมกล่าวต่อว่า เป็นเรื่องลำบาก เชื่อว่าสถาบันทหารเองก็ต้องการบุคลากรที่มีคุณภาพเข้าไปอยู่ในองค์กรทำให้สถาบันทหารแข็งแกร่งขึ้น แต่จิตวิญญาณของคนสมัยใหม่ต้องการทางเลือก ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งต้องค่อย ๆ ผ่อนคลายกันไป วันนี้เริ่มเห็นผลแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมาตรการที่รับสมัครทหารมากขึ้น ลดปริมาณการเกณฑ์ทหารลง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สายการแพทย์ของทหาร หากจะรับบุคลากรทางการแพทย์ทหารมากขึ้นแล้วผิดตรงไหน ก็เขาสมัครใจอยากจะมาเป็น อย่าเอาทฤษฎี One site​ fit  all​  มาใช้กับทุกบริบทของประเทศ ซึ่งกำลังจะเปลี่ยนแปลงหลายมิติ อะไรที่เหมาะสม อะไรที่สมควร เชื่อว่าต้องคงไว้หรือเพิ่มมากขึ้นได้ ส่วนการที่จะทำให้คนมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้นถือว่าสำคัญ หลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพการเลือกเพศสภาพหรือการเลือกประกอบอาชีพ ซึ่งส่งผลให้อนาคตของชาติ 2 ปีที่ผ่านมามีปรากฏการณ์ที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นคือประชากรของประเทศไทยลดน้อยลง ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลนี้และรัฐบาลต่อ ๆ ไปที่จะโน้มน้าวให้ประชาชนมีลูกมากยิ่งขึ้น  แต่ไม่ใช่เพียงรณรงค์ให้มีลูกเพิ่มมากขึ้น​ แต่ไม่แก้โครงสร้างพื้นฐาน เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ

“หลังจากที่พวกท่านจบคอร์สในเดือนกันยายนนี้แล้ว จะลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อาจจะมีโครงการแต่ละคน หากสามารถช่วยคนที่อยู่ฐานรากของสังคมได้ ก็ขอให้ช่วยอย่างจริงจัง ใครมีเส้นสายในแง่ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าให้กับเกษตรกรในพื้นที่ที่ลงไป ก็อยากให้ลงมาช่วยพิจารณาช่วยเหลือกัน ใช้เครือข่ายที่ตัวเองมีช่วยเหลือประชาชน คิดว่าสังคมไทยจะมั่นคงยิ่งขึ้น มีฐานรากของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง คิดว่าระยะเวลาการอบรม 6 เดือนนี้จะเป็นมิตรภาพที่แน่นแฟ้น และมีส่วนพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบุคคลที่มีชื่อเสียง ร่วมหลักสูตร​นี้ อาทิ​ น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​  หัวหน้าพรรคเพื่อไทย​ นายชัยชนะ เดชเดโช สส.ปชป. น.ส.รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกรัฐบาล นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ หรือเอิง ทีมงานนายกรัฐมนตรีและเพื่อนสนิทน.ส.แพทองธาร นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ และน.ส.สุภานัน นิราษิท ภรรยานายอนุทิน​ ชาญ​วี​ร​กูล​ รอง​นายก​รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย .-312.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]

“พิเชษฐ์” ชิงปิดประชุมสภาฯ หลังถกวุ่นเสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 17 ก.ค.- “พิเชษฐ์” ทำแฮตทริก ชิงปิดประชุมสภาฯ หลัง “สส.ปชน.” เสนอนับองค์ประชุม ขณะที่ สส.เพื่อไทย ขอให้นับแบบขานชื่อ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ขณะรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 66 และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินประจำปีงบประมาณ 2566 ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมีผู้อภิปรายไปเพียงคนเดียวคือนายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรคประชาชน ทำให้นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปรายว่า เห็นสมาชิกในห้องประชุมบางตาอยากจะเช็คความตั้งใจการทำงานของสส.ฝ่ายรัฐบาล จึงขอนับองค์ประชุม และมีผู้รับรองถูกต้องจากนั้นนายพิเชษฐ์ กดออดเรียกสมาชิกพร้อมกล่าวว่า “ไม่อยากอภิปรายแล้วหรือ” พร้อมทั้งขอให้วิปรัฐบาลแจ้งสส.ที่อยู่ในห้องประชุมอื่นเพื่อรีบเข้าห้องประชุมใหญ่ ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การขอนับองค์ประชุมและมีผู้รับรอง ถือเป็นสิ่งสวยงาม แต่หากมีคนเสนอให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ คงใช้เวลาถึงค่ำ ดังนั้น ขอร้องเพื่อนสมาชิก เดือนนี้ขออย่านับองค์ประชุมเลย แล้วไปนับองค์ประชุมเดือนหน้า […]

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]