“พิธา” ชี้ถ้ารัฐบาลแจงเหตุเมียนมาคลุมเครือ จะลุกลาม “ชักศึกเข้าบ้าน”

กทม. 9 เม.ย.-“พิธา” บอกแจงเหตุเมียนมาบินลงแม่สอด พูดไม่ตรงกันเลย จี้แถลงเป็นทางการ ชี้ถ้าปล่อยคลุมเครือจะลุกลาม “ชักศึกเข้าบ้าน” เตือน นายกฯ ยุทธศาสตร์การทูตไม่ควรพูดออกสื่อฯ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีท่าทีรัฐบาลต่อการที่ทางการเมียนมาขอใช้สนามบินแม่สอด ว่า อยากเห็นความโปร่งใสและรายงานสถานการณ์ให้กับคนในพื้นที่ เพราะคนที่อยู่ในพื้นที่ก็ได้รายงานมาที่ สส.พรรคก้าวไกล นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าจะมีการใช้ความรุนแรงเพิ่มเติม ซึ่งพอรัฐบาลไม่ได้มีการชี้แจง ตนและพรรคก้าวไกลจึงตั้งคำถามให้มีการแถลงเกิดขึ้น โดยรัฐบาลได้ตอบสนองมาทั้งหมด 4 ครั้ง ได้แก่ การโพส x ของนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศ, คำสัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี และโฆษกกระทรวงกลาโหม ซึ่งทั้งหมดนี้ยังคลุมเครือไม่ชัดเจน ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน


“หลักของเราก็คือว่าถ้าทุกอย่างเป็นไปตามหลักกฏหมายสากล และเรื่องสิทธิมนุษยชน มีความเท่าเทียมกัน แล้วอธิบายได้ ตรวจสอบได้ ถามได้ ผมคิดว่ามันจะคลายข้อสงสัยและเป็นประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ เป็นประโยชน์กับทางรัฐบาลเอง” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวต่อว่า ในส่วนของภาพใหญ่ก็อยากจะย้ำสิ่งที่พูดกับนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากให้เข้าสู่ปัญหาอย่างรอบด้านมากขึ้น เพราะกลุ่มในประเทศเมียนมามีหลายกลุ่ม และแต่ละพื้นที่ก็แตกต่างกันออกไป  ถ้าเข้าสู่ปัญหาไปที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ก็จะดูว่าเราทิ้งน้ำหนักไปให้ฝั่งนั้น และจะไม่ตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วเพียงพอ อย่างที่สอง เป็นเรื่อง Inter Agency Myanmar Task Force ในประเทศไทย หรือกองกำลังเฉพาะกิจที่จัดการเรื่องนี้โดยตรง เพื่อจะทำงานในเชิงรุกมากขึ้น


เมื่อถามย้ำว่า นายปานปรีย์ ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า ในเที่ยวบินนั้นไม่มีคน หรืออาวุธ แต่ก็ยังไม่ตรงกับการให้สัมภาษณ์และแถลงของส่วนที่เกี่ยวข้องเมื่อวาน (8 เม.ย.) จะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ก็จะยิ่งไม่มีความชัดเจน บางทีจุดประสงค์ของการแถลงที่กระทรวง ก็เพื่อจะลดข่าวลือ เพื่อจะให้ความมั่นใจกับประชาชนในพื้นที่และคนไทย ว่าประเทศไทยจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง

“ยังนับนิ้วคนที่ออกมาชี้แจง นายปานปรีย์ ก็เป็นคนที่ 5 ที่ออกมาพูดแล้วไม่ตรงกัน ทำให้เกิดความสงสัยว่ามีสิ่งที่ร่ำลือกันในพื้นที่ว่ามีคนในจังหวัดเมียวดีไปด้วยหรือไม่  มีผู้จัดการธนาคารไปหรือไม่ ซึ่งตนก็ไม่ได้เชื่อ แต่ถ้าจะจบทุกเรื่อง รัฐบาลจะต้องแถลงเป็นเรื่องเป็นราว” นายพิธา กล่าว

ส่วนจะเป็นการชักศึกเข้าบ้านหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า น่าจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดและสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ตามมาในเชิงการต่างประเทศ เราต้องมีช่องทางที่ไม่ให้เกิดสิ่งที่ลุกลาม ซึ่งตนคิดว่านายปานปรีย์ น่าจะเข้าใจ ถ้าไม่แถลงให้ชัดเจนก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้มากกว่านี้ ย้ำว่า รัฐบาลควรต้องต่อสายไปที่คนในพื้นที่ ชนกลุ่มน้อย และกลุ่ม NUG


“เขาเล่าให้ผมฟังว่า ติดต่อทางรัฐบาลหลายครั้ง แต่ว่าไม่ยอมที่จะเจรจาด้วย ตอนที่อยู่เจนีวา ประชุมรัฐสภาโลก IPU ก็มีคนของทางเมียนมาไปที่เจนีวา เขาก็ได้พูดความในใจของฝั่งเขาว่า พอ Diplomacy ของไทยไม่รอบด้าน สิ่งที่เขาพูดหรือเสนอก็ไม่ได้รับฟัง ผมคิดว่าในเมื่อน้ำหนักมันมาแบบนี้แล้ว มันถึงเวลาที่จะต้องเข้าถึง อย่างน้อยก็ต้องพูดคุยทั้ง 3 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเป็นชาติพันธุ์  แต่ละรัฐก็เป็นผู้นำของตัวเอง , กลุ่ม NUG และรัฐบาลทหารในปัจจุบัน” นายพิธา กล่าว

นายพิธา ระบุว่า ถ้าเราอธิบายให้รัฐบาลทหารฟังว่าเราต้องการข้อมูลที่รอบด้าน ครบถ้วน จะทำให้เราเข้าใจในสถานการณ์เมียนมาดีขึ้น ก็จะสามารถวางยุทธศาสตร์ได้มากขึ้น

“ตอนที่ผู้นำ NUG อยู่ที่เจนีวา ก็เล่าให้ผมฟังว่าสถานการณ์เป็นแบบนี้ๆ แต่มันก็ไม่เหมาะสมที่จะพูดผ่านสื่อ ผมก็ถามเขากลับว่า เรื่องการเผาข้าวโพด การค้ามนุษย์ ออนไลน์สแกม ท่านผู้นำชนกลุ่มน้อยสามารถที่จะช่วยเมืองไทยด้วยได้หรือไม่ แล้วเราก็ยินดีที่จะช่วยเรื่องระเบียงมนุษยธรรมอย่างเท่าเทียม เขาก็บอกว่านั่นแหละคือสิ่งที่เขารออยู่ ถ้าเป็นเรื่องจริง การที่เราเข้าถึงทุกฝ่ายได้อย่างเท่าเทียมและไม่เลือกข้าง มันคือโอกาสที่จะทำให้เราเข้าใจปัญหาในเมียนมามากขึ้น และทุเลาปัญหาที่มีอยู่ในบ้านเรา มันคือ Win-Win Situation ” นายพิธา กล่าว

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติว่า ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะเข้าไปพูดคุยเจรจากับรัฐบาลทหารเมียนมา เพราะอาจจะเป็นจุดที่เขาอ่อนกำลัง นายพิธา ระบุด้วยท่าทีตกใจว่า ตนเห็นด้วย แต่ไม่น่าออกสื่อฯ  

“เรื่องพวกนี้เป็นยุทธศาสตร์การทูต  ไม่ควรจะพูดว่าเขากำลังอ่อนแอ แล้วเราจะขอไปคุยกับเขา ผมไม่สามารถไปพูดกับเขาได้ว่า ตอนนี้รัฐบาลอ่อนแอที่สุด ขอใช้โอกาสนี้ในการพูด” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวว่า ต่างชาติทั้งในอาเซียนเอง และประเทศมหาอำนาจ ก็รอท่าทีที่เป็นเชิงรุกมากขึ้น ไม่เช่นนั้น ยุทธศาสตร์ 5 ข้อ ของอาเซียนจะไปไม่ได้ ตอนนี้ก็รอบทบาทไทยร่วมกับอาเซียนอยู่.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคาม

กทม. 24 ก.ค.-เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคามฝ่ายตรงข้าม โฆษก ทบ. ชี้ชัดเจนแล้ว กัมพูชา เป็นฝ่ายที่บีบบังคับเรา ซัดเราคงไม่ปล่อยให้ใครเอาเปรียบ หรือลอบทำร้าย จากนี้จำเป็นต้องทำในสิ่งที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ลั่นขณะนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้! ขอให้พี่น้องคนไทย เชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพไทย พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ที่เราเปิดปฏิบัติการ ว่าคือ แผนป้องกันประเทศ ที่กำหนดหน้าที่ของแต่ละหน่วย และกำลังทางทหาร และให้เตรียมความพร้อม เมื่อมีคำสั่ง เป็นแผนที่ได้ถูกกลั่นกรอง โดยประเมินจากสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมในกิจการป้องกันประเทศ ในกรอบของกองทัพบก ที่ผ่านมา ในศึกเขาพระวิหาร ที่ใช้แผนนี้ ปัจจุบันขีดความสามารถกำลังรบเราเป็นอย่างไร โฆษก ทบ. ระบุพัฒนามาตามลำดับ และพิจารณาให้เหมาะสมกับภัยคุกคาม และขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ป้องกันภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม ส่วนแผนหลักๆ เป็นการป้องกัน หรือรุกคืบ โฆษก ทบ. ระบุ อาจจะพูดไม่ได้ แต่โดยปกติ อันดับแรกต้องครอบคลุมอธิปไตยของเราก่อน ส่วนเป็นการซีลชายแดนหรือไม่ โฆษก ทบ. ระบุพูดง่ายๆ แผนนี้ […]

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

รพ.น่าน อพยพผู้ป่วยด่วน น้ำทะลักท่วมแผนกฉุกเฉิน

น่าน 24 ก.ค.-รพ.น่าน อพยพผู้ป่วยด่วน กลางดึกที่ผ่านมา น้ำทะลักท่วมแผนกฉุกเฉิน จิตอาสา-ทหารเร่งช่วยกลางวิกฤตน้ำหลาก 23 กรกฎาคม 2568 เวลา 20.30 น. โรงพยาบาลน่าน ประกาศเคลื่อนย้ายผู้ป่วยด่วนจากแผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน หลังเกิดน้ำท่วมฉับพลันจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลหลากทะลักเข้าสู่พื้นที่ชั้นกลางของโรงพยาบาล โดยเฉพาะบริเวณแผนกฉุกเฉิน ซึ่งเป็นพื้นที่รับผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลเร่งด่วน โดยที่ นพ.ณัฐธร ดาราพงศ์สถาพร รองผู้อำนวยการด้านโครงสร้างสิ่งแวดล้อมและพลังงาน กล่าวว่า โรงพยาบาลน่านในขณะนี้มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากแผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉินเป็นการเร่งด่วน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยชีวิต เช่น เครื่องช่วยหายใจ และเครื่องฟอกไต มีการจัดย้ายไปยังแผนกอื่นๆ ที่ปลอดภัยกว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยังได้ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอก ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก จิตอาสา ทหารมณฑลทหารบกที่ 38, มูลนิธิเพชรเกษม, ปภ.จังหวัดน่าน และหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ เข้าร่วมเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงตั้งแนวกั้นน้ำเพิ่มเติมเพื่อสกัดไม่ให้น้ำไหลเข้าสู่ห้องไอซียูและห้องผ่าตัด ถนนวรวิชัยหน้าโรงพยาบาลน่าน ถูกน้ำท่วมขังสูงกว่า 30–50 เซนติเมตร ทำให้รถพยาบาลไม่สามารถเข้าถึงตัวอาคารได้สะดวก เจ้าหน้าที่ต้องใช้เปลหามเดินลุยน้ำเป็นระยะทางกว่า 100 เมตร เพื่อรับส่งผู้ป่วยในบางกรณี ขณะนี้ทางโรงพยาบาลน่าน ขอให้ประชาชนที่เจ็บป่วยไม่รุนแรงเดินทางไปยังสถานพยาบาลอื่น ๆ แทน […]

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย