นายกฯ ขอนับหนึ่งขุดศักยภาพเมืองคอน

วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) 8 เม.ย.- นายกฯ สักการะวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) บอกในสายตา จ.นครศรีธรรมราช ไม่เคยเป็นเมืองรอง ชี้ “เพชรก็คือเพชร” ขอนับหนึ่งขุดศักยภาพเมืองคอน หนุนเปิดสนามบินระหว่างประเทศ ขยายรันเวย์รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ ลั่นมาครั้งแรก แต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย อีก 6 เดือน กลับมาตรวจการบ้าน ขณะที่ประชาชนแห่รับแน่น


ภารกิจสุดท้ายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในการลงพื้นที่จังหวัดภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครนครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 6-8 เม.ย. 2567 ได้เดินทางมายังวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เพื่อกราบนมัสการพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ (อภิชิต พุทฺธสโร น.ธ.เอก พธ.ม.) เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ รองรองเจ้าคณะอำเภอสิชล พร้อมสนทนาธรรมกับเจ้าอาวาส

โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะมาดูแลจังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่ใช่เฉพาะการท่องเที่ยว แต่จะดูแลเรื่องการคมนาคมด้วย ซึ่งมาที่วัดเจดีย์ไม่คิดว่าจะเจริญขนาดนี้ มีผลพวงทางเศรษฐกิจมากมาย ทำให้ความเป็นอยู่ประชาชนดีขึ้น การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมศาสนาก็ยังมีช่องให้ทำอีกมาก ซึ่งการลงมาพื้นที่ครั้งนี้นอกจากมาดูแลในเรื่องเส้นทางคมนาคมการขยายเส้นทางการบินและการท่องเที่ยวแล้วก็จะมาดูการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและศาสนาด้วย


จากนั้น พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ (อภิชิต พุทฺธสโร น.ธ.เอก พธ.ม.) เจ้าอาวาส มอบเหรียญไอ้ ซึ่งรุ่นกฐิน 59 ไม่มีการจำหน่ายให้บูชา ให้แก่นายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นสิริมงคล

ก่อนที่นายเศรษฐาได้สักการะพร้อมปิดทองไอ้ไข่ เพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทางมาเยือนจังหวัดนครศรีธรรมราชในครั้งนี้

จากนั้นนายเศรษฐา ได้พบปะกับประชาชนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมรับฟังรายงานและรับชมวิดิทัศน์จากนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรี โดยมีประชาชนมารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก พร้อมกับชูป้ายต้อนรับนายกฯ


ต่อมานางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะ สส.นครศรีธรรมราช พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ขึ้นกล่าวรายงานนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นเพชรเม็ดงามที่อยู่แดนใต้ ที่พร้อมจะให้นายกรัฐมนตรีเจียระไน กลายเป็นแหวนเพชรเม็ดงาม ซึ่งนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ โดยคาดหวังว่านายกรัฐมนตรีจะยกระดับและพัฒนาจังหวัดนครฯ ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป

โดยนายกนัฐมนตรี กล่าวว่า กราบสวัสดีพี่น้องเมืองคอนที่รักทุกคน ตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาลได้ 7 เดือนเต็ม ตั้งแต่รู้จักรัฐมนตรีปุ้ย (น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ) ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดเวลาเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศไทย แต่เหนือสิ่งอื่นใดตนว่าเรามาดูที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งรัฐมนตรีปุ้ยเองก็ชวนให้ตนมาดูว่าเราจะช่วยพัฒนายกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องทุกคนได้อย่างไร เราทำมากันกันมา 7 เดือนแล้วเป็นที่ประจักษ์แล้วว่ารัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีรัฐมนตรีหลากหลายกระทรวง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาก็มาด้วย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรามาดูแลมายืนยันว่า “เพชรยังไงก็เป็นเพชรเสมอ” เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและจะเดินหน้าต่อไปที่จะพัฒนาเมืองนครศรีธรรมราชให้เป็นเมืองหลักสมกับที่มีวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร สถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ที่มาที่นี่อยากจะมามากกว่า 1 วัน แต่หากรอเวลาคงใช้เวลาอีกนาน เชื่อว่าแม้ว่ามาแค่วันเดียว ก็พอจะเห็นปัญหา และกลับไปทำการบ้าน อย่างแรกเลยก็คือสนามบิน ตนเห็นด้วยว่า นครศรีธรรมราชมีศักยภาพสูงยังไงก็ต้องเปิดให้การเดินทางระหว่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ตนเข้าใจว่ามีทั้งนักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์และมาเลเซียมาท่องเที่ยวที่จังหวัดนี้เยอะมาก เรายังไม่มีการเตรียมความพร้อมเรื่องสนามบิน แต่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมก็จะกลับไปทำการบ้าน ไม่ใช่แค่เตรียมเปิดระหว่างประเทศแต่ยังหมายถึงการขยายรันเวย์ให้ใหญ่ขึ้นรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้นและไม่ใช่ให้ความสำคัญแค่เรื่องการท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่วันนี้จะนำเรื่องการท่องเที่ยวเกี่ยวกับศาสนาไปศึกษาและขยายผลต่อเพื่อให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนรู้จักจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ดีขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเรื่องการเกษตรก็เป็นเรื่องสำคัญตนทราบมาว่าที่นี่มีการปลูกยางพาราเยอะมากซึ่งในช่วง7เดือนที่ผ่านมาราคายางพาราขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตนก็หวังว่าเราจะช่วยกันทำงานต่อขึ้นเพื่อรักษาระดับราคายางให้สูงแบบนี้ต่อไป

ขณะที่ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ นายกรัฐมนตรี เชื่อว่ามีอยู่หลากหลายมิติ วันนี้ท่านมีผู้แทนที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กแต่ใจใหญ่ได้มาดูแลกระทรวงที่สำคัญคือกระทรวงอุตสาหกรรม ถือเป็นกระทรวงที่ใหญ่กระทรวงหนึ่ง และท่านเองก็มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของประเทศเพราะฉะนั้นตนมั่นใจว่าจังหวัดนี้จะถูกพัฒนาไปสู่ศักยภาพที่สามารถไปถึงได้

และยังมีอีกหลายมิติที่รัฐบาลยังทำอยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแก้หนี้นอกระบบ ตนอยากจะขอความกรุณาว่า ถ้าท่านใดเป็นหนี้นอกระบบ เรามีระบบในการเข้ามาแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่กับลูกหนี้พบกัน โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครองเข้ามาช่วยดูแลทำให้เรามีการแก้ไขปัญหาหนี้สินได้ ก็อยากจะวิงวอนว่าถ้าหากท่านมีปัญหาเหล่านี้ก็อย่าได้นิ่งนอนใจ อย่าได้กลัวอิทธิพล บ้านเมืองมีขื่อมีแป เพราะฉะนั้นรัฐบาลอยากดูแลท่านทำงานมาเหนื่อยแทบตายต้องมาจ่ายดอกเบี้ยมหาโหด ตนเชื่อว่าเป็นเรื่องอะไรที่พวกเราทุกคนรับไม่ได้ก็อยากให้หมดไปจากสังคมไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐมนตรีการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวไปว่าเป็นเมืองรองมาอยากให้เป็นเมืองหลักแต่ตนอยากจะบอกว่าจังหวัดนี้เป็นจังหวัดที่ใหญ่และมีศักยภาพสูงมาก มีสส.อยู่ถึง 10 ท่าน เป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ จริงๆแล้วไม่เคยเป็นเมืองรองแต่เป็นเมืองหลักที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่จากรัฐบาลให้มากขึ้น ทำงานมาแล้ว 7 เดือนรวบรวมข้อมูลมาเยอะมากแล้ว จากวันนี้เป็นต้นไปเราเริ่มนับหนึ่งดีกว่าว่าเราจะขุดศักยภาพของจังหวัดนครศรีธรรมราชมามากน้อยขนาดไหน การเยือนทางนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายไม่เกิน 6 เดือน ตนจะมาอีกเพื่อมาดูความคืบหน้าการทำงานของทุกคน

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับพี่น้องประชาชนที่มารอต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ซึ่ง ประชาชนบางส่วนได้ถือป้ายข้อความต้อนรับนายกรัฐมนตรี เช่น “ชาวนครศรีฯยินดีต้อนรับ”, “ขอราคายางแบบนี้ตลอดไป”, “โหมเราขอต้อนรับท่านนายก”, “เป็นกำลังใจมากๆนายกนิด” และถือว่าเป็นการจบภารกิจการลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ทบ. แจง 4 ขั้นตอนแนวทางปฏิบัติควบคุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย.-ทบ. แจงแนวทางปฏิบัติตามคำสั่งควบคุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา ดำเนินการเป็นขั้นตอนตามสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจาก กรณีที่กองทัพบกได้ออกคำสั่งให้มีการควบคุมจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อรักษาอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงของชาติ การดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวมิได้เป็นการใช้มาตรการสูงสุดในทันที แต่เป็นแนวทางปฏิบัติแบบขั้นตอน โดยพิจารณาจากระดับความรุนแรงของสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ โดยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนหลัก ดังนี้ ขั้นที่ 1 จำกัดการผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่น ๆ โดยเพิ่มระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น นักพนัน หรือกลุ่มที่อาจเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย ขั้นที่ 2 ปรับลดช่วงเวลาในการเปิด–ปิดจุดผ่านแดน พร้อมทั้งกำหนดวัน–เวลาการเข้า–ออกอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมความเคลื่อนไหวของบุคคลและกิจกรรมในพื้นที่ชายแดน ขั้นที่ 3 ปิดจุดผ่านแดนบางจุด (Selective Closure) โดยพิจารณาจากจุดที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีข้อมูลด้านความมั่นคงที่อาจนำไปสู่การรุกล้ำ หรือการก่อเหตุจากฝ่ายตรงข้าม ขั้นที่ 4 ปิดจุดผ่านแดนตลอดแนวชายแดนในกรณีที่เกิดสถานการณ์วิกฤต หรือมีการรุกรานอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมสถานการณ์ในระดับสูงสุด โฆษกกองทัพบกย้ำว่า มาตรการดังกล่าวได้มอบอำนาจให้ กองกำลังบูรพา และ […]

กองทัพอิสราเอลพบร่างตัวประกันชาวไทยในฉนวนกาซา

เยรูซาเล็ม 7 มิ.ย. – นายอิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าววันเสาร์ว่า กองทัพอิสราเอลได้พบร่างของตัวประกันชาวไทยชื่อ นายณัฐพงษ์ ปินตา ที่ถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซาตั้งแต่การโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 นายคัตซ์กล่าวว่า ร่างของณัฐพงษ์ อยู่กับกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ที่ชื่อว่า กองพลน้อยมูจาฮีดีน และถูกนำกลับมาจากพื้นที่ราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ในขณะที่ครอบครัวของเขาในประเทศไทยได้รับแจ้งแล้ว นายณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นคนงานภาคเกษตรกรรม ถูกลักพาตัวไปจาก คิบบุตซ์ นีร์ ออซ ซึ่งเป็นชุมชนเล็กๆ ใกล้ชายแดน ซึ่งเป็นจุดดที่หนึ่งในสี่ของประชากรถูกสังหารหรือถูกจับเป็นตัวประกันระหว่างการโจมตีที่นำโดยกลุ่มฮามาสในปี 2023 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า นายณัฐพงษ์ ถูกลักพาตัวไปในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และถูกสังหารโดยผู้ที่จับตัวเขาไป ซึ่งได้ลงมือสังหารและนำร่างของตัวประกันชาวอิสราเอล-อเมริกันอีกสองคนกลับไปยังฉนวนกาซาด้วย โดยร่างของทั้งสองคนนั้นก็เพิ่งได้กลับคืนมาได้ในสัปดาห์นี้.-813.-สำนักข่าวไทย

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย