นายกฯ ขอนับหนึ่งขุดศักยภาพเมืองคอน

วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) 8 เม.ย.- นายกฯ สักการะวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) บอกในสายตา จ.นครศรีธรรมราช ไม่เคยเป็นเมืองรอง ชี้ “เพชรก็คือเพชร” ขอนับหนึ่งขุดศักยภาพเมืองคอน หนุนเปิดสนามบินระหว่างประเทศ ขยายรันเวย์รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ ลั่นมาครั้งแรก แต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย อีก 6 เดือน กลับมาตรวจการบ้าน ขณะที่ประชาชนแห่รับแน่น


ภารกิจสุดท้ายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในการลงพื้นที่จังหวัดภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครนครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 6-8 เม.ย. 2567 ได้เดินทางมายังวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เพื่อกราบนมัสการพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ (อภิชิต พุทฺธสโร น.ธ.เอก พธ.ม.) เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ รองรองเจ้าคณะอำเภอสิชล พร้อมสนทนาธรรมกับเจ้าอาวาส

โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะมาดูแลจังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่ใช่เฉพาะการท่องเที่ยว แต่จะดูแลเรื่องการคมนาคมด้วย ซึ่งมาที่วัดเจดีย์ไม่คิดว่าจะเจริญขนาดนี้ มีผลพวงทางเศรษฐกิจมากมาย ทำให้ความเป็นอยู่ประชาชนดีขึ้น การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมศาสนาก็ยังมีช่องให้ทำอีกมาก ซึ่งการลงมาพื้นที่ครั้งนี้นอกจากมาดูแลในเรื่องเส้นทางคมนาคมการขยายเส้นทางการบินและการท่องเที่ยวแล้วก็จะมาดูการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและศาสนาด้วย


จากนั้น พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ (อภิชิต พุทฺธสโร น.ธ.เอก พธ.ม.) เจ้าอาวาส มอบเหรียญไอ้ ซึ่งรุ่นกฐิน 59 ไม่มีการจำหน่ายให้บูชา ให้แก่นายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นสิริมงคล

ก่อนที่นายเศรษฐาได้สักการะพร้อมปิดทองไอ้ไข่ เพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทางมาเยือนจังหวัดนครศรีธรรมราชในครั้งนี้

จากนั้นนายเศรษฐา ได้พบปะกับประชาชนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมรับฟังรายงานและรับชมวิดิทัศน์จากนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรี โดยมีประชาชนมารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก พร้อมกับชูป้ายต้อนรับนายกฯ


ต่อมานางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะ สส.นครศรีธรรมราช พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ขึ้นกล่าวรายงานนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นเพชรเม็ดงามที่อยู่แดนใต้ ที่พร้อมจะให้นายกรัฐมนตรีเจียระไน กลายเป็นแหวนเพชรเม็ดงาม ซึ่งนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ โดยคาดหวังว่านายกรัฐมนตรีจะยกระดับและพัฒนาจังหวัดนครฯ ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป

โดยนายกนัฐมนตรี กล่าวว่า กราบสวัสดีพี่น้องเมืองคอนที่รักทุกคน ตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาลได้ 7 เดือนเต็ม ตั้งแต่รู้จักรัฐมนตรีปุ้ย (น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ) ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดเวลาเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศไทย แต่เหนือสิ่งอื่นใดตนว่าเรามาดูที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งรัฐมนตรีปุ้ยเองก็ชวนให้ตนมาดูว่าเราจะช่วยพัฒนายกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องทุกคนได้อย่างไร เราทำมากันกันมา 7 เดือนแล้วเป็นที่ประจักษ์แล้วว่ารัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีรัฐมนตรีหลากหลายกระทรวง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาก็มาด้วย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรามาดูแลมายืนยันว่า “เพชรยังไงก็เป็นเพชรเสมอ” เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและจะเดินหน้าต่อไปที่จะพัฒนาเมืองนครศรีธรรมราชให้เป็นเมืองหลักสมกับที่มีวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร สถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ที่มาที่นี่อยากจะมามากกว่า 1 วัน แต่หากรอเวลาคงใช้เวลาอีกนาน เชื่อว่าแม้ว่ามาแค่วันเดียว ก็พอจะเห็นปัญหา และกลับไปทำการบ้าน อย่างแรกเลยก็คือสนามบิน ตนเห็นด้วยว่า นครศรีธรรมราชมีศักยภาพสูงยังไงก็ต้องเปิดให้การเดินทางระหว่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ตนเข้าใจว่ามีทั้งนักท่องเที่ยวจากสิงคโปร์และมาเลเซียมาท่องเที่ยวที่จังหวัดนี้เยอะมาก เรายังไม่มีการเตรียมความพร้อมเรื่องสนามบิน แต่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมก็จะกลับไปทำการบ้าน ไม่ใช่แค่เตรียมเปิดระหว่างประเทศแต่ยังหมายถึงการขยายรันเวย์ให้ใหญ่ขึ้นรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้นและไม่ใช่ให้ความสำคัญแค่เรื่องการท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่วันนี้จะนำเรื่องการท่องเที่ยวเกี่ยวกับศาสนาไปศึกษาและขยายผลต่อเพื่อให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนรู้จักจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ดีขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเรื่องการเกษตรก็เป็นเรื่องสำคัญตนทราบมาว่าที่นี่มีการปลูกยางพาราเยอะมากซึ่งในช่วง7เดือนที่ผ่านมาราคายางพาราขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตนก็หวังว่าเราจะช่วยกันทำงานต่อขึ้นเพื่อรักษาระดับราคายางให้สูงแบบนี้ต่อไป

ขณะที่ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ นายกรัฐมนตรี เชื่อว่ามีอยู่หลากหลายมิติ วันนี้ท่านมีผู้แทนที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กแต่ใจใหญ่ได้มาดูแลกระทรวงที่สำคัญคือกระทรวงอุตสาหกรรม ถือเป็นกระทรวงที่ใหญ่กระทรวงหนึ่ง และท่านเองก็มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของประเทศเพราะฉะนั้นตนมั่นใจว่าจังหวัดนี้จะถูกพัฒนาไปสู่ศักยภาพที่สามารถไปถึงได้

และยังมีอีกหลายมิติที่รัฐบาลยังทำอยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแก้หนี้นอกระบบ ตนอยากจะขอความกรุณาว่า ถ้าท่านใดเป็นหนี้นอกระบบ เรามีระบบในการเข้ามาแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่กับลูกหนี้พบกัน โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครองเข้ามาช่วยดูแลทำให้เรามีการแก้ไขปัญหาหนี้สินได้ ก็อยากจะวิงวอนว่าถ้าหากท่านมีปัญหาเหล่านี้ก็อย่าได้นิ่งนอนใจ อย่าได้กลัวอิทธิพล บ้านเมืองมีขื่อมีแป เพราะฉะนั้นรัฐบาลอยากดูแลท่านทำงานมาเหนื่อยแทบตายต้องมาจ่ายดอกเบี้ยมหาโหด ตนเชื่อว่าเป็นเรื่องอะไรที่พวกเราทุกคนรับไม่ได้ก็อยากให้หมดไปจากสังคมไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐมนตรีการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวไปว่าเป็นเมืองรองมาอยากให้เป็นเมืองหลักแต่ตนอยากจะบอกว่าจังหวัดนี้เป็นจังหวัดที่ใหญ่และมีศักยภาพสูงมาก มีสส.อยู่ถึง 10 ท่าน เป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ จริงๆแล้วไม่เคยเป็นเมืองรองแต่เป็นเมืองหลักที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่จากรัฐบาลให้มากขึ้น ทำงานมาแล้ว 7 เดือนรวบรวมข้อมูลมาเยอะมากแล้ว จากวันนี้เป็นต้นไปเราเริ่มนับหนึ่งดีกว่าว่าเราจะขุดศักยภาพของจังหวัดนครศรีธรรมราชมามากน้อยขนาดไหน การเยือนทางนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายไม่เกิน 6 เดือน ตนจะมาอีกเพื่อมาดูความคืบหน้าการทำงานของทุกคน

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับพี่น้องประชาชนที่มารอต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ซึ่ง ประชาชนบางส่วนได้ถือป้ายข้อความต้อนรับนายกรัฐมนตรี เช่น “ชาวนครศรีฯยินดีต้อนรับ”, “ขอราคายางแบบนี้ตลอดไป”, “โหมเราขอต้อนรับท่านนายก”, “เป็นกำลังใจมากๆนายกนิด” และถือว่าเป็นการจบภารกิจการลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]