ฟาด “วิโรจน์” คุยคับแก้ว มีแต่เรื่องเก่า

รัฐสภา 4 เม.ย.-“สุทิน” ไล่แจงทีละประเด็น ทั้งฟริเกต –ร.ล.สุโขทัย ตอกกลับ “วิโรจน์” หลอกปชช. โฆษณาอภิปรายคับแก้ว สุดท้ายมีแต่เรื่องเก่าที่ตอบไปแล้ว ปฏิรูปกองทัพต้องใช้เวลา ย้ำถ้าความมั่นคงดี ทุกคนได้ประโยชน์ กินอิ่ม นอนอุ่น


นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงปัญหาภายในกองทัพ หลังจากถูกสส.พรรคก้าวไกลอภิปรายพาดพิง  ว่า เท่าที่ฟังเป็นการกล่าวหาเป็นส่วนใหญ่ ตนจะเก็บสิ่งที่เป็นประโยชน์ แม้จะเป็นการกล่าวหา เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงาน ตนพยายามฟังสส.ก้าวไกลทั้ง 3 คนที่อภิปรายเกี่ยวกับทหาร โดยเฉพาะนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ที่ระบุว่าตนตบตาหลอกลวงประชาชน

“ถ้าฟังแล้วคนที่ตบตาหลอกลวงประชาชนคือนายวิโรจน์ เอง เพราะโฆษณาว่าจะอภิปรายแบบคุณภาพคับแก้ว จึงมีคนติดตามฟังเต็มบ้านเต็มเมือง แต่พอเอาเข้าจริงเป็นเรื่องเก่าเรื่องเดิมที่เคยพูดและผมเคยตอบไปแล้ว 90% เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดที่แล้ว ถือเป็นพฤติกรรมที่หมักหมมสะสมที่ผมและนายวิโรจน์ ก็เคยพูด เคยว่ากองทัพมาด้วยกัน แต่ท่านพูดเหมือนกับให้ชาวบ้านเข้าใจ มันเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ แล้วพยายามจะบอกว่า 6-7 เดือนที่ผมอยู่ ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้แก้ปัญหา ทำให้ชาวบ้านผิดหวัง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว


นายสุทิน กล่าวว่า ส่วนนายชยพล สะท้อนดี เป็นคนรุ่นใหม่อภิปรายดี แต่ไม่โฟกัสประเด็น ตนก็พยายามฟังแต่เหมือนลักษณะบ่นไปเรื่อย ก็พยายามจะตอบแต่ต้องขอบคุณนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้แจงแทนไปแล้ว เช่นเดียวกับนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์  ที่ฟังเนื้อหาอภิปรายแล้วเหมือนกำลัง ตรวจสอบคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงของกองทัพเรือ

“เรื่องร.ล.สุโขทัยเป็นการโต้แย้งหักล้างกรรมการ ไม่เกี่ยวกับผม แต่พยายามเอาผมเข้าไปเกี่ยวข้อง ผมจะชี้แจงไปพร้อมกันทั้ง 3 คน เพื่อให้การรับฟังต่อเนื่องเชื่อมโยง โดยจะเริ่มต้นขอชี้แจงเรื่องร.ล.สุโขทัยที่บอกว่าเป็นปาหี่ ผมก็ติดตามเหมือนกันว่าจะเป็นปาหี่หรือไม่ เพราะขณะนี้ยังสอบสวนไม่เสร็จ การจะลงโทษเอาผิด ไม่ใช่วิธีการบริหาร เพราะยังไม่แล้วเสร็จ ต้องรอรายงานผลการสอบสวน นำไปตรวจสอบ ถ้าเป็นลักษณะปาหี่จริง ไม่ต้องห่วง ผมตั้งคณะกรรมการใหม่ได้ โดยจะตั้งคณะกรรมการภายนอกมาสอบ วันที่ 9 เม.ย.นี้ กองทัพเรือจะสรุปผลสอบสวนว่าใครผิด ใครถูก ใครได้รับการลงโทษ ยืนยันเรื่องนี้ไม่มีแพะเด็ดขาด” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า ส่วนประเด็นของนายวิโรจน์ อธิบายดี แต่ลงลึกรายละเอียดเกินไป เรื่องเล็กน้อยที่ยกมา ถ้าตนต้องไปตามต่อทุกเรื่องคงนานและยอมรับว่าเกิดปัญหาโครงสร้างที่ล้มเหลวของกองทัพที่มีมายาวนาน ขณะนี้อยู่ระหว่างแก้ปัญหาโครงสร้าง ถ้าทำได้ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิด ขอให้ลองฟังว่าวิธีการทำงานของตนจะทำให้สบายใจหรือไม่ ถ้าไม่ได้ ยังมีเวลาอีก 3 ปี ที่จะให้คำแนะนำได้ คิดว่าจะทำงานร่วมกับนายวิโรจน์ ได้ แต่เหมือนกับที่นายกรัฐมนตรีระบุประเทศยังต้องมีกองทัพ เพราะเป็นองค์กรด้านความมั่นคงที่กระทบกับทุกคน


“ถ้าความมั่นคงดี ทุกคนก็จะได้รับประโยชน์กินอิ่ม นอนอุ่น ดังนั้น ไม่ว่าเราจะเกลียดกองทัพ หรือมีอคติ ผมก็เคยมีความคิดว่ากองทัพมีปัญหาหลายเรื่อง แต่สุดท้ายคิดว่ากองทัพยังต้องมี อยู่กับเรา ต้องแก้ไขร่วมกันให้กองทัพมีคุณภาพ เราต้องเอากองทัพไว้ ถ้าผมทำไม่ดี ไม่เป็นอย่างที่ว่าก็ให้คำแนะนำมาได้ การมาเป็นรัฐมนตรี ผมก็ทำตามที่พูดไว้ว่าจะปฏิรูปกองทัพ ให้ทันสมัยเป็นที่ยอมรับของประชาชน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า หลังจากที่เข้ามาทำหน้าที่รัฐมนตรี ได้ทาบทาม นักวิชาการ ผู้มีความรู้ทั้งทหารเก่าและทหารใหม่เพื่อปฏิรูปกองทัพ แต่คิดไปคิดมา เราควรไปดูข้างในก่อนว่า เขาได้ปฏิรูป ตระหนักรู้ ตระหนักถึงปัญหาหรือไม่ ถ้าเขาไม่ทำค่อยว่ากัน ทุกอย่างเค้าทำอยู่แล้ว “ลุงตู่” ทำอยู่แล้ว และกล่าวหาตนว่าไปเคลมผลงานเขา ท่านคิดแบบนั้น ตนก็คิดแบบนั้น พอเห็นแบบนั้นตนก็เลยใช้ไม้อ่อน ให้คนภายในเขาปฏิรูปกันเอง

“ปฏิรูปกับปฏิวัติมันต่างกัน ท่านอย่าสับสน ถ้าปฏิวัติคือฉับพลันทางด่วน ไม่ต้องมีส่วนร่วม แต่ปฏิรูปคือร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ ขอไปดูว่าที่ท่านเขียนไว้ ท่านคิดว่าจะปฏิวัติหรือปฏิรูป ถ้าผมเป็นเด็กมีอายุเท่าท่าน ผมใช้วิธีการปฏิวัติเลย แต่พออายุเท่าวันนี้ ที่ผ่านมาหลายเรื่อง ผมคิดว่าการร่วมคิด ร่วมทำดีที่สุด โดยผมตั้งคณะทำงาน 10 ชุด ซึ่งจะครอบคลุมกับปัญหาที่อยากให้แก้ เช่น รูปแบบการเลือกทหารกองประจำการ การฝึกนักศึกษาวิชาทหาร การดำเนินการด้านสวัสดิการกำลังพล การแก้ไขร่างกฎหมายความมั่นคง การศึกษาแนวทางที่เหมาะสมกับการจัดหาเรือดำน้ำ ระยะที่ 1” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า กองทัพพร้อมปฏิรูป โดยเสนอปรับโครงสร้างกองทัพ ระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ที่ปรับลดนักเรียนนายร้อยทหาร คือสิ่งที่รัฐบาลเก่าทำไว้ แต่ของตนเมื่อเกษียณก็ปิดอัตราตำแหน่งนั้นไปเลย และรวบรวมหน่วยงานที่มีภารกิจเดียวกัน รวมถึงยุบบางหน่วยงาน ดังนั้น การลดกำลังพลอย่าคิดว่าตนเคลมเอาผลงานของรัฐบาลชุดที่แล้ว แต่ตนเร่งรัด โดยให้เออรี่รีไทร์ ซึ่งตั้งงบประมาณในปี 2568 แล้ว

“ส่วนเรื่องการจัดซื้อเรือฟริเกต ที่ถูกตัดงบ ปี 2567  กองทัพเรือไม่ได้เรือฟริเกต ท่านก็มาบอกเห็นอกเห็นใจกองทัพเรือพรรณานาว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ควรตัดเขา แบบนี้กองทัพกองทัพเรือรักท่านตายเลย แล้วเกลียดผมแย่  ท่านรู้หรือไม่ทำไมตัด การตั้งงบประมาณจัดซื้ออาวุธ หนักใจที่สุดเพราะกลัวฝ่ายค้านด่า พูดตรง ๆ กลัวพรรคก้าวไกลด่านี้แหละ เลยตัดให้มันลงมาในกรอบ แล้วที่ตัดจะมียุทธศาสตร์ที่สำคัญในปีต่อไปอย่างไร ไม่ให้ซ้ำกัน พอตัดปั้บ ผมแทงม้าผิดตัว ซื้อหวยผิดล็อก กลับกลายว่าพรรคก้าวไกลเชียร์ให้เอาไว้  ตายเลย ในคณะกรรมาธิการเชียร์ไว้ ให้เอาต่อ เจอเหลี่ยมนี้ผมหลงมุมเลย ถ้าเป็นภาษามวย วกกลับไม่ทัน ไม่เชื่อว่าท่านจะมาเชียร์ พอไปดู สาระ ก็มีเหตุผลในเรื่องของแรงงานและ อัตราความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อท่านสับขาหลอกได้ ผมก็สับเป็น ถ้าปีหน้าตนให้งบกองทัพเรือ อย่าบ่นอย่ามาว่าตนจำคำไว้ดี  ท่านเชียร์ให้เพิ่มอาวุธให้กองทัพ เชียร์ให้ซื้อเรือฟริเกต เพราะผมให้ 2 ลำอย่ามาด่าผม รวมถึงซื้ออาวุธอย่างอื่นอย่ามาด่าผม” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว  

นายสุทิน กล่าวว่า ต้องขอบคุณนายวิโรจน์ ที่นำคลิปมาเปิด แสดงว่าตนพูด นโยบายชัด การซื้ออาวุธประเทศจะต้องได้ประโยชน์  แต่ท่านบอกว่าตนขอ เหมือนว่าตนหน่อมแน้ม เหมือนจำนวนที่ตนสอนเด็กนักเรียน คนก้าวร้าวจะไม่เคยเห็นคุณค่า ไม่เข้าใจความนุ่มนวล และว่า “คำว่าขอของผมคือการสั่งการไม่จำเป็นต้องไปคำรามใส่เขา  ไม่จำเป็นว่ากูต้องทำแบบนั้นจะเอาแบบนี้ การจะใช้คำพูดแบบนั้นบางที่ก็ใช้ไม่ได้  ชัดเจน โยงไปถึงอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่กล่าวหาว่าผมจะละทิ้ง ไม่สนับสนุน มีการทำ Mou สนับสนุนการใช้อาวุธในประเทศ“

นายสุทิน ยังกล่าวถึง การกล่าวหาว่ามีเรื่องเงินทอน เป็นเรื่องที่เกิดมานาน รัฐบาลชุดนี้เข้ามาเพิ่งจะจัดซื้อจัดจ้างอย่างเป็นทางการ คืองบ 2567  ที่ผ่านมาเขาก็ซื้อตามระบบกันมา แต่ตนจะดูให้ดีที่สุดให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลให้ดีที่สุด

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ขอใช้สิทธิ์พาดพิงลุกขึ้นชี้แจงอีกรอบ ว่า ขอนิดเดียว เพราะหากไม่ได้ชี้แจงจะทำให้เกิดความเสียหาย ยืนยันตามเดิมว่าการที่ให้กองทัพเปิดเผย โปร่งใสมีกำลังพลที่เหมาะสม ไม่ได้เป็นการด้อยค่ากองทัพ และขอค้านกับสิ่งที่นายสุทินให้สัมภาษณ์มาตลอดว่าพวกตนด้อยค่ากองทัพ และการปกป้องเรือฟริเกตที่มีคุณูประการต่อประเทศ ส่งเสริมอุตสาหกรรมการต่อเรือ อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ แบบนี้เป็นการด้อยค่าประเทศหรือ

“เรื่องที่สอง ผมขอขอบคุณรัฐมนตรีที่มาสารภาพกลางสภาฯ แรกเริ่มเดิมทีประชาชนคนไทยคิดว่าประเทศมีนายพลแค่ 1,000 กว่านาย ท่านมาสารภาพว่ามีถึง 2,900 นาย ผมต้องชี้แจงอย่างนี้นะครับ และท่านคงฟังผมไม่ครบไม่ถ้วน ผมบอกว่านายพลที่ไม่มีตำแหน่งแห่งที่ 700 กว่านาย มันคงต้องเหลือ 0 ไม่ใช่เหลือแค่ 300 นาย ผมก็เลยชี้แจงให้ท่านฟังอีกครั้งหนึ่ง แต่นายพล 2,900 นายนี่ ผมคิดว่าประชาชนซู๊ดปาก ซี๊ดปากกันทั้งประเทศ” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องที่สาม ตนไม่เคยพูดว่าหนองวัวซอโมเดลเป็นการแจกโฉนด ไปดูได้ แต่กำลังบอกว่าปัญหาใหญ่คือการพิสูจน์สิทธิ์ที่ดิน ที่เขาเชื่อว่าปู่ย่าตายายครอบครองมาก่อน  รัฐบาลควรจะเร่งพิสูจน์สิทธิ์ ไม่ใช่เอาที่ดินที่เขาเชื่อว่าเป็นของเขามาให้เขาเช่า โดยตัดการพิสูจน์สิทธิ์

“ผมผิดหวังที่นายสุทินบอกว่ารัฐมนตรีตัดสินใจด้วยความกลัวพรรคก้าวไกล เรื่องเรือฟริเกต ท่านต้องตัดสินใจด้วยความห้าวหาญและภาวะผู้นำ ตรรกะที่คิดว่าเรือลำนี้เป็นประโยชน์หรือคุณูปการของประเทศหรือไม่ และผมบอกกับท่านตรงนี้เลยว่าถ้าเรือลำนี้ต่อในประเทศ จะเกิดคุณูปการกับประเทศไทย วิศวกรรมการต่อเรือ แล้วราคาสมเหตุสมผล โปร่งใส ผมจะไปค้านทำไม ถ้าผมค้าน ผมคงไม่พูดวันนี้ แล้วที่ท่านกล่าวหาหรือพูดลอยๆ ว่าผมก้าวร้าว ไม่ใช่ครับ การสั่งการไม่ใช่ก้าวร้าวครับ แต่เป็นการแสดงความองอาจ แสดงภาวะผู้นำให้สมกับเป็นเสนาบดีกระทรวงกลาโหมที่ผมคิดว่าท่านยังไม่มี” นายวิโรจน์ กล่าวอย่างมีอารมณ์พร้อมกับตบไปที่หน้าอกตัวเอง.-316.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]