ฟาด “วิโรจน์” คุยคับแก้ว มีแต่เรื่องเก่า

รัฐสภา 4 เม.ย.-“สุทิน” ไล่แจงทีละประเด็น ทั้งฟริเกต –ร.ล.สุโขทัย ตอกกลับ “วิโรจน์” หลอกปชช. โฆษณาอภิปรายคับแก้ว สุดท้ายมีแต่เรื่องเก่าที่ตอบไปแล้ว ปฏิรูปกองทัพต้องใช้เวลา ย้ำถ้าความมั่นคงดี ทุกคนได้ประโยชน์ กินอิ่ม นอนอุ่น


นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงปัญหาภายในกองทัพ หลังจากถูกสส.พรรคก้าวไกลอภิปรายพาดพิง  ว่า เท่าที่ฟังเป็นการกล่าวหาเป็นส่วนใหญ่ ตนจะเก็บสิ่งที่เป็นประโยชน์ แม้จะเป็นการกล่าวหา เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงาน ตนพยายามฟังสส.ก้าวไกลทั้ง 3 คนที่อภิปรายเกี่ยวกับทหาร โดยเฉพาะนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ที่ระบุว่าตนตบตาหลอกลวงประชาชน

“ถ้าฟังแล้วคนที่ตบตาหลอกลวงประชาชนคือนายวิโรจน์ เอง เพราะโฆษณาว่าจะอภิปรายแบบคุณภาพคับแก้ว จึงมีคนติดตามฟังเต็มบ้านเต็มเมือง แต่พอเอาเข้าจริงเป็นเรื่องเก่าเรื่องเดิมที่เคยพูดและผมเคยตอบไปแล้ว 90% เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดที่แล้ว ถือเป็นพฤติกรรมที่หมักหมมสะสมที่ผมและนายวิโรจน์ ก็เคยพูด เคยว่ากองทัพมาด้วยกัน แต่ท่านพูดเหมือนกับให้ชาวบ้านเข้าใจ มันเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ แล้วพยายามจะบอกว่า 6-7 เดือนที่ผมอยู่ ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้แก้ปัญหา ทำให้ชาวบ้านผิดหวัง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว


นายสุทิน กล่าวว่า ส่วนนายชยพล สะท้อนดี เป็นคนรุ่นใหม่อภิปรายดี แต่ไม่โฟกัสประเด็น ตนก็พยายามฟังแต่เหมือนลักษณะบ่นไปเรื่อย ก็พยายามจะตอบแต่ต้องขอบคุณนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้แจงแทนไปแล้ว เช่นเดียวกับนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์  ที่ฟังเนื้อหาอภิปรายแล้วเหมือนกำลัง ตรวจสอบคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงของกองทัพเรือ

“เรื่องร.ล.สุโขทัยเป็นการโต้แย้งหักล้างกรรมการ ไม่เกี่ยวกับผม แต่พยายามเอาผมเข้าไปเกี่ยวข้อง ผมจะชี้แจงไปพร้อมกันทั้ง 3 คน เพื่อให้การรับฟังต่อเนื่องเชื่อมโยง โดยจะเริ่มต้นขอชี้แจงเรื่องร.ล.สุโขทัยที่บอกว่าเป็นปาหี่ ผมก็ติดตามเหมือนกันว่าจะเป็นปาหี่หรือไม่ เพราะขณะนี้ยังสอบสวนไม่เสร็จ การจะลงโทษเอาผิด ไม่ใช่วิธีการบริหาร เพราะยังไม่แล้วเสร็จ ต้องรอรายงานผลการสอบสวน นำไปตรวจสอบ ถ้าเป็นลักษณะปาหี่จริง ไม่ต้องห่วง ผมตั้งคณะกรรมการใหม่ได้ โดยจะตั้งคณะกรรมการภายนอกมาสอบ วันที่ 9 เม.ย.นี้ กองทัพเรือจะสรุปผลสอบสวนว่าใครผิด ใครถูก ใครได้รับการลงโทษ ยืนยันเรื่องนี้ไม่มีแพะเด็ดขาด” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า ส่วนประเด็นของนายวิโรจน์ อธิบายดี แต่ลงลึกรายละเอียดเกินไป เรื่องเล็กน้อยที่ยกมา ถ้าตนต้องไปตามต่อทุกเรื่องคงนานและยอมรับว่าเกิดปัญหาโครงสร้างที่ล้มเหลวของกองทัพที่มีมายาวนาน ขณะนี้อยู่ระหว่างแก้ปัญหาโครงสร้าง ถ้าทำได้ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิด ขอให้ลองฟังว่าวิธีการทำงานของตนจะทำให้สบายใจหรือไม่ ถ้าไม่ได้ ยังมีเวลาอีก 3 ปี ที่จะให้คำแนะนำได้ คิดว่าจะทำงานร่วมกับนายวิโรจน์ ได้ แต่เหมือนกับที่นายกรัฐมนตรีระบุประเทศยังต้องมีกองทัพ เพราะเป็นองค์กรด้านความมั่นคงที่กระทบกับทุกคน


“ถ้าความมั่นคงดี ทุกคนก็จะได้รับประโยชน์กินอิ่ม นอนอุ่น ดังนั้น ไม่ว่าเราจะเกลียดกองทัพ หรือมีอคติ ผมก็เคยมีความคิดว่ากองทัพมีปัญหาหลายเรื่อง แต่สุดท้ายคิดว่ากองทัพยังต้องมี อยู่กับเรา ต้องแก้ไขร่วมกันให้กองทัพมีคุณภาพ เราต้องเอากองทัพไว้ ถ้าผมทำไม่ดี ไม่เป็นอย่างที่ว่าก็ให้คำแนะนำมาได้ การมาเป็นรัฐมนตรี ผมก็ทำตามที่พูดไว้ว่าจะปฏิรูปกองทัพ ให้ทันสมัยเป็นที่ยอมรับของประชาชน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า หลังจากที่เข้ามาทำหน้าที่รัฐมนตรี ได้ทาบทาม นักวิชาการ ผู้มีความรู้ทั้งทหารเก่าและทหารใหม่เพื่อปฏิรูปกองทัพ แต่คิดไปคิดมา เราควรไปดูข้างในก่อนว่า เขาได้ปฏิรูป ตระหนักรู้ ตระหนักถึงปัญหาหรือไม่ ถ้าเขาไม่ทำค่อยว่ากัน ทุกอย่างเค้าทำอยู่แล้ว “ลุงตู่” ทำอยู่แล้ว และกล่าวหาตนว่าไปเคลมผลงานเขา ท่านคิดแบบนั้น ตนก็คิดแบบนั้น พอเห็นแบบนั้นตนก็เลยใช้ไม้อ่อน ให้คนภายในเขาปฏิรูปกันเอง

“ปฏิรูปกับปฏิวัติมันต่างกัน ท่านอย่าสับสน ถ้าปฏิวัติคือฉับพลันทางด่วน ไม่ต้องมีส่วนร่วม แต่ปฏิรูปคือร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ ขอไปดูว่าที่ท่านเขียนไว้ ท่านคิดว่าจะปฏิวัติหรือปฏิรูป ถ้าผมเป็นเด็กมีอายุเท่าท่าน ผมใช้วิธีการปฏิวัติเลย แต่พออายุเท่าวันนี้ ที่ผ่านมาหลายเรื่อง ผมคิดว่าการร่วมคิด ร่วมทำดีที่สุด โดยผมตั้งคณะทำงาน 10 ชุด ซึ่งจะครอบคลุมกับปัญหาที่อยากให้แก้ เช่น รูปแบบการเลือกทหารกองประจำการ การฝึกนักศึกษาวิชาทหาร การดำเนินการด้านสวัสดิการกำลังพล การแก้ไขร่างกฎหมายความมั่นคง การศึกษาแนวทางที่เหมาะสมกับการจัดหาเรือดำน้ำ ระยะที่ 1” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า กองทัพพร้อมปฏิรูป โดยเสนอปรับโครงสร้างกองทัพ ระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ที่ปรับลดนักเรียนนายร้อยทหาร คือสิ่งที่รัฐบาลเก่าทำไว้ แต่ของตนเมื่อเกษียณก็ปิดอัตราตำแหน่งนั้นไปเลย และรวบรวมหน่วยงานที่มีภารกิจเดียวกัน รวมถึงยุบบางหน่วยงาน ดังนั้น การลดกำลังพลอย่าคิดว่าตนเคลมเอาผลงานของรัฐบาลชุดที่แล้ว แต่ตนเร่งรัด โดยให้เออรี่รีไทร์ ซึ่งตั้งงบประมาณในปี 2568 แล้ว

“ส่วนเรื่องการจัดซื้อเรือฟริเกต ที่ถูกตัดงบ ปี 2567  กองทัพเรือไม่ได้เรือฟริเกต ท่านก็มาบอกเห็นอกเห็นใจกองทัพเรือพรรณานาว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ควรตัดเขา แบบนี้กองทัพกองทัพเรือรักท่านตายเลย แล้วเกลียดผมแย่  ท่านรู้หรือไม่ทำไมตัด การตั้งงบประมาณจัดซื้ออาวุธ หนักใจที่สุดเพราะกลัวฝ่ายค้านด่า พูดตรง ๆ กลัวพรรคก้าวไกลด่านี้แหละ เลยตัดให้มันลงมาในกรอบ แล้วที่ตัดจะมียุทธศาสตร์ที่สำคัญในปีต่อไปอย่างไร ไม่ให้ซ้ำกัน พอตัดปั้บ ผมแทงม้าผิดตัว ซื้อหวยผิดล็อก กลับกลายว่าพรรคก้าวไกลเชียร์ให้เอาไว้  ตายเลย ในคณะกรรมาธิการเชียร์ไว้ ให้เอาต่อ เจอเหลี่ยมนี้ผมหลงมุมเลย ถ้าเป็นภาษามวย วกกลับไม่ทัน ไม่เชื่อว่าท่านจะมาเชียร์ พอไปดู สาระ ก็มีเหตุผลในเรื่องของแรงงานและ อัตราความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อท่านสับขาหลอกได้ ผมก็สับเป็น ถ้าปีหน้าตนให้งบกองทัพเรือ อย่าบ่นอย่ามาว่าตนจำคำไว้ดี  ท่านเชียร์ให้เพิ่มอาวุธให้กองทัพ เชียร์ให้ซื้อเรือฟริเกต เพราะผมให้ 2 ลำอย่ามาด่าผม รวมถึงซื้ออาวุธอย่างอื่นอย่ามาด่าผม” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว  

นายสุทิน กล่าวว่า ต้องขอบคุณนายวิโรจน์ ที่นำคลิปมาเปิด แสดงว่าตนพูด นโยบายชัด การซื้ออาวุธประเทศจะต้องได้ประโยชน์  แต่ท่านบอกว่าตนขอ เหมือนว่าตนหน่อมแน้ม เหมือนจำนวนที่ตนสอนเด็กนักเรียน คนก้าวร้าวจะไม่เคยเห็นคุณค่า ไม่เข้าใจความนุ่มนวล และว่า “คำว่าขอของผมคือการสั่งการไม่จำเป็นต้องไปคำรามใส่เขา  ไม่จำเป็นว่ากูต้องทำแบบนั้นจะเอาแบบนี้ การจะใช้คำพูดแบบนั้นบางที่ก็ใช้ไม่ได้  ชัดเจน โยงไปถึงอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่กล่าวหาว่าผมจะละทิ้ง ไม่สนับสนุน มีการทำ Mou สนับสนุนการใช้อาวุธในประเทศ“

นายสุทิน ยังกล่าวถึง การกล่าวหาว่ามีเรื่องเงินทอน เป็นเรื่องที่เกิดมานาน รัฐบาลชุดนี้เข้ามาเพิ่งจะจัดซื้อจัดจ้างอย่างเป็นทางการ คืองบ 2567  ที่ผ่านมาเขาก็ซื้อตามระบบกันมา แต่ตนจะดูให้ดีที่สุดให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลให้ดีที่สุด

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ขอใช้สิทธิ์พาดพิงลุกขึ้นชี้แจงอีกรอบ ว่า ขอนิดเดียว เพราะหากไม่ได้ชี้แจงจะทำให้เกิดความเสียหาย ยืนยันตามเดิมว่าการที่ให้กองทัพเปิดเผย โปร่งใสมีกำลังพลที่เหมาะสม ไม่ได้เป็นการด้อยค่ากองทัพ และขอค้านกับสิ่งที่นายสุทินให้สัมภาษณ์มาตลอดว่าพวกตนด้อยค่ากองทัพ และการปกป้องเรือฟริเกตที่มีคุณูประการต่อประเทศ ส่งเสริมอุตสาหกรรมการต่อเรือ อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ แบบนี้เป็นการด้อยค่าประเทศหรือ

“เรื่องที่สอง ผมขอขอบคุณรัฐมนตรีที่มาสารภาพกลางสภาฯ แรกเริ่มเดิมทีประชาชนคนไทยคิดว่าประเทศมีนายพลแค่ 1,000 กว่านาย ท่านมาสารภาพว่ามีถึง 2,900 นาย ผมต้องชี้แจงอย่างนี้นะครับ และท่านคงฟังผมไม่ครบไม่ถ้วน ผมบอกว่านายพลที่ไม่มีตำแหน่งแห่งที่ 700 กว่านาย มันคงต้องเหลือ 0 ไม่ใช่เหลือแค่ 300 นาย ผมก็เลยชี้แจงให้ท่านฟังอีกครั้งหนึ่ง แต่นายพล 2,900 นายนี่ ผมคิดว่าประชาชนซู๊ดปาก ซี๊ดปากกันทั้งประเทศ” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องที่สาม ตนไม่เคยพูดว่าหนองวัวซอโมเดลเป็นการแจกโฉนด ไปดูได้ แต่กำลังบอกว่าปัญหาใหญ่คือการพิสูจน์สิทธิ์ที่ดิน ที่เขาเชื่อว่าปู่ย่าตายายครอบครองมาก่อน  รัฐบาลควรจะเร่งพิสูจน์สิทธิ์ ไม่ใช่เอาที่ดินที่เขาเชื่อว่าเป็นของเขามาให้เขาเช่า โดยตัดการพิสูจน์สิทธิ์

“ผมผิดหวังที่นายสุทินบอกว่ารัฐมนตรีตัดสินใจด้วยความกลัวพรรคก้าวไกล เรื่องเรือฟริเกต ท่านต้องตัดสินใจด้วยความห้าวหาญและภาวะผู้นำ ตรรกะที่คิดว่าเรือลำนี้เป็นประโยชน์หรือคุณูปการของประเทศหรือไม่ และผมบอกกับท่านตรงนี้เลยว่าถ้าเรือลำนี้ต่อในประเทศ จะเกิดคุณูปการกับประเทศไทย วิศวกรรมการต่อเรือ แล้วราคาสมเหตุสมผล โปร่งใส ผมจะไปค้านทำไม ถ้าผมค้าน ผมคงไม่พูดวันนี้ แล้วที่ท่านกล่าวหาหรือพูดลอยๆ ว่าผมก้าวร้าว ไม่ใช่ครับ การสั่งการไม่ใช่ก้าวร้าวครับ แต่เป็นการแสดงความองอาจ แสดงภาวะผู้นำให้สมกับเป็นเสนาบดีกระทรวงกลาโหมที่ผมคิดว่าท่านยังไม่มี” นายวิโรจน์ กล่าวอย่างมีอารมณ์พร้อมกับตบไปที่หน้าอกตัวเอง.-316.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

หาชมยาก เปิดสะพานกรุงเทพให้เรือผ่าน แห่งเดียวในไทย

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – เป็นอีกครั้งที่สะพานกรุงเทพ ยกขึ้นเพื่อให้เรือผ่าน ปัจจุบันเป็นสะพานแห่งเดียวในไทยที่ยังคงใช้งานเปิด-ปิดได้ โดยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันมีเรือที่ผ่านน้อยลง ทำให้การยกเปิดแต่ละครั้งได้รับความสนใจ เพราะเป็นภาพที่หาชมได้ไม่บ่อย.-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” ระงับนําเข้าน้ำมัน-ก๊าซจากไทย

กัมพูชา 22 มิ.ย. – “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศระงับนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง-ก๊าซทุกชนิดจากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้ มั่นใจบริษัทในกัมพูชาหาเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่นให้ประชาชนได้เพียงพอ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก Hun Manet ระบุว่า บริษัทจัดจําหน่ายน้ำมันในประเทศกัมพูชามีความสามารถในการนําเข้าเชื้อเพลิงและก๊าซจากแหล่งอื่น เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศของประชาชน แม้จะเป็นเดือน แม้ตลอดไปก็ไม่ใช่ปัญหา เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ (22 มิ.ย.68) การนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซทั้งหมดจากประเทศไทยจะถูกหยุด.-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจ นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน

22 มิ.ย. – กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ ที่ จ.สระแก้ว ตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ บริเวณจุดตรวจ ค.04 อ.คลองหาด มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง กองกำลังบูรพา และกองร้อยทหารพราน พร้อมสุนัข K9 ยังคงเดินหน้าควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาจจะพากันทะลักเข้า-ออก หลังจากที่มีคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันข้ามไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งจุดนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่เดินเท้าลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ บรรยากาศชายแดนหาดเล็กเงียบเหงาด้านบริเวณชายแดนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ มีเพียงรถบรรทุกสินค้าทั่วไปรอคิวผ่านแดนข้ามฝั่งไปประเทศกัมพูชา เจ้าของร้านค้าในพื้นที่ เล่าว่า บรรยากาศเงียบเหงามาก วันๆ แทบไม่มีคนซื้อของ ถ้าถามความรู้สึกว่าเดือดร้อนไหม บอกเลยว่ายอมเดือดร้อนดีกว่าเสียดินแดนซ้ำอีก ถ้าจะปิดด่านก็ปิดได้เลย เอาดินแดนไว้ก่อนดีกว่า ส่วนบริเวณด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ […]

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]