ไม่อยากเห็นฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่-มั่นใจเกิด “สึนามิแห่งการลงทุน”

รัฐสภา 3 เม.ย. – นายกฯ ลั่นไม่อยากเห็นฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่ คอยจ้องเล่นแต่การเมือง มั่นใจอีก 2 ปี เกิด “สึนามิแห่งการลงทุน” ยืนยันตัวจริงเสียงจริง รัฐบาลเพื่อประชาชน


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 เป็นครั้งที่ 2 ของวัน ว่า ขอขอบคุณช่วงเช้าและช่วงบ่ายที่มีการอภิปรายอย่างแพร่หลาย และมีข้อคิดเห็นต่างๆ ตนเองมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เช้า ย้ายจากทำเนียบฯ มานั่งทำงานอยู่หลังบัลลังก์ และคอยฟังไปด้วย ถ้าตรงไหนคิดว่าเป็นคำแนะนำ หรือข้อคิดที่มีประโยชน์ ตนก็จดไปด้วย ส่วนตรงไหนที่ต้องการความกระจ่างก็จะมาตอบ

สำหรับเรื่องการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ทุกครั้งที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ เป็นการเปิดโอกาส และสร้างการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมั่นใจว่าจะมีผลตามมา ยืนยันว่า ไม่มีนายกฯ จะบินไปเหมือนแมลงวัน ขณะเดียวกันก็ไม่อยากเห็นว่าฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่ คอยแต่จ้องจะเล่นแต่การเมือง ทั้งที่รัฐบาลพยายามเดินหน้าอย่างเต็มที่ ขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน  พร้อมยืนยัน ไม่มีเรื่องทุจริตคอรัปชั่น แต่หากมี ก็ขอให้นำข้อมูลหลักฐานมา ยินดีที่จะให้ความกระจ่าง รัฐบาลพร้อมที่จะทำงานเพื่อประชาชน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ให้ผู้แทนการค้าไทย กับเลขาฯบีโอไอ ชี้แจงผลสำเร็จอย่างชัดเจนไปแล้ว รวมถึงมีคณะทูตและคณะทำงาน คอยติดตามงานประเทศที่ตนได้เดินทางไปมาแล้ว และการดึงดูดนักลงทุนถือเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่การเอาธุรกิจ หรือเม็ดเงินมาอย่างเดียว หลายอย่างที่เราเห็นเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การเพิ่มทักษะ บัณฑิตที่เพิ่งจบใหม่ต้องปรับตัวให้เข้ากับอุตสาหกรรมที่มีผลกำไรสูง หรืออุตสาหกรรมไฮเทค ก็จะมีการเพิ่มในข้อตกลงการลงทุนในประเทศไทย เพื่อให้คนของเราได้รับการฝึกงานที่เหมาะสมและสามารถก้าวไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงขึ้น

ส่วนที่ระบุว่า ยังไม่เห็นมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าถ้าหากทำงานจริงๆ จะรู้ ถ้าคนจะลงทุน 5 แสนล้านบาท เป็นแสนล้านล้านบาท เชื่อว่าระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา แน่นอนว่ารัฐบาลที่แล้วทำมา รัฐบาลชุดนี้ก็มาสานต่อ เช่น บริษัท EWS ก็มีการลงทุนแล้ว ส่วนเราเองก็ได้มีการติดต่อ Google , Microsoft ซึ่งการจะลงทุนเป็นแสนล้านก็ต้องใช้เวลาบ้าง โดยเรามั่นใจว่าสัญญาณที่เราเห็นมาเป็นบวกบวก แต่อย่างไรก็ตามเราก็มีตัวเลขของไตรมาส 4 ปี 2566 ตั้งแต่ที่ตนเข้ามารับตำแหน่งและเดินทางไป โปรโมทยังต่างประเทศ ที่มีเจตจำนงจะมาลงทุนในประเทศไทย มีเม็ดเงินเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับปี2565 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ชัดเจนสามารถพิสูจน์ได้ ตัวเลขที่ลงทุน 558,000 ล้านบาท ที่สมาชิกสงสัยเป็นตัวเลขจริงที่มีการยื่นแผนเข้ามาแล้ว และยังมีอีกหลายบริษัทที่เข้ามาพูดคุย ย้ำว่าเป็นตัวเลขจริง ไม่ใช่แค่เป็นตัวเลขที่จับต้องไม่ได้

“ขอให้อดใจรอ เพราะเชื่อว่า อีก 2 ปีข้างหน้า จะเห็นเงินลงทุนเข้ามาในประเทศไทยอย่างมหาศาล ผมขอใช้คำว่า สึนามิแห่งการลงทุน ขอให้ท่านมั่นใจ เพราะตนเองก็มั่นใจ “ นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า การที่บอกว่าตนไปขายการลงทุน ในประเทศไทยให้กับนักลงทุนต่างประเทศทั้งที่เศรษฐกิจวิกฤต  มองว่าเรื่องที่เราไปโฆษณาประเทศ กับเรื่องที่เศรษฐกิจวิกฤตเป็นคนละเรื่องกัน วิกฤตหรือไม่วิกฤต เป็นเรื่องที่โต้เถียงกัน แต่เรื่องที่ไม่ต้องโต้เถียงกันคือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ ตนมั่นใจว่าทุกคนในที่นี้ ต้องมีความมั่นใจว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต้องเกิดขึ้นแล้ว ฉะนั้นเชื่อว่าเรามาถูกทาง หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยในการทำธุรกิจ ออกมาเชิญชวนใครเข้ามาลงทุน เพราะถ้าเราไม่ออกไป เขาก็จะไม่ทราบว่า เรามีความพร้อมในทุกมิติ เรามีสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่เยอะ อาทิ ประชากรที่มีคุณภาพ พลังงานสะอาด ที่มีศักยภาพสูงมาก ความสามารถในการเป็นศูนย์กลางการบิน และเรื่องอาหาร การท่องเที่ยว แน่นอนว่าหากจะมีการย้ายฐานการผลิตเข้ามายังประเทศไทย เรื่องของโรงพยาบาลและโรงเรียนระดับโลกของไทยก็มีอยู่จำนวนมาก จึงต้องทำให้เขาสบายใจ ทั้งนี้สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด จุดยืนในการต่างประเทศของเรา มีความเป็นกลาง ทำให้หลายประเทศอย่างจีน​ ญี่ปุ่น สหรัฐ​ อินเดีย​  ไต้หวัน มีความสบายใจในการเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งตนมั่นใจว่า ถ้าหากไม่เชื่อตน ขอให้เชื่อในศักยภาพของประเทศ ตามที่ได้เอ่ยมาในเบื้องต้น

ส่วนการที่ฝ่ายค้านออกมาระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรัฐมนตรีที่โลกเซ็ง​ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า “ไม่จริงหรอก​ครับ เพราะการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของผม ผมมั่นใจครับ ผมจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่แก้จนให้กับประชาชน ผมฝากไว้นิดนึงนะครับว่า ท่านอย่าเป็นฝ่ายค้านที่ทำให้โลกงงก็แล้วกัน วันหนึ่งก็จะเป็นฝ่ายค้าน อีกวันหนึ่งก็มีข่าวว่าจะขอเข้าร่วมรัฐบาล กลัวประชาชนจะงงมากกว่า “ นายเศรษฐา กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงตัวเลขการจ้างงาน ว่า ตัวเลขไตรมาส 4 ของปี 2566 อยู่ที่ 330,000 คน ลดลงจากปีก่อน 29% ที่มีผู้ว่างงานกว่า 462,000 คน โดยทำให้ตัวเลขว่างงานเหลืออยู่เพียง 0.8% ของกำลังแรงงาน ส่วนสถานการณ์บัณฑิตว่างงาน ในไตรมาส 4 ปี 2566 ว่างงาน 4.4%  ลดลงจากปีก่อนอยู่ที่ 6.1% ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงตลาดแรงงานบัณฑิตจบใหม่มีสัญญาณดีขึ้น หากเปรียบเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ ที่ชี้แจงนั้นไม่ได้บอกว่าเราทำหน้าที่เสร็จแล้ว แต่เชื่อว่าเรามาในทิศทางที่ดีและจะพยายามทำต่อไป มั่นใจว่าแรงงานไทยก็จะดีขึ้น

ขณะที่เรื่องยางพารา​ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ข้อมูลไปแล้วอย่างครบถ้วน ซึ่งขอเสริมเล็กน้อย ว่า ที่ท่านบอกว่ารัฐบาลที่แล้ว ขนาดปราบยางเถื่อนแล้ว ราคายางพาราก็ยังไม่ขึ้น ตนไม่มั่นใจว่าท่านไปปราบที่ไหน แต่ขอชี้แจ้งว่าการปราบของตน ไม่ได้คุยแค่ศุลกากร ไม่ได้คุยแค่กระทรวงเกษตรฯ หรือฝ่ายความมั่นคง แต่ได้คุยทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งทำงานกันอย่างใกล้ชิด และตรวจสอบอย่างใกล้ชิดจริงๆ ฉะนั้นเรามั่นใจว่า การปราบยางเถื่อน มีผลชัดเจน​ จับต้องได้ ส่วนที่ราคายางปรับขึ้นนั้น แน่นอนว่า เราสามารถควบคุมที่อยู่ 30% ของทั่วโลก ถ้าประเทศที่เป็นการผู้นำในการส่งออกยางและใช้จ่าย พอเรามีการประกาศว่าจะปราบยางเถื่อนอย่างชัดเจนแล้วผู้ซื้อมีความมั่นใจในรัฐบาล แน่นอนปริมาณความต้องการซื้อเพิ่ม ราคาก็ขึ้นด้วย การที่บอกว่าราคายางขึ้นไม่ใช่เรื่องของอุบัติเหตุ แต่เป็นเรื่องของรัฐบาลนี้ที่ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการกับทุกฝ่าย ขอขอบคุณ ผบ.ทบ. และรักษาการแทน ผบ.ตร. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมศุลกากรด้วย​

นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า “ยืนยัน ตัวจริงเสียงจริง รัฐบาลเพื่อประชาชนครับ “.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]