กลาโหม 1 เม.ย. – ”สุทิน“-”เจ้าสัวธนินท์” เป็นสักขีพยานลงนาม MOU ระหว่างกระทรวงกลาโหม กับ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด รองรับการศึกษาหลายระบบ พร้อมหางานในเครือ CP หลังปลดประจำการ
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหมกับ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด โดยมี พล.อ. สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงนามในบันทึกข้อตกลง และมีผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ร่วมพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงฯ ร่วมกับ นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ซึ่งบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหม กับบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด จัดทำขึ้นเพื่อ ส่งเสริมให้บุคลากรของกระทรวงกลาโหม ครอบครัวข้าราชการและครอบครัวลูกจ้างได้รับโอกาสทางการศึกษา ในระดับที่สูงขึ้น อันจะนำไปสู่การประกอบอาชีพที่มั่นคง สนับสนุนให้บุคลากรของกระทรวง กลาโหมที่มีความ พร้อม ความเชี่ยวชาญ และความเหมาะสม เข้าทำงานภายใต้ธุรกิจของบริษัท รวมถึงแนะนำแนวทางในการสร้างอาชีพ และรายได้ที่มั่นคงให้กับบุคลากรของกระทรวงกลาโหม นอกจากนี้ยังถือเป็นการสนับสนุนกิจกรรม ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และองค์กรต่อไปอีกด้วย
สำหรับกรอบแนวทางความร่วมมือ กระทรวงกลาโหมและบริษัทจะร่วมกันดำเนินกิจกรรม ด้านการศึกษา และอาชีพตามกรอบและแนวทาง ประกอบด้วยกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้ บุคลากรของกระทรวงกลาโหม ซึ่งหมายถึงบุคลากรในสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองทัพไทย ได้แก่ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ตลอดจนบุคคลในครอบครัวบุคลากรของกระทรวงกลาโหม
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมจะให้ความร่วมมือ ในการส่งเสริมอำนวยความสะดวก และเปิดโอกาสให้บุคลากรเห็นความสำคัญของการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น และการประกอบอาชีพหลังปลดประจำการของทหารกองประจำการ และครบสัญญาของทหารอาสา , พิจารณาคัดเลือกบุคลากรแต่ละประเภทที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับความต้องการของบริษัทเข้ารับทุนการศึกษา , เตรียมความพร้อมให้ทหารกองประจำการที่ปลดประจำการ และทหารอาสาที่ครบสัญญามีความรู้และทักษะที่จำเป็นในการทำงาน เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการเริ่มทำงานกับบริษัท และเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์ที่สะดวกและเข้าถึงกลุ่มบุคลากรทั้งในส่วนการศึกษา และการทำงาน
นายสุทิน กล่าวว่า วันนี้มีพิธีลงนามระหว่างกระทรวงกลาโหมและบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่จะช่วยเข้ามาจัดการศึกษาให้กับกำลังพล ซึ่งจะครอบคลุม ทั้งทหารประจำการ และทหาอาสา พร้อมครอบครัวของทหาร ไม่จำกัดในส่วนกำลังพลทุกระดับ ที่ประสงค์จะเรียนหนังสือ ซึ่งทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้มีการศึกษาหลายระบบ ที่จะจัดให้กับกองทัพได้
นายสุทิน กล่าวว่า ทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ จะสนับสนุนส่งเสริม พัฒนาทักษะ และที่สำคัญที่สุดคือทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ มีตำแหน่งงานและพร้อมที่จะรับกำลังพลของเรา โดยเฉพาะทหารเกณฑ์ ที่ปลดประจำการแล้ว ถ้าต้องการที่จะทำงานเอกชนอย่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ ก็จะมีตำแหน่งงานมาซัพพอร์ต ในเรื่องนี้ให้
“นับว่าเป็นโครงการที่ดี ต่อกองทัพมาก และทำให้กำลังพลของเรามีความมั่นคงในชีวิต โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาและหน้าที่การงาน หลังจากปลดประจำการไปแล้วถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ หลังจากเซ็นต์ MOU ในวันนี้แล้ว ผมคิดว่า จะมีผลต่อเยาวชนที่มองหาลู่ทางการพัฒนาตนเอง แล้วคิดว่าถ้ามาเป็นทหาร ไม่ว่าจะเป็นทหารเกณฑ์ หรือทหารอาสา ก็สามารถที่จะมีลู่ทางในการพัฒนาตัวเองได้ต่อไปในอนาคต“ นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า กำลังพลที่เป็นทหารเกณฑ์และทหารอาสามีจำนวนมากหรือไม่ ที่มีความต้องการในเรื่องนี้ นายสุทิน กล่าวว่า มีจำนวนมาก ไม่ว่าเป็นทหารเกณฑ์หรือทหารอาสา เมื่อเข้าสู่ในระบบของเราแล้ว เราจะทำการสำรวจ ว่าใครที่มีงานทำอยู่แล้ว หรือใครที่ยังไม่มีงานทำ หากคนที่ยังไม่มีงานทำ หลังจากปลดประจำการ เราก็จะจัดส่งให้ทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ไปพิจารณาหาตำแหน่งงาน ให้ ส่วนผู้ที่มีงานทำอยู่แล้วและหากจับได้ใบแดง แล้วก็มาเป็นทหารกองประจำการ ต้องมาเป็นทหาร เราก็จะคุยกับทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ ว่าบุคคลเหล่านี้ที่เขาเสียโอกาสในการทำงาน เราสามารถจะช่วยเขาได้อย่างไรเมื่อเขาปลดประจำการแล้ว โดยทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ มีตำแหน่งงานรองรับเข้าทำงานได้หรือไม่
ส่วนทางเครือเจริญโภคภัณฑ์จะจ้างในค่าแรงขั้นต่ำเลยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็ต้องเป็นไปตาม นโยบายรัฐบาลและ ทำตามกฏหมายอยู่แล้ว ซึ่งตามที่เราสำรวจมาทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ ก็มีค่าแรงขั้นต่ำตามกฏหมายกำหนด หรือบางครั้งอาจจะสูงกว่าด้วย.-313.-สำนักข่าวไทย