ศาลปกครองสูงสุด สั่งรับคำฟ้อง ปมควบรวม ทรู-ดีแทค

ศาลปกครอง 25 มี.ค.-ศาลปกครองสูงสุด สั่งรับคำฟ้อง ปมควบรวมทรู-ดีแทค เหตุกระทบประชาชนวงกว้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองสูงสุด  ได้มีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น  เป็นให้รับคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ในคดีที่ขอให้เพิกถอนมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.)    กรณีรับทราบการควบรวม บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค นั้น  โดยให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามรูปคดี รวมทั้งพิจารณาคำขอเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาคดีของผู้ฟ้องคดีทั้ง 5  ต่อไป


โดยศาลปกครองสูงสุด  เห็นว่าบริการโทรคมนาคมเป็นบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานที่มีผลต่อการดำรงชีวิตของประชาชน   และด้วยข้อจำกัดเกี่ยวกับปริมาณคลื่นความถี่ที่มีจำนวนจำกัด  อีกทั้งการลงทุนในการประกอบกิจการโทรคมนาคม  ต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก ตลาดหรืออุตสาหกรรมโทรคมนาคม จึงมีผู้ประกอบการจำนวนน้อยราย  ทำให้มีลักษณะเป็นการกึ่งผูกขาดโดยธรรมชาติ   การที่ผู้ประกอบการในกิจการโทรคมนาคมจะควบรวมธุรกิจหรือไม่ จึงกระทบต่อการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม และมีผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการในวงกว้างด้วย    ข้อพิพาทคดีนี้ต้องถือว่าเป็นประโยชน์แก่สวนรวม    ศาลปกครองจึงมีอำนาจรับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณาพิพากษาได้

ทั้งนี้คดีดังกล่าว นายนภดล วงษ์วิหค และพวกรวม 5 คน ได้ยื่นฟ้อง กสทช. ต่อศาลปกครองกลาง  โดยขอให้ศาลเพิกถอนประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคมลงวันที่ 4 ธ.ค.2560 และขอให้เพิกถอนมติ กสทช. ในการประชุมนัดพิเศษครั้งที่ 5/2565  เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2565  รวมทั้งห้าม กสทช. ดำเนินการควบรวมกิจการตามประกาศ   และมติพิพาทดังกล่าว   


นอกจากนั้นยังมีการยื่นคำขอเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาและขอให้พิจารณาโดยเร่งด่วน  โดยคดีดังกล่าวผู้ฟ้องคดีอ้างว่า การให้ประกาศและมติพิพาทที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายมีผลใช้บังคับต่อไป ทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 และประชาชนผู้ใช้บริการ และบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค ซึ่งหากมีการควบรวมบริษัทย่อมมีผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังอาจกระทบถึงการถือหุ้นของประชาชนในตลาดหลักทรัพย์.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว สั่งพื้นที่เร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือ หากงบประมาณไม่เพียงพอให้ขอขยายวงเงินทันที ด้านอาคารที่ถล่มได้ส่งทีม USAR Thailand สลับกำลังเพิ่มเติม

นายกฯ กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความปรารถนาดีชาวไทยมุสลิม

นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความรัก ความปรารถนาดียังชาวไทยมุสลิมทุกคน ชื่นชมศรัทธาที่เข้มแข็ง ความอดทน อดกลั้น ความมุ่งมั่น เสียสละ

เร่งปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคาร สตง.

ปฏิบัติการค้นหาผู้ติดใต้ซากอาคาร สตง. ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผ่านมาเกือบ 54 ชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่ม ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 11 รายแล้ว

สตง.ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยผู้ประสบภัยตึกถล่มจากแผ่นดินไหว

สตง. เร่งตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ได้รับผลกระทบ จากกรณีอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว พร้อมยืนยันกระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย