อภิปรายปม “ทักษิณ” – นายกฯ เยือน ตปท. 32 ทริป

รัฐสภา 25  มี.ค.-“สมชาย” ชี้ “เศรษฐา” บินเยือนต่างประเทศ 32 ทริป ทำประเทศเกิดสุญญากาศนาน 6 เดือน ขอ 2 เดือนจากนี้ทำหน้าที่ CEO ไม่ใช่เซลส์แมน เชื่อพักโทษ “ทักษิณ” ทำประชาชนเสื่อมศรัทธา ถามเยือนเชียงใหม่ เหมือนคนป่วยหรือไม่

การประชุมวุฒิสภา ในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 นายสมชาย แสวงการ ได้อภิปรายถึงประเด็นการเดินทางไปต่างประเทศของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่า นายกรัฐมนตรีมีหน้าที่ในการควบคุมดูแลการบริหารราชการแผ่นดิน ความมั่นคง การแก้ไขปัญหาสังคม การเป็นเซลส์แมนไปขายของที่ยังไม่ได้ผลิต ของที่ยังขายไม่ได้ และการเดินทางบางอย่างที่ได้ชี้แจงต่อที่ประชุม ถือว่าไม่มีความจำเป็น เพราะผู้นำระดับประเทศของภูมิภาคอาเซียน ไม่จำเป็นต้องไปร่วมทุกคน สามารถมอบหมายรองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปแทนได้ 


“คาดหวังว่า ที่นายกรัฐมนตรีรับปากว่าจะอยู่บริหารราชการแผ่นดินในฐานะ CEO ภายในประเทศ โดยไม่เดินทางอีก 2 เดือนนับจากนี้ ตนขอให้อยู่เพิ่มอีก 4 เดือน เป็น 6 เดือน หวังว่าจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เพราะการเดินทางไปต่างประเทศ 32 ทริป ทำให้ไม่ได้นั่งหัวโต๊ะการประชุม ครม. ด้านเศรษฐกิจ ด้านความมั่นคง และด้านสังคม ซึ่งไม่มีเลย จึงเกิดสุญญากาศมาตลอด 6 เดือน” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ต้องมาอภิปราย ทั้งที่งบประมาณยังไม่ออก ก็ถือเป็นความผิดของตัวท่านเอง เพราะตั้งแต่มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีมานานเกือบ 8 เดือน ซึ่งคณะรัฐมนตรีชุดเก่าได้จัดทำงบประมาณเสร็จสิ้นแล้ว หากตนเป็นนายกฯ จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวต่อสภาฯ ทันที เพื่อเข้าสู่กระบวนแก้ไขในสภาฯ จะทำให้เม็ดเงินสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจตั้งแต่ 4 เดือนที่แล้ว ดังนั้น ที่งบประมาณล่าช้าเป็นความผิดของ ครม.เอง


“นายกรัฐมนตรี ยังหมกมุ่นเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตมาก ทั้งที่ได้ไม่คุ้มเสีย อย่าดันทุรังต่อไป การกู้เงิน 5 แสนล้านบาท เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เสี่ยงผิดกฎหมาย ประเทศไทยติดกับดักประเทศกำลังพัฒนามากว่า 50 ปี ไม่พัฒนาอะไรเลย ใช้เพียงนโยบายประชานิยมแจกอย่างเดียว สุดท้ายต้องกู้มาแจก ดังนั้นจึงขอให้เลิกการกู้เงินมาแจก เพราะเป็นการทำลายประเทศ” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย ยังได้อภิปรายในประเด็นความอยุติธรรมในกระบวนการยุติธรรม ว่า วันนี้รู้สึกว่าประเทศนี้ขาดความยุติธรรม เสื่อมวิกฤติความยุติธรรมอย่างถึงที่สุด ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีส่วนรับผิดชอบสำคัญในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เป็นประธาน ก.ตร. คุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุมโรงพยาบาลตำรวจ และคุมกระทรวงยุติธรรม แม้ประชาชนไม่พูด แต่เขารู้สึกว่าความยุติธรรม 2 มาตรฐาน

“บางคนเรียกว่าไร้มาตรฐาน นักโทษในเรือนจำกว่า 200,000 คน ได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกันหรือไม่ วันนี้ไม่มีความจำเป็นต้องมีศาล คงไว้ให้เหลือแต่กรมราชทัณฑ์ ที่อ้างกฎ อ้างระเบียบ ซึ่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์เป็นผู้แก้ไขจนเกิดช่องว่าง แต่กฎหมายกำหนดว่า นักโทษที่จะได้รับการลงโทษต้องเป็นผู้ประพฤติดี ช่วยงานราชการ จึงอยากถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร เข้าเงื่อนไขใดบ้าง วันนี้ตนไม่ขอก้าวล่วงนายทักษิณ เพราะมองว่าไม่ใช่ความผิด ตนสนับสนุนในการกลับประเทศเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หลังจากหนีคดีทุจริตไป 17 ปี วันนี้สิ่งที่ต้องพูด คือ ปัญหาในการบังคับโทษที่เกิดขึ้นในระบบทั้งการเมืองและข้าราชการ ผู้ใดทำคนนั้นต้องรับผิดชอบ” นายสมชาย กล่าว


พร้อมกันนี้ นายสมชาย ยังได้เปิดคลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์ขณะนี้นายทักษิณลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมถามว่า การลุกนั่ง การใช้มือขวาโหนขึ้นรถกอล์ฟ เหมือนกับอาการเอ็นเปื่อยยุ่ยจริงหรือไม่ การเดินขึ้นบันไดดอยสุเทพ และยังรดน้ำพรวนดินที่งานพืชสวนโลก แสดงถึงความแข็งแรง ต้องขอแสดงความยินดีด้วย   

ทั้งนี้ ตนได้สอบถามไปยังแพทย์ระดับแพทย์ผู้ใหญ่และคณบดีหลายคน บางคนให้ถึง 30 คะแนน ถือว่าแข็งแรง จึงขอชื่นชมโรงพยาบาลตำรวจ เดิมนักโทษจะได้รับการพักโทษ จะรับโทษมาไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือ 6 เดือน อายุ 70 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว แต่มีการแก้ไขจากคำว่า และ เป็น หรือ ทำให้เกิดการโกงชาติบ้านเมือง แค่อายุ 70 ปี ก็กลับบ้านได้

“ขอบอกว่าเรื่องนี้เป็นการสั่นคลอนกระบวนการยุติธรรมอย่างยิ่ง วันนี้ตนไม่ได้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะไม่มีสิทธิ์ แต่ประชาชนจะไม่ไว้วางใจท่าน ความเสื่อมศรัทธานี้จะซึมลึกยาวนาน ตนกังวลว่าจะเกิดวิกฤติศรัทธา และจะนำมาซึ่งสึนามิ ที่แก้ไขยาก คนที่จะต้องรับผิดชอบ คือ เจ้าหน้าที่รัฐ และฝ่ายการเมืองที่ไปเอื้อประโยชน์” นายสมชาย กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมชุมชนชายแดนแม่สายเริ่มลด เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำ

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำท่วมชุมชนชายแดน อ.แม่สาย เริ่มลดลงแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทิ้งดินโคลนและเศษขยะไว้มากมาย ด้านข้างสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 จะเห็นว่าน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ลดระดับต่ำกว่าท้องสะพาน กว่า 40 เซนติเมตร หลังระดับน้ำที่จุดวัดบ้านโจตาดาในเมียนมา ที่เป็นต้นน้ำ ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว โดยทหารช่างยังเร่งวางบิ๊กแบ็กที่จุดฟันหลอของพนังกั้นน้ำสาย บริเวณคอสะพาน เพื่อป้องกันน้ำทะลักท่วมซ้ำ ขณะที่ด่านชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย ฝั่งท่าขี้เหล็ก เปิดให้ข้ามแดนได้ตามปกติ โดยน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สาย ลดลงเกือบทุกพื้นที่ แต่ทิ้งความเสียหายไว้จำนวนมาก อย่างตลาดสายลมจอย ตลาดสินค้าชายแดน ร้านค้าต่างๆ เต็มไปด้วยดินโคลน พ่อค้าแม่ขายในตลาดเริ่มเก็บล้างทำความสะอาดร้านค้ากันบ้างแล้ว อย่างพี่สายพิน บอกว่า เมื่อวานนี้น้ำมาเยอะมาแรง จนกำแพงอาคารที่ใช้เป็นพนังกันน้ำชั่วคราวแตก แต่ทหารช่างอุดไว้ได้ และมีการเก็บสินค้าออกไปล่วงหน้า จึงไม่เสียหายมากนัก จากภาพมุมสูงด้านชุมชนทางฝั่งขวาของสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 อย่างชุมชนเกาะทราย ไม้ลุงขน และชุมชนเหมืองแดง ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในบางพื้นที่ อย่างบริเวณห้าแยกเกาะทราย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่คาดว่าภายในวันนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ.-สำนักข่าวไทย

ตร.ไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์

บช.สอท. 29 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์ ด้วยข้อความภาษาอังกฤษ พร้อมติด #TruthFromThailand ร่วมกันสื่อสารให้โลกได้รับรู้ว่าเราไม่ได้เริ่ม แต่เราจะไม่ยอมแพ้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่สถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีรายงานข่าวจากหลายสำนักและบทวิเคราะห์ของนักวิชาการนานาชาติ ที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างความขัดแย้งดังกล่าวกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ขอชี้แจงว่า ภารกิจสำคัญของเราคือ การปกป้องประชาชนไทยจากภัยคุกคามทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายข้ามชาติ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ เครือข่ายฟอกเงิน โดยจับกุมผู้ต้องหาที่เข้ามาทางด่านสระแก้วจัมผู้ต้องตามหมายจับ 13 ราย เป็นคดีที่หลอกลวงพี่น้องประชาชน อีก 7 ราย มีร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาหลอกลวงพี่น้องประชาชน และจะมีกลับเข้ามีอีก 200 กว่านายจะเดินทางกับเข้ามา แต่เมื่อ สถานการณ์ไม่น่ากลัวและทราบว่าจะมีการหยุดยิงจึงไม่เดินทางกับ แต่ยังมีการหลอกลวงทั้งในและต่างประเทศ โดยตลอดปีที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีต่อเครือข่ายเหล่านี้อย่างจริงจัง ภายใต้กรอบของกฎหมายภายในประเทศ และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในต่างประเทศ เพื่อสกัดกั้นเส้นทางการเงิน การดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย และการใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มทุนสีเทา พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนในหลายคดีที่ผ่านมา พบความเชื่อมโยงกับ กลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกัมพูชา […]

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร​” ไม่แปลกใจ กัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “แพทองธาร​” ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษของ “กัมพูชา” หลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้ต้องฟ้อง ปท. ที่เข้ามาเป็นพยานด้วย บอก​ จะถาม “ภูมิธรรม” ให้ ต้องออกแถลงการณ์โต้หรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม​ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง​หยุดยิง ว่า​ เมื่อสักครู่​ ได้อัปเดตกับทางทีมงาน​ มีการพูดคุยกันว่า​ ถ้าเป็นแบบนี้​ ก็ต้องมีการแจ้งให้ประเทศที่เข้ามาเป็นพยานได้ทราบด้วย​ ว่า​ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น​ แต่ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว​ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องมีการออกแถลงการณ์อีกครั้งหรือไม่​ หลังจากกัมพูชาไม่หยุดยิง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวอันนั้นจะสอบถามนายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​.-315 -สำนักข่าวไทย