ห่วงสุขภาพปชช. เฝ้าระวัง-ตรวจคุณภาพอากาศเสมอ

ทำเนียบ 21 มี.ค.- รัฐบาลเป็นห่วงสุขภาพประชาชน ขอให้เฝ้าระวัง ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง และติดตามข่าวสารตรวจสอบคุณภาพอากาศเสมอ


นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีเกิดกลิ่นเหม็นไหม้และมีหมอกปกคลุมในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่คืนวันที่ 20 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้อธิบายว่า​ สาเหตุดังกล่าวมาจากการจราจรที่หนาแน่น รวมถึงควันเสียจากรถยนต์ ประกอบกับมีอากาศร้อนจัดติดกันหลายวัน จนเมื่อมีฝนตกหนักทำให้เกิดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sulfur dioxide: SO2) ซึ่งเป็นก๊าซที่มีกลิ่นรุนแรงเกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง ซึ่งเมื่อรวมกันทำให้เกิดปฏิกิริยากลายเป็นกรดซัลฟิวริก คล้ายกลิ่นกำมะถัน ทำให้มีกลิ่นเหม็นไหม้กระจายไปทั่ว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นสภาพชั่วคราว แต่ขอให้ประชาชนพึงระวัง สวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 ตลอดเวลา หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ขอให้ติดตามข่าวสารหรือใช้แอปพลิเคชันตรวจสอบคุณภาพอากาศเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองหนาแน่น หากมีอาการผิดปกติ อาทิ ไอ จามรุนแรง ระคายเคืองผิวหนัง แน่นหน้าอก และแสบตา ให้เข้าพบแพทย์ รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ หรือหากมีข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 สามารถปรึกษาหรือรับบริการได้ที่หน่วยงานสาธารณสุขทั่วประเทศ หรือสอบถามสายด่วนกรมอนามัย 1478 หรือ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422


“รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาและดูแลสุขภาพประชาชนจากฝุ่น PM 2.5 สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานร่วมกัน โดยกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานด้านการสาธารณสุข ทั้งการส่งเสริม ป้องกัน และรักษา และมุ่งเน้นการสื่อสารให้คำแนะนำในการป้องกันตนเอง ทั้งนี้ รัฐบาลเป็นห่วงในสุขภาพของประชาชน ขอให้เฝ้าระวัง ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง และขอติดตามข่าวสารหรือใช้แอปพลิเคชันตรวจสอบคุณภาพอากาศเสมอ” นางรัดเกล้า กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]