สองบิ๊กตำรวจรายงานตัวพร้อมทำงาน

ทำเนียบรัฐบาล 21 มี.ค.-“บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก”  รายงานตัวปลัดสปน. “บิ๊กโจ๊ก” บอกเหมือนกลับบ้านเก่า ไม่เครียด ไม่กังวล 3 กรรมการสอบข้อเท็จจริง ยันไม่ใช่สายจันทร์ส่องหล้า ย้ำจบขัดแย้ง ส่วนเรื่องคดีต้องคุย “บิ๊กต่อ”  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.45 น.พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เข้ารายงานตัวกับนายธีระพงษ์ ศิววงศ์วิลาศ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หลังมีคำสั่งย้ายช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ระหว่างรอผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีความขัดแย้งเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จากนั้นเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.เข้ามารายงานตัว โดยให้สัมภาษณ์ก่อนรายงานตัวถึงข้อกังวลใจกับตำแหน่งในอนาคต หลังจากมีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ว่า ไม่กังวลใจ เพราะเป็นข้าราชการ เมื่อรับมอบหมายอะไร ก็ต้องทำและทำให้ดีที่สุด


ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำขอข้าราชการตำรวจอย่าแบ่งฝ่าย ให้ร่วมกันทำงานรับใช้ชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ทำอยู่แล้ว นายกรัฐมนตรีให้แนวทางเรื่องความสามัคคีเป็นหลัก

เมื่อถามว่าเชื่อมั่นรายชื่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้ง 3 คนหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่กังวลใจอะไร เชื่อมั่น ไม่มีอะไร เพราะเป็นผู้ใหญ่ที่ทำหน้าที่ตรงไปตรงมาอยู่แล้ว

ส่วนจะดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ได้รับทราบว่าเรื่องจะถูกส่งไปคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงเป็นเรื่องของป.ป.ช.


เมื่อถามถึงกรณีที่ฟ้องร้องกันก่อนหน้านี้ รวมทั้งเอาผิดคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่จะถอนฟ้องหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์    กล่าวว่า ผบ.ตร.จะนัดพูดคุยอีกครั้ง ก็ต้องเลิกกันไป

เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้ความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่มีแล้ว ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ต้องยุติทั้งหมด ไม่มีใครขัดแย้งกับใคร ตอนนี้สบายใจแล้ว ไม่มีปัญหา นอนหลับทุกวัน ไม่เครียด การมาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีเหมือนการกลับมาบ้านเก่า การมาช่วยราชการครั้งนี้ ไม่มีอะไรแนะนำพล.ต.อ.ต่อศักดิ์   เพียงแต่เรียนให้ทราบว่าอยู่ห้องไหนอย่างไร ในฐานะที่เคยมาช่วยราชการที่นี่  ส่วนตนจะได้รับมอบหมายให้ไปดูงานในส่วนไหน ยังไม่ทราบ ต้องรอให้ปลัด สปน.มอบหมาย การมารอบนี้ก็เป็นปกติ ไม่มีอะไร มาทำหน้าที่ตามปกติ

เมื่อถามว่าจะสั่งการไปถึงลูกน้องตัวเองที่ออกมาแถลงข่าวกันก่อนหน้านี้อย่างไร พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า แถลงข่าวเมื่อวานนี้(19 มี.ค.) แล้วว่าทุกอย่างต้องยุติ และขอย้ำว่าต้องไม่มีความขัดแย้งในองค์กร ต้องเดินหน้าทำงานให้ประชาชน

ส่วนครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีหรือไม่     พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าอยู่ที่ผู้บังคับบัญชา ถ้าให้ไปทำหน้าที่อะไร ก็ต้องไปทำหน้าที่นั้น    เราต้องมีวินัย ส่วนงานที่ยังค้างอยู่นั้น ไม่ห่วง

ส่วนจะไปรับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเองหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไปไม่ได้เพราะยังไม่ได้รับหมายเรียก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเข้ารายงานตัวต่อปลัดสปน.พล.ต.อ.ต่อศักดิ์พร้อมด้วยนายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้เดินมาดูห้องทำงานที่ชั้น  4  ภายในห้องศูนย์ประสานงานจิตอาสาภาครัฐ สำนักงาน ก.พ.เดิม ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล โดยพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เรายิ่งกว่าดาราอีก วันนี้มาดูห้องทำงานจะเข้ามานั่งทำงานที่ทำเนียบฯ ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าจะเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.เป็นต้นไปหรือไม่    พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ติดราชการ 3 วันต้องดูภารกิจอื่นก่อน   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   จากนั้นพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เดินตามมาสมทบเพื่อมาดูห้องทำงานและได้ไปดูห้องทำงาน  ซึ่งอยู่ที่ชั้น  3 ของสำนักงาน ก.พ.เดิม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังรายงานตัวว่า วันนี้ได้เข้ามารายงานตัว ส่วนงานที่รับผิดชอบก่อนหน้านี้ยังไม่ได้ประสานหรือส่งต่อให้ใคร บางกระแสมองตนว่าที่รอดมาได้เพราะไปใกล้ชิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเมื่อตอนไปบ้านที่จังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะตอนนั้นไปทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ นายทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ไปส่วนตัว ส่วนครั้งนี้เป็นการแก้ปัญหาของนายกรัฐมนตรี  เพื่อให้เกิดความสามัคคีในหน่วย  

เมื่อถามว่า คนมองว่า “บิ๊กโจ๊ก” เปลี่ยนสายไปอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า พล.ต.อ.สุรเชษฐส่ายศีรษะพร้อมพูดว่าไม่มีสายไหน มีแต่เป็นรองผบ.ตร. ตอนนี้ให้มาทำหน้าที่นี้ก็ต้องทำ

ส่วนที่คำสั่งนายกรัฐมนตรีเซ็นย้ายระบุว่ามีความบกพร่องและความขัดแย้งกับผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีต้องการแก้ปัญหาให้เกิดความสามัคคีในหน่วยงาน วันนี้ทุกคนก็ต้องทำหน้าที่เพื่อประชาชนและส่วนรวม เรื่องส่วนตัวต้องทิ้งไปให้หมด ส่วนจะไปพบนายกรัฐมนตรีหรือเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหรือไม่ วันนี้มารายงานตัวกับปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ถือว่าทุกอย่างเรียบร้อย จากนี้จะไปอยู่ห้องทำงาน   และจะเข้ามาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลทุกวัน    

เมื่อถามย้ำว่าความขัดแย้งครั้งนี้ ถือเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงที่สุดจนถึงขั้นต้องจับนายตำรวจทั้งสองเข้ากรุในทำเนียบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ความขัดแย้งทุกอย่างต้องจบ เมื่อวานคุยกันหมดแล้ว องค์กรต้องอยู่และแข็งแรง ทำงานเพื่อประชาชน  ลูกน้องต้องไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย

“วันนี้ปลัดฯ ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ มอบหมายงานด้านที่ปรึกษากฎหมาย และพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ เรื่องการกระจายอำนาจ ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี ไม่จำเป็นต้องกำชับลูกน้องว่าต้องไม่ขัดแย้งกัน ไม่ว่าจะเป็นสายใครก็คุยกันหมดแล้ว ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกันแน่นอน” พล.ต.อสุรเชษฐ์ กล่าว 

ส่วนคำกล่าวที่ว่า “บิ๊กโจ๊ก ชีวิตที่ 10” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่าไม่มีอะไร    เมื่อเขาให้โอกาสให้ทำงานก็ทำไป ไม่ว่าจะหน้าที่ไหนก็ต้องทำ ไม่รู้ว่าเป็นโจ๊กเนเว่อร์ดาย(หัวเราะ)

เมื่อถามว่าที่วันนี้ยังยิ้มได้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้ไปมูอะไรทั้งสิ้น   แต่จะต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและศรัทธา ทั้งหมดนี้คือหน้าที่ของข้าราชการแผ่นดิน ส่วนคดีต่าง ๆ ที่ฟ้องร้องพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ต้องนัดคุยกันอีกครั้ง เพราะมีหลายส่วน

“ขณะนี้ไม่รู้สึกเครียด จึงหัวเราะและยิ้มได้ อาจจะแตกต่างจากผบ.ตร. วันนี้เหมือนได้กลับบ้าน เพราะก่อนหน้าเคยถูกย้ายให้มาช่วยงานที่ทำเนียบฯ แล้วครั้งหนึ่ง ยืนยันไม่รู้เรีื่องคำสั่งย้ายด่วนเมื่อวานนี้ รู้พร้อมสื่อ ซึ่งสวนทางกับผบ.ตร.ที่บอกว่าทราบตั้งแต่เมื่อวาน แต่การสั่งการทั้งหมดเป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี ไม่ยืนยันว่าจะได้กลับไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ อยู่ที่นายกรัฐมนตรี เขาให้อยู่ที่ไหนก็อยู่นั่น อยู่ที่ไหนก็สบายใจ เพราะทุกที่มีงานให้ทำ อย่าไปคิดมาก อย่าไปกังวล” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำไทยเลือกสันติวิธี แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- นายกฯ ลั่น “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” ย้ำไทยเลือกสันติวิธี ปมชายแดนไทย-กัมพูชา แต่หากปะทะเราพร้อม ยอมรับเป็นเพื่อนที่ดี แต่จะขอบ้านเราไม่ได้ หลังถูกจี้ถาม “ตระกูลชิน” เกี่ยวดอง “ฮุน เซน” แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ บอกปรึกษาทหารแล้ว งง สื่อฯ ทำไมวันนี้ ดุจัง ปลอบ ไม่เป็นไรนะ ไม่ได้ลงพื้นที่ดูหน้างาน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ชายแดน ว่า ได้เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง สิ่งสำคัญมาก ๆ คนไทยต้องรักกันสามัคคีกัน ไม่ใช่การเมืองในประเทศที่จะต้องมีการแบ่งฝ่ายกัน ทุกๆ ฝ่ายต้องช่วยกันรวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศเราต้องสามัคคีกัน ต้องใช้ความเป็นหนึ่ง รักกันของคนในชาติ รัฐบาลไม่ใช่พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ฝ่ายค้าน รัฐบาลก็คือประเทศไทย และการแสดงความเห็นและการปล่อยข่าวปลอมเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น นายกรัฐมนตรี กล่าววว่า ถ้าถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไรนั้น รัฐบาลทำเต็มที่และรักษาอธิปไตยของเราเป็นสิ่งที่จำเป็น รัฐบาลและทหาร คุยกันตลอดว่า จะไปทางไหนอย่างไรเราต้องมั่นใจว่าเราเป็นประเทศไทยเพลงชาติไทย เขาเรียกว่า […]

‘อี แจ-มยอง’ คว้าชัยเลือกตั้ง ปธน.เกาหลีใต้

โซล 4 มิ.ย. – อี แจ-มยอง ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตย ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ พร้อมประกาศชัยชนะต่อผู้สนับสนุน ขณะที่ คิม มุน-ซู คู่แข่งจากพรรคพลังประชาชน ออกมายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว นายอี ได้ชัยชนะการเลือกตั้งหลังจากการนับคะแนนผ่านไปร้อยละ 94.4 และเมื่อช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน นายอี ได้คะแนนเสียงไปแล้วร้อยละ 48.8 และนายคิม คู่แข่งคนสำคัญจากพรรคพลังประชาชน แนวอนุรักษ์นิยม ได้ร้อยละ 42 แม้ว่าคะแนนที่ยังไม่ได้นับ จะตกเป็นของนายคิมแต่ก็ยังตามนายอีไม่ทัน ซึ่งทำให้นายอี ยืนยันชัยชนะของเขาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับตัวเลขผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเบื้องต้นอยู่ที่ร้อยละ 79.4 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 28 ปี นับตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2540 ในจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 44.4 ล้านคน มีผู้มาใช้สิทธิราว 35.24 ล้านคนตามหน่วยเลือกตั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศ จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 77.1 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนในปี 2565 นายอีกล่าวว่า เขาจะไม่มีวันลืมหน้าที่ของประธานาธิบดีในการสร้างความเป็นเอกภาพของผู้คนในประเทศ และว่าเขาจะหาวิธีให้ประเทศอยู่ร่วมกับเกาหลีเหนือได้โดยผ่านการเจรจาและพูดคุยกัน ด้าน นายคิม […]

รัฐบาลออกแถลงการณ์ปมไทย-กัมพูชา ยันปกป้องอธิปไตยเต็มที่

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- รัฐบาล ออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยัน ตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยเต็มที่ ยึดหลักแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรม และสวัสดิภาพของประชาชน ย้ำ ชายแดน มีความสงบเรียบร้อย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมทุกภาคส่วนของ รัฐบาลภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เช้าวันนี้ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 07.00 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าวดังต่อไปนี้ แถลงการณ์รัฐบาล “กรณีสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา” รัฐบาลขอยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยและคุ้มครองบูรณภาพของดินแดนไทยอย่างเต็มที่โดยยึดหลักการในการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม โดยจุดเริ่มต้นของสถานการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ในขณะที่กองกำลังฝ่ายไทยลาดตระเวนตามปกติในพื้นที่ฝ่ายไทยซึ่งเป็นแนวที่ถือปฏิบัติเสมอมา แต่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชา ที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีสถานการณ์จากการปะทะดังกล่าวทำให้กองกำลังไทยจำเป็นต้องป้องกันตัว และปกป้องพื้นที่อธิปไตยของไทย เป็นการดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ภายหลังจากเกิดเหตุรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างใกล้ชิดในทุกระดับรวมถึงนายกรัฐมนตรี […]

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย