สองบิ๊กตำรวจรายงานตัวพร้อมทำงาน

ทำเนียบรัฐบาล 21 มี.ค.-“บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก”  รายงานตัวปลัดสปน. “บิ๊กโจ๊ก” บอกเหมือนกลับบ้านเก่า ไม่เครียด ไม่กังวล 3 กรรมการสอบข้อเท็จจริง ยันไม่ใช่สายจันทร์ส่องหล้า ย้ำจบขัดแย้ง ส่วนเรื่องคดีต้องคุย “บิ๊กต่อ”  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.45 น.พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เข้ารายงานตัวกับนายธีระพงษ์ ศิววงศ์วิลาศ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หลังมีคำสั่งย้ายช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ระหว่างรอผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีความขัดแย้งเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จากนั้นเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.เข้ามารายงานตัว โดยให้สัมภาษณ์ก่อนรายงานตัวถึงข้อกังวลใจกับตำแหน่งในอนาคต หลังจากมีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ว่า ไม่กังวลใจ เพราะเป็นข้าราชการ เมื่อรับมอบหมายอะไร ก็ต้องทำและทำให้ดีที่สุด


ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำขอข้าราชการตำรวจอย่าแบ่งฝ่าย ให้ร่วมกันทำงานรับใช้ชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ทำอยู่แล้ว นายกรัฐมนตรีให้แนวทางเรื่องความสามัคคีเป็นหลัก

เมื่อถามว่าเชื่อมั่นรายชื่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้ง 3 คนหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่กังวลใจอะไร เชื่อมั่น ไม่มีอะไร เพราะเป็นผู้ใหญ่ที่ทำหน้าที่ตรงไปตรงมาอยู่แล้ว

ส่วนจะดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ได้รับทราบว่าเรื่องจะถูกส่งไปคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงเป็นเรื่องของป.ป.ช.


เมื่อถามถึงกรณีที่ฟ้องร้องกันก่อนหน้านี้ รวมทั้งเอาผิดคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่จะถอนฟ้องหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์    กล่าวว่า ผบ.ตร.จะนัดพูดคุยอีกครั้ง ก็ต้องเลิกกันไป

เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้ความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่มีแล้ว ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ต้องยุติทั้งหมด ไม่มีใครขัดแย้งกับใคร ตอนนี้สบายใจแล้ว ไม่มีปัญหา นอนหลับทุกวัน ไม่เครียด การมาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีเหมือนการกลับมาบ้านเก่า การมาช่วยราชการครั้งนี้ ไม่มีอะไรแนะนำพล.ต.อ.ต่อศักดิ์   เพียงแต่เรียนให้ทราบว่าอยู่ห้องไหนอย่างไร ในฐานะที่เคยมาช่วยราชการที่นี่  ส่วนตนจะได้รับมอบหมายให้ไปดูงานในส่วนไหน ยังไม่ทราบ ต้องรอให้ปลัด สปน.มอบหมาย การมารอบนี้ก็เป็นปกติ ไม่มีอะไร มาทำหน้าที่ตามปกติ

เมื่อถามว่าจะสั่งการไปถึงลูกน้องตัวเองที่ออกมาแถลงข่าวกันก่อนหน้านี้อย่างไร พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า แถลงข่าวเมื่อวานนี้(19 มี.ค.) แล้วว่าทุกอย่างต้องยุติ และขอย้ำว่าต้องไม่มีความขัดแย้งในองค์กร ต้องเดินหน้าทำงานให้ประชาชน

ส่วนครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีหรือไม่     พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าอยู่ที่ผู้บังคับบัญชา ถ้าให้ไปทำหน้าที่อะไร ก็ต้องไปทำหน้าที่นั้น    เราต้องมีวินัย ส่วนงานที่ยังค้างอยู่นั้น ไม่ห่วง

ส่วนจะไปรับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเองหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไปไม่ได้เพราะยังไม่ได้รับหมายเรียก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเข้ารายงานตัวต่อปลัดสปน.พล.ต.อ.ต่อศักดิ์พร้อมด้วยนายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้เดินมาดูห้องทำงานที่ชั้น  4  ภายในห้องศูนย์ประสานงานจิตอาสาภาครัฐ สำนักงาน ก.พ.เดิม ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล โดยพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เรายิ่งกว่าดาราอีก วันนี้มาดูห้องทำงานจะเข้ามานั่งทำงานที่ทำเนียบฯ ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าจะเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.เป็นต้นไปหรือไม่    พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ติดราชการ 3 วันต้องดูภารกิจอื่นก่อน   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   จากนั้นพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เดินตามมาสมทบเพื่อมาดูห้องทำงานและได้ไปดูห้องทำงาน  ซึ่งอยู่ที่ชั้น  3 ของสำนักงาน ก.พ.เดิม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังรายงานตัวว่า วันนี้ได้เข้ามารายงานตัว ส่วนงานที่รับผิดชอบก่อนหน้านี้ยังไม่ได้ประสานหรือส่งต่อให้ใคร บางกระแสมองตนว่าที่รอดมาได้เพราะไปใกล้ชิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเมื่อตอนไปบ้านที่จังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะตอนนั้นไปทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ นายทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ไปส่วนตัว ส่วนครั้งนี้เป็นการแก้ปัญหาของนายกรัฐมนตรี  เพื่อให้เกิดความสามัคคีในหน่วย  

เมื่อถามว่า คนมองว่า “บิ๊กโจ๊ก” เปลี่ยนสายไปอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า พล.ต.อ.สุรเชษฐส่ายศีรษะพร้อมพูดว่าไม่มีสายไหน มีแต่เป็นรองผบ.ตร. ตอนนี้ให้มาทำหน้าที่นี้ก็ต้องทำ

ส่วนที่คำสั่งนายกรัฐมนตรีเซ็นย้ายระบุว่ามีความบกพร่องและความขัดแย้งกับผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีต้องการแก้ปัญหาให้เกิดความสามัคคีในหน่วยงาน วันนี้ทุกคนก็ต้องทำหน้าที่เพื่อประชาชนและส่วนรวม เรื่องส่วนตัวต้องทิ้งไปให้หมด ส่วนจะไปพบนายกรัฐมนตรีหรือเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหรือไม่ วันนี้มารายงานตัวกับปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ถือว่าทุกอย่างเรียบร้อย จากนี้จะไปอยู่ห้องทำงาน   และจะเข้ามาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลทุกวัน    

เมื่อถามย้ำว่าความขัดแย้งครั้งนี้ ถือเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงที่สุดจนถึงขั้นต้องจับนายตำรวจทั้งสองเข้ากรุในทำเนียบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ความขัดแย้งทุกอย่างต้องจบ เมื่อวานคุยกันหมดแล้ว องค์กรต้องอยู่และแข็งแรง ทำงานเพื่อประชาชน  ลูกน้องต้องไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย

“วันนี้ปลัดฯ ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ มอบหมายงานด้านที่ปรึกษากฎหมาย และพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ เรื่องการกระจายอำนาจ ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี ไม่จำเป็นต้องกำชับลูกน้องว่าต้องไม่ขัดแย้งกัน ไม่ว่าจะเป็นสายใครก็คุยกันหมดแล้ว ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกันแน่นอน” พล.ต.อสุรเชษฐ์ กล่าว 

ส่วนคำกล่าวที่ว่า “บิ๊กโจ๊ก ชีวิตที่ 10” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่าไม่มีอะไร    เมื่อเขาให้โอกาสให้ทำงานก็ทำไป ไม่ว่าจะหน้าที่ไหนก็ต้องทำ ไม่รู้ว่าเป็นโจ๊กเนเว่อร์ดาย(หัวเราะ)

เมื่อถามว่าที่วันนี้ยังยิ้มได้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้ไปมูอะไรทั้งสิ้น   แต่จะต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและศรัทธา ทั้งหมดนี้คือหน้าที่ของข้าราชการแผ่นดิน ส่วนคดีต่าง ๆ ที่ฟ้องร้องพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ต้องนัดคุยกันอีกครั้ง เพราะมีหลายส่วน

“ขณะนี้ไม่รู้สึกเครียด จึงหัวเราะและยิ้มได้ อาจจะแตกต่างจากผบ.ตร. วันนี้เหมือนได้กลับบ้าน เพราะก่อนหน้าเคยถูกย้ายให้มาช่วยงานที่ทำเนียบฯ แล้วครั้งหนึ่ง ยืนยันไม่รู้เรีื่องคำสั่งย้ายด่วนเมื่อวานนี้ รู้พร้อมสื่อ ซึ่งสวนทางกับผบ.ตร.ที่บอกว่าทราบตั้งแต่เมื่อวาน แต่การสั่งการทั้งหมดเป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี ไม่ยืนยันว่าจะได้กลับไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ อยู่ที่นายกรัฐมนตรี เขาให้อยู่ที่ไหนก็อยู่นั่น อยู่ที่ไหนก็สบายใจ เพราะทุกที่มีงานให้ทำ อย่าไปคิดมาก อย่าไปกังวล” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร