สส.ก้าวไกลถล่มงบกอ.รมน.หลังยุบไม่สำเร็จ

รัฐสภา 20 มี.ค.-สภาฯ เห็นชอบลดงบสำนักนายกฯ ตามกมธ.เสียงข้างมาก “สส.ก้าวไกล” รุมถล่มงบกอ.รมน. “ชยพล” ตั้งฉายา “กอ.รอหน้าห้อง” เหตุทวงขอเอกสารทีไร พักประชุมออกไปรอหน้าห้องทุกที  ขณะ “รอมฎอน” ลั่น ในเมื่อยุบไม่ได้ก็ขอตัดเกือบ 90% ด้าน “จุลพันธ์” แจง กอ.รมน.งบเยอะ เพราะเป็นหน่วยงานหลักดูแลชายแดน ยันเบิกจ่ายตามแผน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2567 วาระที่ 2 และ 3 ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ได้พิจารณามาตรา 7 ว่าด้วยงบสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกรรมาธิการเสียงข้างมากปรับลดงบประมาณเหลือ 24,124,617,500บาท จากเดิมที่ได้งบ  24,834,743,400บาท

ระหว่างการอภิปราย สส.พรรคก้าวไกล จำนวน 5 คน รุมถล่มตัดงบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เนื่องจากเห็นตรงกันว่าเป็นหน่วยงานที่ใช้งบประมาณเยอะ แต่ไม่มีประสิทธิภาพ โดยนายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการฯ ผู้สงวนความเห็นอภิปรายว่า กองอำนวยการรักษาความสงบมั่นคงในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบยากที่สุด และไม่เข้าใจว่าเหตุใดกรรมาธิการเสียข้างมากจึงปล่อยหน่วยงานนี้ให้ผ่านมาได้ เพราะไม่สามารถชี้แจงอะไรได้เลย พร้อมเสนอว่าควรเป็น ‘กอ. รอ หน้า ห้อง’


นายชยพล กล่าวว่า โครงการภายใต้แผนยุทธศาสตร์ ของ กอ.รมน. มีความน่าสงสัยว่าเนื้อหาของโครงการ และเหตุผลความจำเป็นต่างๆ ไม่ค่อยมีความสอดคล้องกัน เช่น โครงการพัฒนาด้านการเมือง และการสร้างความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ จำนวน 10.5 ล้านบาท และโครงการเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ 33 ล้านบาท ซึ่งมีการชี้แจงว่า เป็นการจัดเวทีเสวนาผู้นำชุมชน และการสร้างทำเนียบปราชญ์ แต่สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องอะไรกับการรักษาความสงบภายในประเทศ

“แม้ตามความเข้าใจแล้ว กอ.รมน.ไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ เพราะเป็นหน่วยงานในการประสานงาน แต่กลับมีงบซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ 120 ล้านบาท ซึ่งใช้เวลานานกว่าจะยอมเผยข้อมูลให้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ แล้วปรากฏว่าเป็นค่าซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ให้หน่วยงานอื่นๆ เช่น เป็นการซ่อมระบบสำรองไฟให้ค่ายทหาร ซ่อมกล้องตรวจการกลางคืน ซ่อมรถเกราะ ซื้อแบตเตอรี่โดรน ซื้อน้ำมันทำความสะอาดปืน แต่ละรายการ ส่งเลขมาถ้วนๆ เหมือนกับกลัวว่าเราจะไม่รู้ว่ามันมีปัญหาตุกติกอะไรซ่อนอยู่ เหมือนกับกลัวเราไม่รู้ว่าเป็นการเสกเลขขึ้นมาเฉย ๆ แล้วก็เบิกกันไปมั่ว ๆ สรุปแล้ว กอ.รมน. นอกจากจะไปแย่งหน้าที่กรมการข้าว สอนเขาทำนากันแล้ว ยังไปแย่งหน้าที่ของกรมการช่างอีกหรือ มันเซียนมาจากไหน มันเรียนที่ไหนมา ผมก็อยากจะทราบเหมือนกัน” นายชยพล กล่าว

นายชยพล กล่าวถึงโครงการเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐและการขับเคลื่อนนโยบาย วงเงิน 345.6 ล้านบาท โดยมีสิ่งน่าสงสัยคือการจ้างเหมาลำเครื่องบินจากภาคเอกชน 12 เดือน มูลค่า 190 ล้านบาท จึงอดตั้งคำถามไม่ได้ว่ามีความจำเป็นต้องเหมาสายการบินเพื่อขับเคลื่อนนโยบายหรือ ต้องเดินทางไปไหนมากมาย และว่า “ไม่ติดปีกไม่หลีกทางให้นโยบายหรือครับ หรือนายไม่บินนโยบายไม่เดินอย่างนี้หรือครับ”


นายชยพล กล่าวว่า ในการประชุมกรรมาธิการฯ เมื่อพยายามจี้ถามขอเอกสารไปเรื่อย ๆ ก็จะพักประชุม กลับมาอีกทีก็จะมีข้อสรุปเรียบร้อยว่าจะตัดหรือไม่ตัดอะไรบ้าง จะถามย้ำก็มีการอ้างว่า มีมติแล้ว และสู่เรื่องอื่น แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่านี่เป็นการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพจริง การพิจารณางบประมาณครั้งนี้โปร่งใส รอบคอบ คุ้มค่าภาษี

“ผมขอเอกสารไปเยอะแยะมากมาย ไม่ได้กลับมาสักอย่าง แต่ปล่อยผ่านได้เฉย ถามจริงๆ ครับ ไปคุยกันนอกห้อง ไปคุยอะไร อยู่ๆ ก็เปิดไมค์บอก กอ.รมน. ไปรอหน้าห้อง ถึงได้เป็นที่มาของเนื้อเรื่องของผมในวันนี้ ‘กอ. รอ หน้า ห้อง’ ไปคุยอะไรกัน ช่วยตอบชี้แจงหน่อยได้ไหม ในฐานะกรรมาธิการ ถ้าไปคุยกันเองมันรู้เรื่องมากกว่า งั้นช่วยมาชี้แจงหน่อยว่า เงินทั้งหมดนี้สมเหตุสมผลอย่างไร” นายชยพล กล่าว

ขณะที่นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายขอตัดงบ กอ.รมน.ด้วย ระบุว่า รอยุบไม่ไหว ขอตัดใจตัดงบ กอ.รมน. เนื่องจากเห็นตัวเลขในแต่ละโครงการแล้ว ต้องตัดถึง 89.7% ตัดให้หมด ให้เหลืองบ 773 ล้านบาท เพราะ งบ กอ.รมน. เป็นงบก้อนที่ใหญ่ที่สุดในสำนักนายกรัฐมนตรี มากกว่ากระทรวงถึง 5 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงวัฒนธรรม พาณิชย์ การท่องเที่ยวและกีฬา อุตสาหกรรม และพลังงาน เอาอุตสาหกรรมมัดกับพลังงานยังไม่ถึงงบ กอ.รมน.เลย นอกจากนี้ ยังมีการอ้างถึงการใช้งบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย

ด้านร.ท.ธนเดช เพ็งสุข สส.กทม. พรรคก้าวไกล เริ่มต้นอภิปรายด้วยการเหน็บกอ.รมน. ว่าเป็นหน่วยงานที่น่าปวดหัวที่สุด ให้ชี้แจงอะไรก็ตอบไม่ได้ เอกสารก็ไม่มี กอ.รมน.ยุ่งกับทุกหน่วยงานราชการ เขียนแผนงานแบบเดิมมาทุกปี นอกจากนี้ ยังใช้งบเสริมสร้างความมั่นคงสถาบันหลักของชาติ 33 ล้านบาท แต่กลับไม่มีเอกสารชี้แจง ตนจะปล่อยไว้ไม่ได้  กอ.รมน. ทำทุกอย่าง ยกเว้นงานในหน้าที่ สรุปแล้วมีประโยชน์อะไร ตนจึงขอปรับลดลง 5%

ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า กอ.รมน. เป็นหน่วยงานหลักที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่รับผิดชอบแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะความมั่นคง ดังนั้น จึงขอกำลังพลตามแผนและยุทธศาสตร์ 24 ชั่วโมง ทำให้ต้องเบิกจ่ายเงินเพิ่มเติม ยืนยันว่าไม่มีความซ้ำซ้อนกันภายในองค์กร ภายหลังการอภิปรายของสมาชิกกว่า 3 ชั่วโมง ที่ประชุมลงมติเห็นชอบ มาตรา 7 ตามที่กรรมาธิการเสียงข้างมาก มาด้วยคะแนน 292 ต่อ 169 เสียง.-312.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย