“พิธา” ลงพื้นที่ดับไฟป่า วางไว้ก่อน “ทักษิณ” กลับเชียงใหม่

อาคารอนาคตใหม่ 19 มี.ค.- “ไอติม” ยัน “พิธา” ลงพื้นที่ดับไฟป่า เป็นไปตามแผนที่วางไว้ก่อนทักษิณกลับเชียงใหม่ โต้ “ทีมโฆษกรัฐบาล” ยันลงพื้นที่เดียวกันเป็นเรื่องปกติทางการเมือง บอกระมัดระวังอยู่แล้ว ไม่ให้เกิดอุปสรรค เชื่อ นายกฯ ก็เข้าใจ


นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ทีมโฆษกรัฐบาลวิพากษ์วิจารณ์ถึงการลงพื้นที่จากเชียงใหม่ว่าของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นการมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ เป็นนายกทิพย์ที่ไม่เข้าใจการบริหารงาน ว่าเป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องทำความเข้าใจถึงปัญหาที่ประชาชนเผชิญอยู่ แน่นอนว่าการทำความเข้าใจถึงปัญหาต่างๆทำได้หลายวิธี มุมนึงต้องวิเคราะห์จากบนลงล่างว่าสถิติเป็นอย่างไรข้อมูลเป็นอย่างไรเพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์ภาพรวม

แต่อีกมุมนึงการที่ได้มีโอกาสไปสัมผัสกับปัญหาน่างานจะทำให้เราเข้าใจถึงปัญหาในภาคปฏิบัติมากขึ้นว่ามีอุปสรรคที่ติดขัดอย่างไรบ้าง ในแบบล่างขึ้นบน การที่สส.ไม่ว่าจะพรรคใดไปลงพื้นที่คลุกคลีกับปัญหาที่เกิดขึ้นที่ทำให้ประชาชนประสบความเดือดร้อนเป็นเรื่องที่ปกติของการเมือง เวลาพรรคไหนเป็นรัฐบาลผมก็เห็นทุกพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ลงพื้นที่โทรหาประชาชนอยู่ตลอด ซึ่งนี่คือประเด็นแรกที่ต้องยืนยันในเชิงหลักการ


ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เราได้จากการลงพื้นที่พูดคุยกับผู้ปฏิบัติงานจริงที่เป็นอาสาสมัครดับไฟทำให้เราเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านอุปกรณ์ ว่ามีอุปกรณ์ชนิดไหนที่ขาดแคลน อย่างเช่นโดรนตรวจจับความร้อนมีความสำคัญยังไง ตอนนี้มีอยู่กี่เครื่อง หรือจะเป็นปัญหาเรื่องบุคลากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งอาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องสวัสดิการหรือค่าตอบแทนที่อาจจะทำให้เขาไม่มีความมั่นคงพอ ส่งผลกระทบอย่างไรบ้างต่อสภาพจิตใจในการทำงาน ต่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทีมให้สามารถเข้าไปดับไฟป่าได้เร็วที่สุดรวมถึงปัญหาเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินว่าพอมีบางพื้นที่ที่อาจจะเป็นพื้นที่ป่าไม้ หรือพื้นที่ป่า ที่อาจจะมีบางส่วนรับผิดชอบโดยหน่วยงานหนึ่ง หรือบางส่วนที่รับผิดชอบโดยอีกหน่วยงานหนึ่ง สร้างปัญหาในเชิงปฎิบัติงานอย่างไร

นายพริษฐ์กล่าวยืนยันว่าสิ่งที่เราเข้าไป ทำให้เราเข้าใจ ถึงอุปสรรคเหล่านี้อย่างลึกซึ้งขึ้น และมันจะเป็นประโยชน์ต่อการเข้าไปขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในสภาไม่ว่าจะเป็นการเสนอกฎหมายการตรวจสอบงบประมาณ หรือการยื่นข้อเสนอแนะต่อฝ่ายบริหาร ซึ่งการที่เราเข้าไปทำหน้าที่ตรงนี้ ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรต่อเจ้าหน้าที่หน้างานแต่อย่างใด

“เราระมัดระวังอยู่แล้วในการไม่ทำให้การเข้าไปศึกษาข้อมูลเป็นอุปสรรคต่อใคร ถ้าจะยืมคำพูดของท่านนายก ท่านนายกก็พูดเองว่า เป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายรัฐบาลฝ่ายค้านจะเข้าไปศึกษาปัญหาเดียวกันในพื้นที่ใกล้เคียงกันในเวลาใกล้เคียงกันเพราะต่างคนต่างก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ถ้าข้อเสนอแนะเหมือนกันก็ร่วมกันผลักดัน หรือถ้าต่างกัน การที่มีหลายข้อเสนอแนะมาแข่งขันกันก็น่าจะทำให้ประโยชน์นั้นสูงสุดตกต่อพี่น้องประชาชน ผมคิดว่าท่านนายกเองก็เข้าใจประเด็นนี้ และหวังว่าทีมงานของท่านนายกก็จะเข้าใจเช่นเดียวกัน“นายพริษฐ์กล่าว


ส่วนจะมองว่าถูกโฆษก และรองโฆษกรุมหรือไม่นั้น มองว่า ไม่เป็นไรครับสิ่งที่ผมมองว่าสำคัญกว่า คือเราได้ข้อมูลอะไรจากการทำงานตรงนั้นบ้างและ สามารถนำมาขับเคลื่อนอย่างไรได้บ้าง และท่านนายกเองในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารก็ดูจะเข้าใจดีการให้สัมภาษณ์ของท่าน

ส่วนกรณีที่อาจจะยังมีคนมองว่าเป็นการวัดพลังทางการเมืองระหว่างก้าวไกลกับรัฐบาลหรือคุณทักษิณ ก็ต้องยืนยันถึงข้อเท็จจริงเดิมที่ยืนยันมาตั้งแต่ก่อนออกเดินทางจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ ว่าเรื่องนี้เริ่มต้นจากโครงการศึกษาปัญหาไฟป่าซึ่งได้เปิดโครงการมาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ซึ่งมีคุณชัยธวัชในฐานะหัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นความพยายามที่จะทำความเข้าใจกับปัญหามากขึ้นและเก็บข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์หาแนวทางในการป้องกันในอนาคต โดยโครงการดังกล่าวก็ได้มีการล็อคคิวไว้แล้วว่าคุณพิธาในฐานะแคนดิเดตนายกของพรรคก้าวไกล ต้องไปหาพื้นที่ในการศึกษาปัญหาดังกล่าว เพียงแต่ว่าตอนแรกวางไว้ว่าเป็นพื้นที่จังหวัดเชียงรายแต่พอใกล้ถึงวันกำหนดการทางมูลนิธิที่เราจะเข้าไปพูดคุยด้วย คือมูลนิธิกระจกเงาได้ให้ข้อมูลมาว่าไฟป่าที่เชียงรายค่อนข้างจัดการได้ดีอยู่แล้ว ถ้าจะดูปัญหาจริงให้มาที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะและอาสาสมัครดับไฟป่าก็ย้ายไปอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่จึงมีการย้ายพื้นที่มาเชียงใหม่แทน

แน่นอนว่าพอมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องสถานที่หรือรูปแบบกิจกรรมก็มีการปรับเปลี่ยนคณะสส.ที่ไปร่วมกิจกรรมด้วยเพื่อให้สอดคล้องกับโครงการจึงมีสส.จังหวัดเชียงใหม่ไปร่วมโครงการด้วย ผมเองก็ร่วมเดินทางไปด้วยในฐานะโฆษก ยืนยันว่าเป็นไปตามข้อเท็จจริง พูดร้อยครั้งก็เป็นแบบนี้ร้อยครั้ง . 312 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

สระแก้วพบผู้ป่วยติดเชื้อแอนแทรกซ์รายแรก

สระแก้ว 2 มิ.ย.- สระแก้วพบผู้ป่วยแอนแทรกซ์รายแรก ซักประวัติชอบกินก้อย-ซอยจุ๊-เนื้อดิบ จนท.เตรียมลงพื้นที่สอบสวนโรคเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ นายแพทย์ธราพงษ์ กัปโก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์รายแรกของจังหวัด เป็นชาย อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้างตัดไม้ อยู่ที่ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี ด้วยอาการตุ่มแผลบริเวณศีรษะ ด้านหลังคอ แขน และขา การตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อแอนแทรกซ์ จากการซักประวัติพบว่า ผู้ป่วยมีพฤติกรรมเสี่ยง คือ ดื่มสุราทุกวัน และชอบบริโภคก้อย ซอยจุ๊ เนื้อดิบเป็นประจำ ล่าสุดได้รับประทานเนื้อดิบเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากการบริโภคเนื้อสัตว์ป่วยที่ไม่ได้รับการปรุงสุก วันนี้ (2 มิถุนายน 2568) จะลงสอบสวนโรคเพื่อเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ เน้นย้ำให้ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้วและพื้นที่ใกล้เคียง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการสัมผัสโค กระบือ แพะ แกะ ที่ป่วยหรือตายผิดปกติ ล้างมือและชำระล้างร่างกายหลังสัมผัสสัตว์ เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย บริโภคอาหารที่ปรุงสุก ร้อน และสะอาดเท่านั้น หากพบสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ […]

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนยังมีฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 2 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย