“พิธา” ลงพื้นที่ดับไฟป่า วางไว้ก่อน “ทักษิณ” กลับเชียงใหม่

อาคารอนาคตใหม่ 19 มี.ค.- “ไอติม” ยัน “พิธา” ลงพื้นที่ดับไฟป่า เป็นไปตามแผนที่วางไว้ก่อนทักษิณกลับเชียงใหม่ โต้ “ทีมโฆษกรัฐบาล” ยันลงพื้นที่เดียวกันเป็นเรื่องปกติทางการเมือง บอกระมัดระวังอยู่แล้ว ไม่ให้เกิดอุปสรรค เชื่อ นายกฯ ก็เข้าใจ


นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ทีมโฆษกรัฐบาลวิพากษ์วิจารณ์ถึงการลงพื้นที่จากเชียงใหม่ว่าของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นการมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ เป็นนายกทิพย์ที่ไม่เข้าใจการบริหารงาน ว่าเป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องทำความเข้าใจถึงปัญหาที่ประชาชนเผชิญอยู่ แน่นอนว่าการทำความเข้าใจถึงปัญหาต่างๆทำได้หลายวิธี มุมนึงต้องวิเคราะห์จากบนลงล่างว่าสถิติเป็นอย่างไรข้อมูลเป็นอย่างไรเพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์ภาพรวม

แต่อีกมุมนึงการที่ได้มีโอกาสไปสัมผัสกับปัญหาน่างานจะทำให้เราเข้าใจถึงปัญหาในภาคปฏิบัติมากขึ้นว่ามีอุปสรรคที่ติดขัดอย่างไรบ้าง ในแบบล่างขึ้นบน การที่สส.ไม่ว่าจะพรรคใดไปลงพื้นที่คลุกคลีกับปัญหาที่เกิดขึ้นที่ทำให้ประชาชนประสบความเดือดร้อนเป็นเรื่องที่ปกติของการเมือง เวลาพรรคไหนเป็นรัฐบาลผมก็เห็นทุกพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ลงพื้นที่โทรหาประชาชนอยู่ตลอด ซึ่งนี่คือประเด็นแรกที่ต้องยืนยันในเชิงหลักการ


ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เราได้จากการลงพื้นที่พูดคุยกับผู้ปฏิบัติงานจริงที่เป็นอาสาสมัครดับไฟทำให้เราเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านอุปกรณ์ ว่ามีอุปกรณ์ชนิดไหนที่ขาดแคลน อย่างเช่นโดรนตรวจจับความร้อนมีความสำคัญยังไง ตอนนี้มีอยู่กี่เครื่อง หรือจะเป็นปัญหาเรื่องบุคลากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งอาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องสวัสดิการหรือค่าตอบแทนที่อาจจะทำให้เขาไม่มีความมั่นคงพอ ส่งผลกระทบอย่างไรบ้างต่อสภาพจิตใจในการทำงาน ต่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทีมให้สามารถเข้าไปดับไฟป่าได้เร็วที่สุดรวมถึงปัญหาเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินว่าพอมีบางพื้นที่ที่อาจจะเป็นพื้นที่ป่าไม้ หรือพื้นที่ป่า ที่อาจจะมีบางส่วนรับผิดชอบโดยหน่วยงานหนึ่ง หรือบางส่วนที่รับผิดชอบโดยอีกหน่วยงานหนึ่ง สร้างปัญหาในเชิงปฎิบัติงานอย่างไร

นายพริษฐ์กล่าวยืนยันว่าสิ่งที่เราเข้าไป ทำให้เราเข้าใจ ถึงอุปสรรคเหล่านี้อย่างลึกซึ้งขึ้น และมันจะเป็นประโยชน์ต่อการเข้าไปขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในสภาไม่ว่าจะเป็นการเสนอกฎหมายการตรวจสอบงบประมาณ หรือการยื่นข้อเสนอแนะต่อฝ่ายบริหาร ซึ่งการที่เราเข้าไปทำหน้าที่ตรงนี้ ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรต่อเจ้าหน้าที่หน้างานแต่อย่างใด

“เราระมัดระวังอยู่แล้วในการไม่ทำให้การเข้าไปศึกษาข้อมูลเป็นอุปสรรคต่อใคร ถ้าจะยืมคำพูดของท่านนายก ท่านนายกก็พูดเองว่า เป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายรัฐบาลฝ่ายค้านจะเข้าไปศึกษาปัญหาเดียวกันในพื้นที่ใกล้เคียงกันในเวลาใกล้เคียงกันเพราะต่างคนต่างก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ถ้าข้อเสนอแนะเหมือนกันก็ร่วมกันผลักดัน หรือถ้าต่างกัน การที่มีหลายข้อเสนอแนะมาแข่งขันกันก็น่าจะทำให้ประโยชน์นั้นสูงสุดตกต่อพี่น้องประชาชน ผมคิดว่าท่านนายกเองก็เข้าใจประเด็นนี้ และหวังว่าทีมงานของท่านนายกก็จะเข้าใจเช่นเดียวกัน“นายพริษฐ์กล่าว


ส่วนจะมองว่าถูกโฆษก และรองโฆษกรุมหรือไม่นั้น มองว่า ไม่เป็นไรครับสิ่งที่ผมมองว่าสำคัญกว่า คือเราได้ข้อมูลอะไรจากการทำงานตรงนั้นบ้างและ สามารถนำมาขับเคลื่อนอย่างไรได้บ้าง และท่านนายกเองในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารก็ดูจะเข้าใจดีการให้สัมภาษณ์ของท่าน

ส่วนกรณีที่อาจจะยังมีคนมองว่าเป็นการวัดพลังทางการเมืองระหว่างก้าวไกลกับรัฐบาลหรือคุณทักษิณ ก็ต้องยืนยันถึงข้อเท็จจริงเดิมที่ยืนยันมาตั้งแต่ก่อนออกเดินทางจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ ว่าเรื่องนี้เริ่มต้นจากโครงการศึกษาปัญหาไฟป่าซึ่งได้เปิดโครงการมาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ซึ่งมีคุณชัยธวัชในฐานะหัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นความพยายามที่จะทำความเข้าใจกับปัญหามากขึ้นและเก็บข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์หาแนวทางในการป้องกันในอนาคต โดยโครงการดังกล่าวก็ได้มีการล็อคคิวไว้แล้วว่าคุณพิธาในฐานะแคนดิเดตนายกของพรรคก้าวไกล ต้องไปหาพื้นที่ในการศึกษาปัญหาดังกล่าว เพียงแต่ว่าตอนแรกวางไว้ว่าเป็นพื้นที่จังหวัดเชียงรายแต่พอใกล้ถึงวันกำหนดการทางมูลนิธิที่เราจะเข้าไปพูดคุยด้วย คือมูลนิธิกระจกเงาได้ให้ข้อมูลมาว่าไฟป่าที่เชียงรายค่อนข้างจัดการได้ดีอยู่แล้ว ถ้าจะดูปัญหาจริงให้มาที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะและอาสาสมัครดับไฟป่าก็ย้ายไปอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่จึงมีการย้ายพื้นที่มาเชียงใหม่แทน

แน่นอนว่าพอมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องสถานที่หรือรูปแบบกิจกรรมก็มีการปรับเปลี่ยนคณะสส.ที่ไปร่วมกิจกรรมด้วยเพื่อให้สอดคล้องกับโครงการจึงมีสส.จังหวัดเชียงใหม่ไปร่วมโครงการด้วย ผมเองก็ร่วมเดินทางไปด้วยในฐานะโฆษก ยืนยันว่าเป็นไปตามข้อเท็จจริง พูดร้อยครั้งก็เป็นแบบนี้ร้อยครั้ง . 312 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

เขื่อนเจ้าพระยาระบายแตะ 2,000 ลบ.ม./วินาที หน่วงน้ำเขื่อนป่าสักฯ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมชลประทานจะระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,000 ลบ.ม./วินาที ช่วงบ่ายวันนี้ ห่วงผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย จึงปรับลดการระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อให้น้ำเหนือระบายสู่อ่าวไทยได้มีประสิทธิภาพขึ้น ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ระบุว่า เช้าวันนี้ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,101 ลบ.ม./วินาที และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมากรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จาก 1,900 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,950 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งตามศักยภาพของคลอง แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นดังกล่าว จะทำให้มีพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนที่ได้รับผลกระทบได้แก่ กรมชลประทานจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป จากอัตรา 1,950 ลบ.ม./วินาที ให้เป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (12 ก.ย.) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้ […]