มทบ.34 18 มี.ค.-รมว.กห.ควงรมว.ยธ.ตรวจเยี่ยมศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดเสพมทบ. 34 จ.พะเยา ย้ำ คนติดยาไม่ใช่อาชญากร แต่เป็นความพลาดพลั้ง ใช้หลักเมตตาธรรมให้โอกาสฟื้นฟูร่างกาย – จิตใจ
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระกลาโหม พร้อมด้วยพ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมร่วมฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ยาเสพติดภายในพื้นที่จ.พะเยา จากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข มทบ. 34 และกองอาสารักษาดินแดน (อส.) พร้อมตรวจเยี่ยมศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดมทบ. 34 ตรวจเยี่ยม รพ.ค่ายขุนเจืองธรรมิกราช และการดูแลสวัสดิการกำลังพลชั้นผู้น้อยบริเวณบ้านพักกำลังพล มทบ. 34
นพ.ตะวัน ที่ปรึกษาจิตแพทย์นายแพทย์ชำนาญการโรงพยาบาลพะเยา และที่ปรึกษาสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดจังหวัดพะเยา กล่าวถึงกระบวนการนำผู้ป่วยเข้าสู่การบำบัดที่มาจากความสมัครใจ ว่า เบื้องต้นต้องได้รับการถอนพิษสารเสพติดในโรงพยาบาลก่อน เพื่อให้พร้อมเข้าสู่กระบวนการบำบัด หลังจากนั้นจะคัดเลือกผู้ป่วยเข้าสู่สถานฟื้นฟู เกณฑ์การคัดเลือกเพศสภาพชาย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง ไม่มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง ไม่อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดี ทั้งนี้ ผู้เข้ารับการฟื้นฟูในจังหวัดพะเยามี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกในสถานฟื้นฟูสมรรถภาพพลเมืองมทบ. 34 จำนวน 30 ราย และสถานฟื้นฟูกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดพะเยา จำนวน 32 ราย
สำหรับมทบ. 34 ซึ่งใช้เป็นที่ตั้งสถานฟื้นฟูสมรรถภาพพลเมือง กรมการปกครอง กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดพะเยา ที่ 2 และมีพื้นที่ควบคุมเฉพาะผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติด โดยมีหลักสูตรใช้ฝึก 3 กระบวนการ ได้แก่ 1.กระบวนการกลุ่มหรือกระบวนการชุมชนบำบัด 2.กระบวนการให้ความรู้ ด้านสุขภาพทั้งร่างกาย และสุขภาพจิต การสร้างความผ่อนคลายการเล่นกีฬา การดูหนังฟังเพลง และ 3.กระบวนการสร้างงานสร้างอาชีพ เช่น ส่งเสริมการปลูกผัก สอนสอนตัดผม สอนทำไม้กวาดทางมะพร้าว การทำปุ๋ยหมัก ขณะที่ระเบียบปฏิบัติสถานฟื้นฟูประจำวันนั้น ผู้เข้ารับการบำบัดจะตื่นตั้งแต่ 05.30 น. เพื่อทำภารกิจส่วนตัว ออกกำลังกายในช่วงเช้า และในช่วงบ่ายจะมีกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ และกิจกรรมบำบัดจนถึงช่วงบ่าย ก่อนออกกำลังกาย และเข้านอนในเวลา 21.00 น.
นายสุทิน กล่าวว่า วันนี้ถือโอกาสก่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (19 มี.ค.) นัดพบปะเยี่ยมเยียน พูดคุยเรื่องยาเสพติด ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล เพราะเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งรัฐบาลแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ด้วยเหตุยาเสพติดระบาดหนักหน่วงรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ติดยาเสพติดมีทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ รวมถึงพลาดพลั้งจำนวนมาก เชื่อว่าหลายคนที่พลาดเข้าไป อยากจะกลับออกมาใช้ชีวิตปกติกับสังคม ครอบครัว ญาติมิตร การเรียกร้องดังกล่าวทำให้รัฐบาลนำมาเป็นวาระที่ต้องรีบดำเนินการ ในส่วนของกระทรวงกลาโหมร่วมกับกระทรวงยุติธรรม และกระทรวงสาธารณสุข ช่วยกันคนละบทบาทคนละไม้คนละมือ บนพื้นฐานของเมตตาธรรม
“ผู้ที่ติดยาเสพติดเป็นผู้ป่วยไม่ใช่อาชญากร ไม่ใช่คนชั่ว ไม่ใช่คนเลว แต่เป็นความพลาดพลั้ง ดังนั้น บนพื้นฐานของเมตตาธรรม เราจึงเปลี่ยนความคิดใหม่ว่าจะไม่ทำโทษ แต่จะรักษา เราเชื่อว่ากระบวนการรักษาเป็นการให้โอกาส ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด ทางทหารก็รับผิดชอบที่จะจัดการจัดสถานที่ดูแล ส่วนกระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข ก็รับผิดชอบเกี่ยวกับหลักสูตรต่าง ๆ เชื่อว่ากระบวนการดังกล่าวน่าจะเป็นกระบวนการที่ดี และหวังว่าได้ผลดี คือผู้ที่พลาดพลั้งติดยาเสพติดจะได้มีโอกาสพัฒนาร่างกาย ฟื้นฟูจิตใจ เพื่อพร้อมกลับเข้าสู่อ้อมกอดของครอบครัว ชุมชน และบ้านเมือง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว.-317 .-สำนักข่าวไทย