“พิธา”ดับไฟป่า เป็นเจตนาดี ถามสังคมยอมรับ “ทักษิณ” โกหกได้หรือไม่

รัฐสภา 18 มี.ค.-“โรม” ป้อง “พิธา” ดับไฟป่าเชียงใหม่ ถือเป็นสิทธิ์-เจตนาดี ตอกกลับ สส.รัฐบาล มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ แนะกระทุ้งรัฐเร่งแก้ปัญหาดีกว่า ถามสังคมยอมรับโกหกอาการป่วย “ทักษิณ” ได้หรือไม่ หลังลงพื้นที่ดูแข็งแรง

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ การลงพื้นที่ดับไฟป่าที่ จ.เชียงใหม่ ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นการกระทำที่ไม่มีมารยาททางการเมือง ว่า การที่นายพิธาจะไปที่ไหนก็เป็นสิทธิ์ จะไปลงพื้นที่เชียงใหม่ ไปช่วยดับไฟป่า ก็คิดว่าเขามีเจตนารมณ์ที่ดี ต้องยอมรับว่า จ.เชียงใหม่ และภาคเหนือหลายๆ จังหวัด ก็มีฝุ่นควันเยอะ อากาศแย่ ทำร้ายท่องเที่ยว การที่นายพิธามีความตั้งใจที่ดีในการแก้ปัญหา พยายามทำให้ทุกคนมีความสนใจที่จะแก้ปัญหา และทำให้ภาครัฐหลายส่วนช่วยกันแก้ปัญหา มองว่าไม่น่าจะผิดอะไร


พร้อมตอกกลับคนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า “มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” หรือเป็นการไม่มีมารยาท ตนว่าอย่าพูดแบบนี้ดีกว่า เข้าใจว่า สส. ที่พูดแบบนี้อยู่ฝั่งรัฐบาล แทนที่จะมาต่อว่าฝ่ายค้าน ควรเอาเวลาไปกระทุ้งรัฐบาลให้แก้ปัญหาให้จริงจังดีกว่า เพราะรัฐบาลไม่ใช่มือใหม่ บริหารงานมาหลายเดือนแล้ว ควรใช้โอกาสตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ดีกว่า หากคิดว่าเชียงใหม่ เป็นเมืองหลวงและฐานที่มั่นสำคัญของรัฐบาล ก็ช่วยดูแล อย่างน้อยสภาพอากาศต้องดีขึ้น

ส่วนกระแสการวัดความนิยมระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าสังคมมองกรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างไร แต่ส่วนตัวตนถูกสอนมาจากสถาบันการศึกษาว่า การโกหกเป็นเรื่องไม่สมควรทำ ถ้าในทางพุทธก็ต้องบอกว่าผิดศีล และเชื่อว่าทุกศาสนาก็กำหนดในลักษณะนี้ด้วย


“ไม่แน่ใจว่าสังคมไทยจะยอมรับได้แค่ไหน เมื่อเห็นนายทักษิณ บางวันก็มีเฝือกดามคอ บางวันก็ไม่มี บางวันก็ถอดเฝือกคอออกให้เห็น สรุปแล้วนายทักษิณเป็นบุคคลที่ป่วยร้ายแรงหรือไม่ หรือป่วยมากกว่านักโทษคดีการเมืองคนอื่นหรือไม่ ต้องยอมรับว่าเราไม่เห็นเอกสารทางการแพทย์ที่จะออกมายืนยันได้ เราจึงสงสัย” นายรังสิมันต์ กล่าว

ส่วนการชี้แจงของหน่วยงานราชการเกี่ยวกับอาการป่วยของนายทักษิณนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่าข้อชี้แจงดังกล่าวไม่สามารถทำให้สังคมสิ้นข้อสงสัยได้ พร้อมยกตัวอย่างที่โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาแถลงอาการของนายทักษิณ ว่าเป็นเส้นเอ็นเปื่อยยุ้ย เช่นเดียวกับอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มาระบุว่านายทักษิณต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานาน แต่สุดท้ายนายทักษิณก็ดูแข็งแรงดีในการลงพื้นที่ สามารถนั่งยองคุยกับประชาชนที่มารอรับได้ ดังนั้นสังคมไทยต้องถามตัวเอง ไม่ใช่ถามนายทักษิณ ว่าเราจะยอมรับได้แค่ไหนที่จะเห็นนักการเมืองพูดมุสา

พร้อมกันนี้ เรียกร้องให้นำเอกสารทางการแพทย์มายืนยันอาการป่วย ไม่ต้องไปอ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล


“ขอให้นายทักษิณมายืนยันด้วยตัวเอง และอย่ามาบอกว่านายทักษิณไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแล้ว เพราะการลงพื้นที่เชียงใหม่ในครั้งนี้คึกคักกว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เสียอีก จึงต้องยอมรับว่านายทักษิณมีความไม่ธรรมดาอยู่แล้ว สังคมไทยก็ต้องตอบตัวเองว่าจะยอมรับได้แค่ไหน เกี่ยวกับการโกหก”นายรังสิมันต์ กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน