นายกฯ ลงพื้นที่​ลำพูน​ เตรียมยกระดับเป็นเมืองหลักท่องเที่ยว

ลำพูน 17 มี.ค.- นายกฯ ลงพื้นที่​ลำพูน​ เตรียมยกระดับเป็นเมืองหลักการท่องเที่ยว เชื่อมต่อเชียงใหม่-สนามบินล้านนา​ รับห่วงแก้หนี้​ เหตุเป็นหายนะ​ประเทศ​ ต้นเหตุก่ออาชญากรรม​ ขณะเจ้าอาวาสวัดดอนหลวงมอบแท่นพิมพ์​พระรอดจำลอง​ อวยพรอยู่ครบ​ 4 ปี​


นายเศรษฐา​ ทวี​สิน​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​การคลัง​ พร้อมด้วยนายสุริยะ​ จึงรุ่งเรืองกิจ​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม​ และคณะ ​เดินทางลงพื้นที่จังหวัดลำพูน​ พบปะประชาชนในพื้นที่ ณ บ้านดอนหลวง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน​

เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงได้แวะถ่ายรูปกับประชาชนที่มารอต้อนรับและรับมอบผ้าพันคอ กอนจะเดินเข้ามายังภายในวัดดอนหลวง ซึ่งภายในได้จัดแสดงนิทรรศการอัตลักษณ์ของจังหวัดลำพูน โดยนายกรัฐมนตรีได้รับฟังบรรยายสรุปเรื่องการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดลำพูน และได้รับมอบเสื้อลายวัวน้อย​ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ขาวลำพูน รวมถึงเป็นสายพันธุ์ที่ใช้ในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ​


จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ทดลองชิมมะม่วงพันธุ์จักรพรรดิ์ ก่อนจะสอบถามว่าสามารถส่งออกขายยังต่างประเทศได้หรือไม่ พร้อมชิมทองม้วนจากมะม่วง ​ก่อนได้รับมอบภาพวาดเหมือนของนายกฯ โดยใช้สีจากคราม รวมถึงกระเป๋าเพนต์ลายสีจากคราม

นายกรัฐมนตรียังได้เข้าไปยังพระอุโบสถ​ เพื่อกราบนมัสการเจ้าอาวาส​ ซึ่งเจ้าอาวาสได้สะท้อนปัญหาเรื่องไฟทางและการปรับปรุงถนน​​ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก​ให้กับนักท่องเที่ยว​ ซึ่งนายกรัฐมนตรี​ให้ สส.ในพื้นที่เสนอเรื่องเข้ามายังคณะรัฐมนตรี​ ก่อนที่เจ้าอาวาสได้มอบแท่น​พิมพ์​พระรอด​ลำพูน​ พร้อมกับกล่าวแซวนายกรัฐมนตรี​ว่าของจริงไม่มีแล้ว​ หากมีคงรวยไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร​ และขอให้นายกรัฐมนตรีอยู่บริหารประเทศครบ 4 ปี

ก่อนที่นายกรัฐมนตรี​จะปัดทุกข์ปัดโศก​ ปัดโรค​ปัดภัย และรับมอบพระคริสตัล​รูปหล่อครูบาเจ้าศรีวิชัย ผูกข้อมือมงคล​ จากพระอาจารย์​ในวัด และรับมอบไม้สักแกะสลักพระ โดยมีความเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ขากลับว่าจะได้เป็นนายกฯ 2 สมัย


จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้พบปะกับชาวบ้านจังหวัดลำพูน พร้อมระบุว่าวันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาเยือน เนื่องจากในช่วงเลือกตั้งไม่ได้​มีโอกาสเดินทางมา วันนี้​เข้ามาเป็นรัฐบาลได้ 6 เดือนกว่าแล้ว ดีใจที่ได้มาเยือนจังหวัดลำพูน วันนี้ได้รับฟังการรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดว่าลำพูนได้รางวัลจังหวัดสะอาด 5 ปี​ซ้อน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ต้องยกความดีความชอบให้กับประชาชนชาวลำพูนทุกคนที่มีจิตใต้สำนึกที่ดี ทำให้เป็นเมืองที่สะอาด ได้รับการยอมรับมาถึง 5 ปี ตนเชื่อว่ารายได้ต่อหัว หรือ GDP สูงสุดในภาคเหนือ 17 จังหวัด​ ไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะที่ลำไย​ ถือเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดลำพูน หากมีการสื่อสารด้านการตลาดที่ชัดเจนเชื่อได้ว่ารายได้ของประชาชนจะสูงขึ้น​ รัฐบาลโดย สส.ลำพูน​ มีการผลักดันเรื่อง พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ลำไย​เข้าสู่สภาฯ ไปที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในช่วงการดำเนินการอยู่ จะทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดลำพูน​ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลำไย มีความเข้มแข็ง และแข็งแรงมากยิ่งขึ้น​ ทำให้ประชาชนมีความแข็งแรง พร้อมกับมอบให้กระทรวงพาณิชย์ส่งออกไปยังต่างประเทศ

ขณะเดียวกันการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม​ ตนเชื่อว่าเป็นจุดหนึ่งที่จังหวัดลำพูน สามารถทำได้ดี การที่เรามี 17 จังหวัด​ ภาคเหนือรวมตัวกันอย่างหนาแน่น ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดทำงานกันอย่างเข้มแข็งและแข็งแรงกันทุกคนตนเชื่อว่าการท่องเที่ยวของจังหวัดลำพูน เชียงใหม่​ ลำปาง​ พะเยา​ เชียงราย​ และจังหวัดภาคเหนืออีกหลายจังหวัด​ จะรวมตัวกันกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวเมืองหลัก​ แม้ว่าเชียงใหม่จะเป็นเมืองหลัก​ ลำพูนเป็นเมืองรอง แต่สามารถยกขึ้นเป็นเมืองหลักได้

“วันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก็อยู่ที่นี่ เรื่องของการขยายสนามบินล้านนา​ ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่​ ตนเชื่อว่าการเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ มาลำพูน จะใช้เวลาไม่นาน ตรงนี้เชื่อว่าเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ที่ทำให้กระตุ้นเศรษฐกิจของภาคเหนือ 17 จังหวัดได้เป็นอย่างดี” นายกรัฐมนตรี ระบุ

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหายาเสพติดว่าเป็นเรื่องใหญ่ได้มีการรับฟังการบรรยายสรุปมีปัญหาอยู่​ แต่ดีใจที่ผู้ว่าราชการจังหวัดและฝ่ายความมั่นคงให้ความสำคัญและทำงานอย่างต่อเนื่อง​

ส่วนเรื่องหนี้นอกระบบ​ ยืนยันว่าเป็นต้นเหตุของความหายนะของประเทศ หากดูจากตัวเลขในจังหวัดลำพูน ถือว่ายังต่ำ​ จึงต้องฝากผู้ว่าราชการจังหวัดแม้ว่าจะทำดีในหลายอย่างเรื่อง​ ซึ่งตลาดนัดหนี้นอกระบบตนอยากให้ทางอำเภอ​ ทางผู้กำกับ​ จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ​ ทำงานให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ขอให้ฝากว่าทำงานให้เข้มแข็งขึ้นอีกเข้าใจว่ามีภารกิจเยอะ​ แต่ขอให้ทำงานที่เข้มแข็งขึ้น เนื่องจากเป็นตัวร้ายที่กัดก่อนสังคมไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นสารตั้งต้นของภัยพิบัติอีกหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยาเสพติด อาชญากรรม​ เรื่องหนี้​ ขอให้เป็นเรื่องที่ทางการให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

“วันนี้ดีใจที่ได้ใส่เสื้อผ้าฝ้ายของจังหวัดลำพูน เป็นแหล่งผลิตฝ้ายที่ใหญ่ ที่สุดหน้าที่ของตนในการเดินทางไปต่างประเทศ ตนพยายามผลักดันสินค้าไทยจากทุกภูมิภาคจากทุกจังหวัดที่ไป​ วันนี้เดี๋ยวช่วงตอนบ่ายจะไปเดินเซ็นทรัล เชียงใหม่ ช่วยโปรโมทผ้าพื้นเมือง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เราจะให้ความสำคัญและสังกัดไปยังกระทรวงพาณิชย์และมหาดไทย ให้มีการพัฒนาภาคเหล่านี้ออกมาเจาะหาตลาดใหม่ๆ ตนดีใจแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ขอโทษที่ไม่ได้มาเร็วกว่านี้ แต่ช้าก็ดีกว่าไม่ได้มา วันนี้ถือว่าเป็นเกียรติที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทุกท่าน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมการผลิตผ้าฝ้าย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของพื้นที่ชุมชน​ สวมงอบ​ และเซ็นลายเซ็นบนภาพวาดเหมือนให้กับประชาชนด้วย​ รวมถึงยังถ่ายรูปเซลฟี่อย่างเป็นกันเอง

ก่อนที่ในช่วงเย็นนายกรัฐมนตรี​จะเดินทางมาติดตามประเด็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และยกระดับสินค้า Soft Power ณ คลองแม่ข่า ตำบลหายยา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่.-316-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือยิงถล่ม “กำนันเล้น” สารภาพแค้นส่วนตัว

ตรัง 22 ส.ค.- ตำรวจแถลงคดียิง “กำนันเล้น” แห่งตำบลนาวง จ.ตรัง ผู้ต้องหาสารภาพยิงถล่มจนตายเพราะแค้นส่วนตัว คุมตัวฝากขังศาล พร้อมค้านประกัน ที่ สภ.ห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมตำรวจ ร่วมกันแถลงรายละเอียดผลการจับกุมนายธวัชชัย ผู้ต้องหาคดีฆ่านายบัณฑิต หรือ “กำนันเล้น” กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา การสืบสวนสอบสวนแกะรอยจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายธวัชชัย จึงยื่นขอศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ในข้อหา”ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของตำรวจหลายหน่วยกระทั่งทราบแหล่งกบดาน จนนำไปสู่การจู่โจมจับกุมที่ห้องเช่าในพื้นที่ ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) โดยใช้เวลา 18 วันในการปิดคดี “ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีสาเหตุมาจากความแค้นส่วนตัวที่สะสมจนถึงจุดแตกหักและลงมือก่อเหตุ” ขณะเดียวกันวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมนำตัวนายธวัชชัย ส่งขออำนาจศาลจังหวัดตรัง ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยระหว่างคุมตัวลงมาขึ้นรถ […]

บุกจับปลัด อบจ. เรียกเงินผู้รับเหมา

22 ส.ค.- รวบคาโต๊ะทำงาน ตำรวจบุกจับปลัด อบจ.มุกดาหาร เรียกรับเงินผู้รับเหมา 7 โครงการ วงเงินกว่า 12 ล้านบาท แลกอนุมัติเบิกจ่ายงบฯ เจ้าหน้าที่บุกอ่านหมายจับ ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกร ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่ง โดยมิชอบ, ข่มขืนใจ บุคคลใดมอบให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง  และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และมาตรา 157 เป็นการเข้าทำการตรวจค้น จับกุมที่ห้องทำงานปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร  ก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมาเข้าร้องเรียนกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4  ว่า ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในตำแหน่งปลัด อบจ.มุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.มุกดาหาร ระหว่างนั้น ผู้เสียหายได้เข้าเป็นคู่สัญญา รับจ้างในโครงการปรับปรุงถนนลาดยางผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ 1 โครงการ วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท โครงการเสริมผิวทางแอสฟัลท์ติกคอน กรีตฯ จำนวน 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ […]

ผบ.ทอ. บินสวีเดน ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 ส.ค.นี้

22 ส.ค.- กองทัพไทยเพิ่มแสนยานุภาพ เสริมความแข็งแกร่ง ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” กับสวีเดน อย่างเป็นทางการ 25 สิงหาคมนี้ การลงนามครั้งนี้ นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะลงนามกับบริษัท SAAB AB ที่ประเทศสวีเดน ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ตามมติ คณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติหลักการโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง ( วงเงิน 19,500 ล้านบาท ) การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนครั้งนี้ ไม่เพียงเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางทหาร ในการเสริมศักยภาพป้องกันประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน และยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และเทคโนโลยี ในการลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 สิงหาคมนี้ ทางประเทศสวีเดน จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน เข้าร่วมในฐานะสักขีพยาน “มาริษ” ร่วมเป็นสักขีพยานจัดซื้อ “กริพเพน” […]

IOT ลุยบ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านเขมรรุกล้ำอธิปไตยไทย

22 ส.ค.- IOT ลงพื้นที่บ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านกัมพูชาปลูกรุกล้ำอธิปไตยไทย ชาวบ้านบอกแค้นใจ โดนเขมรยึดแผ่นดิน เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ ต.หนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว กองทัพไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) 8 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงการรุกล้ำอธิปไตยแผ่นดินไทยของกัมพูชา และรายงานถึงหลักเขตที่ 46 – 48 ที่อยู่ด้านในพื้นที่ พร้อมรับทราบมาตรการควบคุมและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายข้ามชาติ เช่น อาชญากรรมออนไลน์ และการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ทันทีที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว เดินสำรวจพื้นที่ ได้พบกับหมู่บ้านขนาดเล็ก พร้อมซากอาคาร บ้านเรือน และโรงงานที่ชาวกำพูชาได้ลักลอบมาสร้างไว้กว่า 200 ครอบครัว โดยก่อนหน้านั้นทหารได้ผลักดันให้ออกนอกพื้นที่โดยไม่ได้มีการใช้อาวุธแต่อย่างใด หลังจากดำเนินการเรียบร้อยแล้วได้มีการนำสแลน และวางแนวรั้วลวดหนาม เพื่อเป็นแนวป้องกัน ไม่ใช่การวางเพื่อกำหนดเส้นเขตแดน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว และสื่อมวลชนลงพื้นที่ มีชาวกัมพูชาพยายามที่จะมาแอบดูตามแนวปิดกั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องขอความร่วมมือไม่ให้เข้าไปใกล้ในบริเวณดังกล่าวมากจนเกินไป -สำนักข่าวไทย