เชียงใหม่ 17 มี.ค.- นายกฯ ระบุยังไม่จำเป็นต้องประกาศ “เชียงใหม่” เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ หลังเจอสถานการณ์ PM 2.5 พุ่ง ชี้รัฐให้งบกลางมากกว่างบฉุกเฉินอยู่แล้ว มองเรื่องกำลังเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าน้อย เป็นเรื่องการบริหารจัดการ ชี้ปัจจุบันมีเป็นหมื่นคน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงไทม์ไลน์ของปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะเข้าสู่จุดสูงสุดในต้นเดือน เม.ย.นี้ ว่า ตนคิดว่าปลายเดือน มี.ค.นี้ จะเป็นช่วงที่พีค แต่ว่าเราก็ไม่ได้ย่อท้อ ก็จะทำงานต่อไป พร้อมย้ำว่าเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลได้อนุมัติงบกลางให้กับประชาชนมาช่วยกันดูแลทรัพยากรของชาติร่วมกัน และเมื่อให้ไปแล้วก็ต้องมาดูกันว่าจะต้องไม่มีจุดฮอตสปอตอีก ในแง่ของส่วนที่เราได้บริหารจัดการไป
เมื่อถามถึงข้อเรียกร้องที่จะให้มีการเปิดไทม์ไลน์ถึงมาตรการ เพื่อที่จะให้คนในพื้นที่ได้เตรียมพร้อมรับมือ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เจ้าหน้าที่ก็มีการทำงานกันอย่างเคร่งครัด และการที่เราได้ให้งบกลางลงไปในพื้นที่ต่างๆ ก็จะให้มีจุดเฝ้าระวังให้เยอะขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามว่า ทำไมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีปัญหาฝุ่น PM 2.5 ติดอันดับโลก แต่ไม่มีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อที่จะได้อนุมัติงบฯ ลงมาแก้ไขปัญหา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งบฯ เราก็มีให้อยู่แล้ว เรื่องนี้เราก็ทำอยู่แล้ว พร้อมระบุว่ายังไม่จำเป็นที่จะต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ และรัฐบาลก็ให้งบกลางมากกว่างบฉุกเฉิน
ส่วนมาตรการเร่งด่วนในการดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เมื่อวานนี้ก็มีการแจกหน้ากากอนามัย 2 ล้านชิ้น แต่ก็คงเป็นเรื่องของปลายเหตุมากกว่า ส่วนการดำเนินการเรื่องฝนหลวงนั้นก็ทำตลอด ทั้งยุทโธปกรณ์ของหลายๆ ส่วน และเฮลิคอปเตอร์ของหลายหน่วยงานก็เข้ามาอยู่ที่นี่ เพื่อที่จะสูบน้ำเข้าไปดับไฟป่า ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ฝุ่นได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความคาดหวังด้วย ตนไม่ได้บอกว่าอากาศที่เชียงใหม่ดี แต่ก็ยังน้อยกว่าปีที่แล้ว เลยวางพื้นที่มีจุดฮอตสปอตน้อยกว่า 2 ใน 3 เลย แต่ค่าฝุ่นก็ยังสูงอยู่ดี เราก็ยังมองเห็นอยู่ ก็ต้องทำงานกันต่อไป
เมื่อถามว่า นายพิธา เสนออยากให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยดับไฟในป่า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันก็เป็นหมื่นคนอยู่แล้ว จริงๆ แล้วต้องพยายามบริหารเรื่องบุคลากรให้ดีด้วย .-316 -สำนักข่าวไทย