นายกฯ ชี้​ลุยแก้ไฟป่า​ ทำจุดความร้อนเชียงใหม่ลด​ 3 เท่าใน​ 1 ปี​

เชียงใหม่ 16 มี.ค. – นายกฯ ชี้ผลงาน​ลุยแก้ไฟป่า​ ทำจุดความร้อนเชียงใหม่ลด​ 3 เท่าใน​ 1 ปี​ -​ ฝุ่นลด​ครึ่งหนึ่ง บอก “เราทำดีแล้ว​ แต่ต้องไปพัฒนาต่อ​” ยันงบฯ จ้างอาสาสมัครดับไฟป่าเบิกได้จริง​ ก่อนย้ำ​เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องปลอดภัย​ ระบุปีนี้แค่ขู่ไม่ได้ผล​ ปีหน้าเอาจริงห้ามนำเข้าข้าวโพดประเทศเพื่อนบ้า​น ตั้งแต่ ม.ค.​-เม.ย.​ หลังเจรจาขอความร่วมมือไม่เป็นผล​


นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ พร้อมด้วย พล.ต.อ.พัชรวาท​ วงษ์สุวรรณ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ นายจุลพันธ์​ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล​ เจริญชันษา​ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ณ ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเจ้าหน้าที่ถือป้ายรอต้อนรับ ทั้งรณรงค์หยุดเผาป่า ลดหมอกควัน ลดโลกร้อน และชาวแม่แตงร่วมใจสู้ไฟป่า

โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้รับฟังการรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาไฟป่า​ และสถานการณ์​ฝุ่นละออง ​PM 2.5 ทั้งประเทศ​ ซึ่งจากการประสานพูดคุยกับต่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหา​หมอกควันข้ามแดน​ ขณะนี้ไทยได้มีการหารือกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศกัมพูชา รวมถึง สปป ลาว เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเมียนมาอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้บัญชาการ​ทหาร​สูงสุด


นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า หากดูจากการแสดงผลกราฟ​ พบว่า​ จากปริมาณฝุ่นละออง ​PM 2.5 พบว่าลดกว่าปีที่แล้วกว่า 1 เท่า แม้ว่าบางจังหวัดอย่างเชียงใหม่ เมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา อาจจะมีปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในอันดับหนึ่งของโลก แต่ก็ลดลง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเราทำดีแล้ว​ แต่ต้องไปพัฒนาต่อ​ และเห็นได้ว่าเกิดผลจากการที่ข้าราชการและหน่วยงานต่างๆ ทำงานบูรณาการตลอดช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา เห็นได้อย่างชัดเจน

นายกรัฐมนตรี​ ระบุว่า จุดความร้อนปัจจุบันเป็นแค่ 1 ใน 3 ของปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเราทำงานได้ดีขึ้นกว่า 3 เท่าตัว​ ตนไม่อยากให้เจ้าหน้าที่เสียกำลังใจ​ แต่ไม่ได้บอกว่าพอใจในผลงาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงทรัพย์ฯ​ และหน่วยงานด้านความมั่นคง​ ทำให้จุดความร้อนลดลงได้ 1 ใน 3​ และหากเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกันจะพบว่า ปริมาณฝุ่นละอองลดลงกว่าครึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา​ แม้ว่าไทยจะติดอันดับปริมาณฝุ่นสูง​ 5 อันดับของโลก

นายกรัฐมนตรี กล่าวเน้นย้ำถึงการอนุมัติงบประมาณแก้ปัญหาไฟป่า​ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา​ ซึ่งตนยืนยันว่า ปัจจุบันสามารถเบิกจ่ายได้จริง​ และนโยบายอาสาสมัคร​ดับไฟป่าเป็นเรื่องที่ดี​ โดยต้องเป็นคนพื้นที่เท่านั้น​ และมีความผูกพันกับพื้นที่ มีใจรักพื้นที่ของเขา ทำด้วยใจ​ พร้อมกับเน้นย้ำว่า​ อาสาสมัครดับไฟป่าจะต้องมีความปลอดภัย​ และต้องดูอุปกรณ์ให้มีความพร้อม​ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้​ ขอให้ดูให้ดีด้วยแล้วกัน


นายกรัฐมนตรี​ กล่าว​ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนเอาเรื่อง PM 2.5 เป็นวาระแห่งชาติ หากติดตามการทำงานของคณะรัฐมนตรีจะทราบว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยต้องยอมรับว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาใหญ่ของภาคเหนือ​ แต่อย่างไรก็ตาม ถึงวันนี้เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา จริงๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นปริมาณฝุ่นหรือจุดความร้อนลดลงครึ่งหนึ่ง หรือ 2 ใน 3 ถึงแม้จะมีการเผยแพร่ว่า จังหวัดเชียงใหม่ ถูกจัดอยู่ในลำดับต้นๆ ของโลก แต่ก็ลดลง ขณะนี้กำลังเข้าสู่ในระยะเฝ้าระวัง ซึ่งช่วง​ไฮซีซั่น จากนี้ต่อไปอีก 45 วัน​ จะเป็นช่วงเฝ้าระวังที่สำคัญที่สุด ซึ่งต้องยอมรับว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจ จำเป็นต้องหานวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามา​ รวมถึงประสานงานกับกองทัพ ในการขนส่งซากวัสดุเข้าไปแปรรูป โดยรัฐบาลตระหนักดีว่า หากเกษตรกรเผาก็สามารถทำได้​ แต่ต้องให้ความรู้กับเกษตรกร ซึ่งรัฐบาลก็ต้องแก้ไขกันไป ผู้ว่าราชการจังหวัดก็มีการประสานงานที่ดีกับกองทัพ นำยุทโธปกรณ์ที่ยังไม่ได้ใช้ของทหาร เช่น รถ​มาเปลี่ยนขนวัสดุต่างๆ ทำให้ปริมาณฝุ่นลดลง

อย่างไรก็ตาม​ เรายังคงต้องทำงานกันต่อไป เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งมีการนำเสนอมาว่า​ ในช่วงฤดูฝน ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เกิดจากปัญหาการจราจร​ ซึ่ง 1 เดือนที่ผ่านมา​ ที่ตนเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม​ มีการพูดคุยเรื่องการจัดระบบคมนาคมทุกจังหวัด ที่ต้องมีขั้นตอนชัดเจนในระยะกลางและระยะยาว เพื่อลดปัญหาการจราจร ทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น ตนเข้าใจว่าทุกฝ่ายทำอย่างเต็มที่และทำได้อย่างดีสุดความสามารถที่ทำได้​ แต่ยังทำได้อีก ซึ่งตนมองว่า การที่เชียงใหม่ยังคงติดอันดับ​ ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเท่าไหร่

ส่วนการเผาที่มาจากต่างประเทศ มีการตั้งคณะทำงานพิเศษ เพื่อพูดคุยและให้ข้อมูลกับคณะรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลจะต้องพิจารณาการออกมาตรการต่างๆ ภายในประเทศ เรื่องของการเผาป่า เราก็ไม่ยอม ห่างจากคนเผาป่าได้ให้เงินรางวัล 10,000 บาท​ เราก็เข้าใจเป็นเรื่องเศรษฐกิจ​ เอาผักหวาน​ เอาเห็ดออกมาขาย แต่ขอบคุณกระทรวงทรัพย์​ฯ จัดพื้นที่ในการเพาะปลูก ซึ่งก็รู้สึกเห็นใจชาวบ้านเหมือนกัน ส่วนต่างประเทศ​ รัฐบาลก็ต้องพิจารณานอกประเทศ เราไปก้าวก่ายอธิปไตยของเขาไม่ได้​ จำเป็นต้องมีการพูดคุยกัน หากรัฐบาลเขามีประชาธิปไตยเหมือนกับเราก็คงพูดง่ายขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญอย่างมากว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้เพื่อนบ้านหยุดเผา ตนเองก็ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในต่างประเทศว่าจะต้องพิจารณาดีๆ ว่าจะห้ามนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงไฮซีซั่น เพราะไม่อย่างนั้นจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ เคยขู่ไปแล้วว่าจะขึ้นภาษี ก็คงคิดว่าเราคุยเฉยๆ ปีหน้าคงต้องทำจริง ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน คงต้องห้ามนำเข้าข้าวโพด ฉันก็ต้องไปเปิดประตูกับราคาอาหารสัตว์บ้าง​ หากไม่จัดการเรื่องพวกนี้ เศรษฐกิจ​เราลำบาก​ แม้ลดไปได้ ต้องทะเยอทะยาน​ในการแก้ปัญหา​ ตนอยากให้มีความทะเยอทะยานในการแก้ไขปัญหา หากต้องการให้ช่วยเหลืออะไร ผมก็คงเต็มที่

โดยข้อมูลจากการศึกษาพบว่า สาเหตุการเกิดฝุ่นละออง PM 2.5 เกิดจากการขนส่งน้อยกว่าร้อยละ 10 การเกษตรร้อยละ 5-25 การเผาป่าร้อยละ 20-50 ข้ามแดนร้อยละ 40​-​100

จากนั้น​ นายกรัฐมนตรีและคณะ​ เยี่ยมชมสินค้าและผลิตภัณฑ์ผ้าและสินค้าในโครงการพระราชดำริ อาคารอเนกประสงค์ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล ก่อนจะพบปะและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเฝ้าระวังและดับไฟป่า และรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเฝ้าระวังและดับไฟป่า ณ อาคารอเนกประสงค์ อุทยานแห่งชาติศรีลานนา ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่

สำหรับภารกิจช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปยังอุทยานพืชสวนโลก เพื่อร่วมมอบหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM 2.5 ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนที่ช่วงค่ำ เวลา 19.30 น. นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีเปิดงานโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวกิจกรรมวิถีชีวิตทางสายไหมชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง ลีซู ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ นายกรัฐมนตรีใช้รถ Toyota Alphard หมายเลขทะเบียน​ 8 กผ​ 1127 กรุงเทพมหานคร​ ในการเดินทางครั้งนี้​

สำหรับดัชนีคุณภาพอากาศ ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ภาพรวมจังหวัดเชียงใหม่​ ช่วง 11.00 น. อยู่ที่ 180.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร.-316-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]