ไม่ติด “ทักษิณ” กลับบ้านเกิด หลังห่างไป 17 ปี

สนามบินสุวรรณภูมิ 14 มี.ค.-นายกฯ ไม่ติด “ทักษิณ” กลับบ้านเกิด มองเป็นเรื่องธรรมดาที่ยังมีคนรัก แนะข้าราชการ-รมต. ดูเวลาให้เหมาะสม หากไปต้อนรับ แย้มอาจจะได้เห็น “ทริปเปิลนายกฯ” ที่เชียงใหม่

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับมาจากภารกิจเยือนออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และเยอรมนี โดยผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังได้รับการพักโทษ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการลงพื้นที่คู่ขนาน และเหมือนว่าสปอร์ตไลท์จะไปอยู่ที่นายทักษิณ ว่า เป็นธรรมดา เพราะท่านเป็นนายกฯ มาหลายปี และไม่ได้กลับบ้านมาตั้ง 17 ปี ตนเคยพูดไปในทุกเวที ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความนิยมชมชอบสูงที่สุดท่านหนึ่ง นำพาประเทศไทยไปสู่ความเจริญได้ระดับหนึ่ง และท่านได้เข้าสู่กระบวนการทุกอย่างแล้ว ท่านออกมาแล้ว ก็อยากจะกลับบ้านเกิด ตนเข้าใจแค่นี้ ส่วนภารกิจที่ตนเองจะเดินทางไปตรวจราชการที่ จ.เชียงใหม่ ในวันพรุ่งนี้ (15 มี.ค.) ได้แพลนตารางมาก่อนล่วงหน้านานแล้ว และจัดมาก่อนที่จะทราบว่านายทักษิณจะมาลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ด้วยซ้ำ


“ตนเชื่อว่าเป็นธรรมดา เพราะเชียงใหม่เป็น home town ของท่านด้วย และอดีตนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็อยู่ที่นั่นด้วย เชื่อว่าก็เป็นช่วงเวลาที่ดีของครอบครัวที่จะมาใช้เวลาร่วมกัน หลังจากที่ได้สูญเสียโอกาสเจอกันมากว่า 17 ปี ซึ่งคงใช้เวลานี้อยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข ซึ่งตนก็ยินดีที่นายทักษิณได้กลับมายังบ้านเกิดเมืองนอน ยินดีที่มีพี่น้องประชาชนที่อยากเจอ” นายเศรษฐา กล่าว

ส่วนการลงพื้นที่ของนายทักษิณ จะเป็นการเก็บแต้มคะแนนนิยมให้พรรคเพื่อไทยเพิ่มด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ แต่ตนเชื่อว่ามีแฟนคลับพรรคเพื่อไทยไปด้วย และพรรคอื่นก็เห็นว่ามีไปด้วยเช่นกัน ตนเห็น เพราะท่านมีความผูกพันกับนักการเมืองทุกพรรค และมีนิสัยใจคอโอบอ้อมอารี ตนเชื่อว่าหัวหน้าพรรคทุกพรรคที่อยู่ในรัฐบาล มีความปรารถนาดีกับนายทักษิณทุกคน และอยากไปเยี่ยมเยียน หากมาถามตน ก็มองว่าไม่มีอะไรเสียหาย ทุกรอยยิ้มที่เกิดขึ้นกับทุกอีเวนต์ในประเทศไทย ตนเชื่อว่าเป็นอะไรที่ทำให้สังคมของเราแข็งแรงมากยิ่งขึ้น


เมื่อถามย้ำว่า มีคนมองว่าการลงพื้นที่ของนายทักษิณ เป็นทำงานคู่ขนานกับนายเศรษฐา ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นการนำพรรคเพื่อไทยและเป็นการปูทางทางการเมืองในอนาคตต่อไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงเป็นระยะทางด้านการเมือง ตนไม่ติดขัดอะไรที่จะรับคำปรึกษาจากอดีตนายกรัฐมนตรีหลายๆ ท่าน ทั้งนายอานันท์ ปันยารชุน นายทักษิณ ชินวัตร และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เพราะแต่ละคนก็มีความรู้และความสามารถดีทั้งนั้น การที่ใครจะอยู่พรรคอะไร ใครรักใครชอบใคร ก็เป็นสิทธิของบุคคลนั้น ส่วนตัวมีหน้าที่บริหารบ้านเมืองในฐานะนายกรัฐมนตรี

“ผมก็ทำหน้าที่ของผมอย่างเต็มที่ ถ้าใครมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะดีๆ ผมพร้อมรับฟังตลอดแหละครับ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้จะมีโอกาสรวม 3 นายกรัฐมนตรี ทั้งอดีตและปัจจุบันหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า คิดว่ามีโอกาส แต่ยังไม่ได้นัดหมายเป็นกิจจะลักษณะ เพราะตนมีภารกิจแน่นมาก ซึ่งวันพรุ่งนี้ (15 มี.ค.) ก็ทำงานทั้งวัน จะบินไปเชียงใหม่ตอนเย็น ย้ำว่า ส่วนจะไปเจอหรือไม่ ก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้มีการนัดหมายกันเป็นกิจจะลักษณะ


“เชื่อว่าบรรยากาศวันนี้ (14 มี.ค.) ที่ได้ดูจากช่องทางโซเชียลฯ ก็มีบรรยากาศที่อบอุ่นดี แต่แน่นอนว่า เสียงต่างๆ ก็คงมี อาจจะมีคนเอ๊ะขึ้นมาบ้าง แต่ในความเห็นของตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีแต่รอยยิ้มในประเทศไทย เชื่อว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี” นายเศรษฐา กล่าว

ส่วนเรื่องที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าโจมตีและจะอภิปรายรัฐบาล เรื่องที่รัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงไปต้อนรับนายทักษิณ ในระหว่างการลงพื้นที่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปจับจ้อง เรื่องการอภิปรายจะเป็นเรื่องอะไรบ้าง ตามที่เข้าใจก็คงจะเป็นเรื่องของการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งตนก็พร้อมจะตอบ ส่วนใครจะไปรับใคร อย่างที่บอกไปแล้วว่า นายทักษิณ จากประเทศไทยไป 17 ปี ไม่ได้กลับบ้านเกิดมานานขนาดนี้ ตนคิดว่าเป็นอะไรที่เราต้องเข้าใจ

“การเป็นนายกรัฐมนตรีมายาวนาน ซึ่งมีพรรคพวกเพื่อนฝูงในวงการการเมืองจำนวนมาก และที่ไปก็ไปด้วยความปรารถนาดี ก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้คิดอะไร แต่หากจะให้ตอบอะไรที่ไม่เกี่ยวกับผม ก็ขอให้ไปถามรัฐมนตรีท่านที่ไปรับอดีตนายกฯ เอง แต่ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ขอย้ำว่าไม่ติดอะไร ส่วนการไปรับนายทักษิณในเวลาราชการ ก็เชื่อว่าต้องดูให้เกิดความเหมาะสมด้วย ซึ่งผมก็ไม่ได้ทราบตารางของนายทักษิณว่าไปไหนบ้าง และตารางงานของผมก็แน่นเช่นกัน ก็ต้องดูให้เหมาะสมและถูกต้องเท่านั้นเอง”.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]