ไม่ติด “ทักษิณ” กลับบ้านเกิด หลังห่างไป 17 ปี

สนามบินสุวรรณภูมิ 14 มี.ค.-นายกฯ ไม่ติด “ทักษิณ” กลับบ้านเกิด มองเป็นเรื่องธรรมดาที่ยังมีคนรัก แนะข้าราชการ-รมต. ดูเวลาให้เหมาะสม หากไปต้อนรับ แย้มอาจจะได้เห็น “ทริปเปิลนายกฯ” ที่เชียงใหม่

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับมาจากภารกิจเยือนออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และเยอรมนี โดยผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังได้รับการพักโทษ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการลงพื้นที่คู่ขนาน และเหมือนว่าสปอร์ตไลท์จะไปอยู่ที่นายทักษิณ ว่า เป็นธรรมดา เพราะท่านเป็นนายกฯ มาหลายปี และไม่ได้กลับบ้านมาตั้ง 17 ปี ตนเคยพูดไปในทุกเวที ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความนิยมชมชอบสูงที่สุดท่านหนึ่ง นำพาประเทศไทยไปสู่ความเจริญได้ระดับหนึ่ง และท่านได้เข้าสู่กระบวนการทุกอย่างแล้ว ท่านออกมาแล้ว ก็อยากจะกลับบ้านเกิด ตนเข้าใจแค่นี้ ส่วนภารกิจที่ตนเองจะเดินทางไปตรวจราชการที่ จ.เชียงใหม่ ในวันพรุ่งนี้ (15 มี.ค.) ได้แพลนตารางมาก่อนล่วงหน้านานแล้ว และจัดมาก่อนที่จะทราบว่านายทักษิณจะมาลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ด้วยซ้ำ


“ตนเชื่อว่าเป็นธรรมดา เพราะเชียงใหม่เป็น home town ของท่านด้วย และอดีตนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็อยู่ที่นั่นด้วย เชื่อว่าก็เป็นช่วงเวลาที่ดีของครอบครัวที่จะมาใช้เวลาร่วมกัน หลังจากที่ได้สูญเสียโอกาสเจอกันมากว่า 17 ปี ซึ่งคงใช้เวลานี้อยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข ซึ่งตนก็ยินดีที่นายทักษิณได้กลับมายังบ้านเกิดเมืองนอน ยินดีที่มีพี่น้องประชาชนที่อยากเจอ” นายเศรษฐา กล่าว

ส่วนการลงพื้นที่ของนายทักษิณ จะเป็นการเก็บแต้มคะแนนนิยมให้พรรคเพื่อไทยเพิ่มด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ แต่ตนเชื่อว่ามีแฟนคลับพรรคเพื่อไทยไปด้วย และพรรคอื่นก็เห็นว่ามีไปด้วยเช่นกัน ตนเห็น เพราะท่านมีความผูกพันกับนักการเมืองทุกพรรค และมีนิสัยใจคอโอบอ้อมอารี ตนเชื่อว่าหัวหน้าพรรคทุกพรรคที่อยู่ในรัฐบาล มีความปรารถนาดีกับนายทักษิณทุกคน และอยากไปเยี่ยมเยียน หากมาถามตน ก็มองว่าไม่มีอะไรเสียหาย ทุกรอยยิ้มที่เกิดขึ้นกับทุกอีเวนต์ในประเทศไทย ตนเชื่อว่าเป็นอะไรที่ทำให้สังคมของเราแข็งแรงมากยิ่งขึ้น


เมื่อถามย้ำว่า มีคนมองว่าการลงพื้นที่ของนายทักษิณ เป็นทำงานคู่ขนานกับนายเศรษฐา ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นการนำพรรคเพื่อไทยและเป็นการปูทางทางการเมืองในอนาคตต่อไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงเป็นระยะทางด้านการเมือง ตนไม่ติดขัดอะไรที่จะรับคำปรึกษาจากอดีตนายกรัฐมนตรีหลายๆ ท่าน ทั้งนายอานันท์ ปันยารชุน นายทักษิณ ชินวัตร และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เพราะแต่ละคนก็มีความรู้และความสามารถดีทั้งนั้น การที่ใครจะอยู่พรรคอะไร ใครรักใครชอบใคร ก็เป็นสิทธิของบุคคลนั้น ส่วนตัวมีหน้าที่บริหารบ้านเมืองในฐานะนายกรัฐมนตรี

“ผมก็ทำหน้าที่ของผมอย่างเต็มที่ ถ้าใครมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะดีๆ ผมพร้อมรับฟังตลอดแหละครับ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้จะมีโอกาสรวม 3 นายกรัฐมนตรี ทั้งอดีตและปัจจุบันหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า คิดว่ามีโอกาส แต่ยังไม่ได้นัดหมายเป็นกิจจะลักษณะ เพราะตนมีภารกิจแน่นมาก ซึ่งวันพรุ่งนี้ (15 มี.ค.) ก็ทำงานทั้งวัน จะบินไปเชียงใหม่ตอนเย็น ย้ำว่า ส่วนจะไปเจอหรือไม่ ก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้มีการนัดหมายกันเป็นกิจจะลักษณะ


“เชื่อว่าบรรยากาศวันนี้ (14 มี.ค.) ที่ได้ดูจากช่องทางโซเชียลฯ ก็มีบรรยากาศที่อบอุ่นดี แต่แน่นอนว่า เสียงต่างๆ ก็คงมี อาจจะมีคนเอ๊ะขึ้นมาบ้าง แต่ในความเห็นของตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีแต่รอยยิ้มในประเทศไทย เชื่อว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี” นายเศรษฐา กล่าว

ส่วนเรื่องที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าโจมตีและจะอภิปรายรัฐบาล เรื่องที่รัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงไปต้อนรับนายทักษิณ ในระหว่างการลงพื้นที่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปจับจ้อง เรื่องการอภิปรายจะเป็นเรื่องอะไรบ้าง ตามที่เข้าใจก็คงจะเป็นเรื่องของการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งตนก็พร้อมจะตอบ ส่วนใครจะไปรับใคร อย่างที่บอกไปแล้วว่า นายทักษิณ จากประเทศไทยไป 17 ปี ไม่ได้กลับบ้านเกิดมานานขนาดนี้ ตนคิดว่าเป็นอะไรที่เราต้องเข้าใจ

“การเป็นนายกรัฐมนตรีมายาวนาน ซึ่งมีพรรคพวกเพื่อนฝูงในวงการการเมืองจำนวนมาก และที่ไปก็ไปด้วยความปรารถนาดี ก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้คิดอะไร แต่หากจะให้ตอบอะไรที่ไม่เกี่ยวกับผม ก็ขอให้ไปถามรัฐมนตรีท่านที่ไปรับอดีตนายกฯ เอง แต่ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ขอย้ำว่าไม่ติดอะไร ส่วนการไปรับนายทักษิณในเวลาราชการ ก็เชื่อว่าต้องดูให้เกิดความเหมาะสมด้วย ซึ่งผมก็ไม่ได้ทราบตารางของนายทักษิณว่าไปไหนบ้าง และตารางงานของผมก็แน่นเช่นกัน ก็ต้องดูให้เหมาะสมและถูกต้องเท่านั้นเอง”.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุวิภา ฝนตกหนักหลายพื้นที่

21 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนเช้าพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) ส่งผลไทยตอนบนฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณเมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าชายฝั่งเวียดนามเช้าวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณลุ่มน้ำโขงตอนบนของลาวและเวียดนาม ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักต่อเนื่อง และเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมแรงหลายพื้นที่ 60 จังหวัดทั่วประเทศ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูง 2–4 เมตร อาจเกิน 4 เมตรในบางพื้นที่ เรือเล็กงดออกจากฝั่งเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 21–25 กรกฎาคมนี้ พร้อมยังจัดตั้งศูนย์ติดตามพิเศษ หรือ War Room ตั้งแต่วันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์แบบเรียลไทม์ และสื่อสารเตือนภัยต่อเนื่อง ตลอด […]

พบอีก 2 ทุ่นระเบิดสภาพใหม่ ในพื้นที่ช่องบก

กองทัพบก 21 ก.ค.-ทบ. เผยพบทุ่นระเบิดสภาพใหม่เพิ่มเติม จำนวน 2 ทุ่น ในพื้นที่ช่องบก ใกล้กับจุดเกิดเหตุเดิม ชี้ชัดขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ด้านกรมข่าวทหารบก เตรียมเชิญผู้ช่วยทูตทหารมารับทราบข้อเท็จจริง พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 ล่าสุดวานนี้ (20 ก.ค.68) กองกำลังสุรนารี และหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยผลจากการตรวจพื้นที่พบการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN2 ในสภาพใหม่พร้อมทำงาน จำนวน 2 ทุ่น ห่างจากหลุมระเบิดเดิม 30 เซนติเมตร โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) ได้ทำการรื้อถอนทุ่นระเบิดที่ตรวจพบใหม่ออกแล้วทั้ง 2 ทุ่น การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน และแสดงถึงเจตนาในการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารไทย ทั้งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล […]

“พล.อ.ณัฐพล” ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนเขมรป่วนปราสาทตาเมือนธม

ทำเนียบ 21 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนกัมพูชาป่วนปราสาทตาเมือนธมหลักพันคนวานนี้ ขอคนไทยเข้าใจ หากอ่อนหรือแข็งไป จะหาที่ลงไม่ได้ ทำ 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อน เผยมีมาตรการรับมือป่วนซ้ำ แต่ไม่ขอแจงรายละเอียด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ศบ.ทก. ถึงกรณีกัมพูชาขนมวลชนมาป่วนที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า รัฐบาลกัมพูชาจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะมาเป็นหลักพันคน แต่ถ้าไม่รู้ก็ต้องแก้ไขทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนกัมพูชามาทำแบบเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยดูอยู่ทั้งหมด เราไม่อยากให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเครียด อยากจะบอกกับสื่อมวลชนว่าขณะนี้ประชาชนตามแนวชายแดน 7 จังหวัด เดือดร้อนมาก “เขากดดันผมว่า เมื่อไหร่จะจบเสียทีผมอยู่ตรงนี้ผมต้องรักษาบรรยากาศจะต้องไม่อ่อนแอหรือเข้มแข็งเกินไป จนหาที่ลงไม่ได้ ผมจะโดนทั้ง 2 ทาง ขณะนี้ พี่น้องอีก 70 จังหวัดก็จะมาด่าว่า ทำไมดูไม่เข้มแข็งเด็ดขาด เหมือนหมานำราชสีห์ แต่ไม่เคยสนใจ พี่น้อง 7 จังหวัดชายแดน ว่าเขาเดือดร้อนอย่างไร แต่ผมไม่อยากให้ ไปทำข่าวว่าพี่น้อง 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อนอย่างไร เพราะไม่อยากให้กัมพูชาทราบว่าของเราก็แย่อยู่ […]

ปปป.ประชุมสอบเส้นเงิน “ทิดสฤษดิ์” เอี่ยวทุจริตเงินวัด-เสพเมถุนหรือไม่

บก.ปปป. 21 ก.ค. – ผู้การ ปปป. เรียกประชุมชุดทำงาน ตรวจสอบเส้นเงิน “ทิดสฤษดิ์” เอี่ยวทุจริตเงินวัด-เสพเมถุนเศรษฐินีหรือไม่ ขณะเดียวกันยังแบ่งชุดสืบ ลงพื้นที่วัดนครสวรรค์ ตรวจสอบข้อเท็จจริง ช่วงเช้าวันนี้ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) เรียกประชุมชุดทำงานคดี “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ที่ต้องสงสัยว่ามีสัมพันธ์กับเศรษฐีนีปากน้ำโพ อายุ 57 ปี และใช้ชีวิตอยู่กินด้วยกัน ส่งเสียเลี้ยงดูฉันผัวเมียมานานกว่า 15 ปี รวมไปถึงอยู่ระหว่างขยายผลและตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินวัดหรือไม่ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง โดยสาระสำคัญวันนี้ ทาง ปปป.ได้เรียกพนักงานสอบสวนประชุมเพื่อวางแนวทาง และกรอบการทำงานในกรณีของเส้นเงินเท่านั้น ส่วนเรื่องอื้อฉาวนั้น พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังจากได้เปิดศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัย จึงได้มอบหมายให้ ปคม. เป็นเจ้าของคดีหลัก ให้ตรวจสอบถึงเรื่องราวทั้งหมดว่ามีสีกาเกี่ยวข้องกับทิดสฤษดิ์กี่คนและเข้ามามีสัมพันธ์ด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ ในฐานะอะไร ซึ่งคดีนี้เป็นเรื่องความผิดทางอาญา จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีการร่วมกันทุจริตจริงหรือไม่ จากนั้นทั้ง ปปป. และ ปคม.ก็จะเอาข้อมูลทั้งหมดมารวมกัน […]