กทม. 13 มี.ค.-“สมชัย” คาดศาล รธน. ยุบ “ก้าวไกล” ชี้8eวินิจฉัยล้มล้างการปกครองระบุชัด อดีต กก.บห. 10 คนไม่รอด ส่วน สส. ร่วมเสนอร่างแก้ไขกฎหมายรอลุ้น ป.ป.ช.วินิจฉัยจริยธรรม
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนักวิชาการ มองว่า การที่ กกต. มีมติเป็นเอกฉันท์ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ถือเป็นการทำตามหน้าที่ และระยะเวลาที่ใช้ในการพิจารณาก็ไม่เร็วเกินไป เพราะนับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 31 ม.ค. กกต.ก็ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน 11 วัน ในการที่จะมีคำร้องถึงศาลรัฐธรรมนูญ จึงถือว่าไม่เร็วและไม่ช้าเกินไป ซึ่งการที่ กกต. ส่งเรื่องดังกล่าวเนื่องจากในคำวินิจฉัยของศาลเขียนชัดเจนว่า พรรคก้าวไกลกระทำการอันเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งการที่เขียนแบบนี้ ก็แปลว่าศาลมีข้อสรุปแล้วในเรื่องนี้ และการที่ กกต.จะวินิจฉัยเป็นอย่างอื่นเป็นไปได้ยาก ได้แต่ส่งเรื่องออก เพื่อให้ศาลพิจารณา เรื่องของการยุบพรรคอีกทีนึง
ส่วนแนวทางการวินิจฉัยของศาล หลัง กกต. ยื่นคำร้องของให้ยุบพรรคก้าวไกล นายสมชัย มองว่า ศาลคงต้องเริ่มพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำร้อง ซึ่งต้องรับคำร้องแน่นอน เพราะเป็นคำร้องจากองค์กรอิสระ คงไม่มีสาเหตุอะไรที่จะไม่รับ แต่เมื่อรับแล้วจะว่าอย่างไร จะเปิดโอกาสให้มีการไต่สวนเพิ่มเติม ให้ผู้ที่ถูกกล่าวหามาแก้ข้อกล่าวหามากน้อยเพียงใด ใช้เวลาเท่าไหร่ ก็เป็นดุลพินิจของศาล แต่หากศาลมองว่าเรื่องนี้เคยไต่สวนมาแล้ว มีการเก็บข้อมูลต่างๆ ค่อนข้างจะละเอียดรอบคอบแล้ว ศาลก็อาจจะนัดวินิจฉัยได้เลยทันที
“จึงคาดว่าเมื่อเรื่องถึงศาลแล้ว ศาลน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือน น่าจะมีคำวินิจฉัยออกมา และคาดว่าน่าจะวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล เนื่องจากก่อนหน้านี้ศาลวินิจฉัยว่าทำผิด กกต.ก็เสนอตามในเรื่องของการทำผิด ดังนั้นในขั้นที่ศาลจะวินิจฉัยยุบพรรคนั้น คงค่อนข้างที่จะยากที่จะเป็นอื่นไปได้ น่าจะออกมาในแนวทางว่าตัดสินยุบพรรค และตัดสิทธิตามมาตรา 92 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง คือสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งไม่ได้ระบุกรอบเวลาว่ากี่ปี นั่นก็คือตัดสิทธิเลือกตั้งตลอดชีวิต ที่จะทำให้ไม่สามารถไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ ที่เป็นทางการได้ ซึ่งก็ต้องดูว่ากรรมการบริหารพรรคที่จะถูกตัดสิทธิ์ ที่ทำผิด ประกอบไปด้วยใครบ้าง และดูคำสั่งในการตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคที่เป็นทางการ ที่อยู่ในข้อบังคับพรรค อีกส่วนเป็นการแต่งตั้งกันเองภายในพรรค เช่น รองหัวหน้าพรรค ซึ่งไม่น่าจะโดนด้วย ดังนั้นขอบเขตในความเสียหายก็น่าจะมี 10 คน และ 1 ใน 10 ก็ออกไปอยู่พรรคเป็นธรรม ในส่วนของพรรคก้าวไกลจะเหลือ 9 คน” นายสมชัย กล่าว
ส่วน สส. ที่มีส่วนร่วมในการเสนอร่างแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 นายสมชัย กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะคำวินิจฉัยยุบพรรคมาจากพฤติกรรมของพรรค มีผลเฉพาะกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น ส่วน สส.ที่เข้าชื่อกันเสนอกฎหมายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่มีคนไปร้องที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ที่เป็นเรื่องความผิดจริยธรรมร้ายแรง จะเป็นไปตามมาตรา 234 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่ง ป.ป.ช.ก็ต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาไต่สวนข้อเท็จจริง เพื่อเสนอ ป.ป.ช.ให้ลงมติ เพื่อส่งศาลฎีกา และหากศาลรับฟ้องผู้ถูกกล่าวหาจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที และรอจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ถ้าศาลฎีกาบอกว่าผิดคือพ้น สส. ตั้งแต่วันสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ และจะถูกตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต และอาจถูกตัดสิทธิเลือกตั้งไม่เกิน 10 ปีได้ด้วย ซึ่งคาดว่า จะอยู่ในการพิจารณาของ ป.ป.ช. 1 ปี และเมื่อส่งศาลน่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน
นายสมชัย ยังมองว่า พรรคก้าวไกลไม่มีโอกาสสู้คดีเลย ก็คงจะพูดแบบนั้นไม่ได้ เพียงแต่มีโอกาสน้อย ที่พรรคจะต้องพยายามชี้แจงข้อเท็จจริง และต่อสู้ในประเด็นที่ศาลสั่งให้หยุดการกระทำ พรรคก็หยุดแล้ว นำเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ออกจากเว็บไซต์แล้ว ไม่เคยไปเป็นนายประกันให้แก่ใครแล้ว ไม่มีการรณรงค์หาเสียง ไม่มีการไปพูดอภิปรายในที่สาธารณะในเรื่องนี้แล้ว ก็น่าจะจบตรงนี้ได้ไม่ถึงขั้นยุบพรรค เพราะฉะนั้นประเด็นของการต่อสู้มี แต่โอกาส ที่จะประสบความสำเร็จนั้น ค่อนข้างน้อย แต่ก็อยากให้กำลังใจว่าให้ต่อสู้อย่างเต็มที่ และอยากให้มองถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น คือ สิ่งที่จะเกิดกับผู้ที่เป็นกรรมการบริหารพรรค ถ้าถูกให้ออกก็จะหมดสิทธิ์ในการที่จะมายุ่งเกี่ยวกับพรรคในอนาคต และถ้าออกจากพรรคหลังทำวินิจฉัยจะไม่มีการเลื่อนคนขึ้นมาแทนได้
“ต้องคิดว่าจะใช้วิธีการลาออกก่อนหรือไม่ ก็เป็นสิทธิของพรรคก้าวไกลที่จะพิจารณาเอง เพราะการไปออกก่อนก็เหมือนกับการยอมรับ แต่ถ้าไม่ออกก่อนก็คือไม่ได้เลื่อนคน และทำอย่างไรจะทำให้ก้าวไกลยังคงเป็นกลุ่มก้อน ไปไหนไปด้วยกัน ตั้งพรรคใหม่ก็ไปด้วยกัน ซึ่งจะต้องเกาะกลุ่มให้ดี อย่าให้พลังอำนาจ อย่าให้สิ่งจูงใจต่างๆ มาดึงออกไปจะทำให้พลังน้อยลง และ เร่งฟื้นฟู ความเข้มแข็งให้กลับคืนมาหลังมีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่” นายสมชัย กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย