พรรคเพื่อไทย 12 มี.ค.-รองเลขาฯ เพื่อไทย ประหลาดใจ ก้าวไกลไม่ตัดงบเรือฟริเกต ยัน กมธ.งบฯ ปี 67 พิจารณารอบคอบ อย่าโยนบาปรัฐบาล
น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ด้านทรัพยากรบุคคล และได้มีโอกาสเข้าร่วมฟังในคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กล่าวถึงกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ.การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ไม่คัดค้านการตัดงบประมาณจัดซื้อเรือฟริเกต วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท และกล่าวหาว่ารัฐบาลจะนำงบประมาณส่วนนี้ตีเช็คเปล่าให้นายกรัฐมนตรี ว่า รู้สึกประหลาดใจกับท่าทีของนายวิโรจน์ และพรรคก้าวไกล ที่เปลี่ยนไปต่อการจัดสรรงบประมาณด้านการจัดซื้ออาวุธของกองทัพ การกล่าวอ้างว่าการจัดซื้อเรือฟริเกต วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท จะทำให้เกิดการจ้างงานมูลค่าหลักพันล้านบาท เกิดการเรียนรู้ทางวิศวกรรมการต่อเรือ และจะลดต้นทุนในการบำรุงรักษาในระยะยาว เป็นเพียงคำโฆษณาเลื่อนลอยไร้น้ำหนัก เพราะข้อเท็จจริงที่ปรากฏ กองทัพเรือยังมิได้จัดทำ TOR เป็นเพียงเงื่อนไขที่กองทัพเรือจะเสนอต่อประเทศที่ยอมรับเงื่อนไขในการต่อเรือและจ้างงานในประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งยังไม่มีการระบุชัดเจน การที่คณะ กมธ.งบประมาณฯ ไม่อนุมัติงบเรื่องเรือฟริเกต จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเมื่ออนุมัติ จะมีผลผูกพันทันที 5 ปี และมีมูลค่ากว่า 17,000 ล้านบาททันที
“คำพูดของนายวิโรจน์ จึงเป็นเพียงคำโฆษณาเลื่อนลอยไร้น้ำหนัก เพื่อดิสเครดิตรัฐบาล หาความชอบธรรมกับการไม่ปรับลดงบอาวุธกองทัพ อันเป็นหลักการพรรคก้าวไกลยึดมั่นมาโดยตลอด“ น.ส.ลิณธิภรณ์ ระบุ
น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวอีกว่า ต้องขอขอบคุณนายวิโรจน์ ที่ให้เหตุผลสนับสนุนการซื้อเรือฟริเกต อย่างน้อยๆ ในการพิจารณางบประมาณปี 68 หากเรือฟริเกตถูกนำมาสู่การพิจารณาอีกครั้ง คณะ กมธ.งบประมาณฯ จะได้มีข้อมูลรอบคอบ รอบด้านมากขึ้น และอยากจะย้ำให้นายวิโรจน์ เข้าใจหน้าที่ของคณะ กมธ.งบประมาณฯ มีหน้าที่ต้องไตร่ตรองงบประมาณแผ่นดินให้คุ้มค่าภาษีประชาชน และคณะ กมธ.งบประมาณฯ ประกอบด้วยตัวแทนของทุกพรรคการเมือง เป็นการทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหารแต่อย่างใด การตัดงบที่ไม่ชัดเจนในรายละเอียด จึงไม่ใช่เพื่อรัฐบาล แต่เพื่อพี่น้องประชาชน
“ฝากถึงพรรคก้าวไกล อย่ามัวแต่เล่นเกมการเมือง โยนความผิดทุกเรื่องให้รัฐบาล และอยากถามกลับ ถ้าวันนี้ คณะ กมธ.งบประมาณปี 67 อนุมัติเรือฟริเกตผ่านโดยขาดความรัดกุม ในอนาคตหากเรือฟริเกตไม่สามารถเกิดการจ้างงาน หรือเกิดการถ่ายโอนทางเทคโนโลยีได้ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ รัฐบาลใช่หรือไม่ สุดท้ายฝ่ายค้านจะใช้เป็นข้ออ้างในการโจมตีรัฐบาลอยู่ดี เพิ่งเข้าใจบทบาทฝ่ายค้านสร้างสรรค์เป็นแบบนี้นี่เอง“ น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย