นายกฯ แสดงวิสัยทัศน์ ชูขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทย

กรุงเบอร์ลิน 7 มี.ค.- นายกฯ แสดงวิสัยทัศน์ในงาน “The Amazing Thailand Networking Event” ในเยอรมนี ชูมาตรการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทย พร้อมดึงดูดและเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในภูมิภาค


วันนี้ (7 มีนาคม 2567) เวลา 11.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงเบอร์ลิน ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 6 ชั่วโมง) ณ CityCube กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานและกล่าวปาฐกถาในงาน The Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand ซึ่งจัดขึ้นภายใต้งาน Internationale Tourismus-Börse Berlin 2024 (ITB Berlin 2024) เพื่อแสดงวิสัยทัศน์และแถลงนโยบายการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวของไทยในระดับภูมิภาค โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าการร่วมงานวันนี้เป็นโอกาสดี สร้างความเชื่อมโยง แลกเปลี่ยนความเห็น พร้อมพิจารณาถึงศักยภาพในการลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง รัฐบาลตั้งเป้าหมายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2567 อยู่ที่กว่า 9 หมื่นล้านยูโร คิดเป็นรายได้จากการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ 5.9 หมื่นล้านยูโร โดยคาดหวังนักท่องเที่ยวจากยุโรป 8.5 ล้านคน คิดเป็นรายได้อยู่ที่กว่า 1.7 หมื่นล้านยูโร


ทั้งนี้ รัฐบาลเห็นความสำคัญของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งไม่เพียงสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังทำให้เกิดการจ้างงานในประชากรส่วนใหญ่ โดยรัฐบาลวางแผนยกระดับและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ผ่านมาตรการสำคัญ ดังนี้

การอำนวยความสะดวกในการเดินทาง (Ease of Travelling) โดยรัฐบาลได้ยกเว้นวีซ่าชั่วคราวสำหรับอินเดีย รัสเซีย คาซัคสถาน และไต้หวัน พร้อมทั้งได้ลงนามความตกลงยกเว้นวีซ่าถาวรระหว่างไทยกับจีน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันรัฐบาลกำลังหารือความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงในลักษณะดังกล่าวสำหรับวีซ่าประเทศในกลุ่มเชงเก็น รวมถึงการจัดทำความตกลง “One Visa, Free your Destination” ร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อลดความยุ่งยากในการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างกัน ส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาค

การส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง (Secondary destinations) ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่รอให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปสัมผัสอีกหลายสถานที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปพบปะประชาชนทั่วประเทศ และเห็นถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจ และมีเสน่ห์เฉพาะตัว และยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก รัฐบาลจึงได้วางแนวทางส่งเสริมคุณค่าและเอกลักษณ์ที่ดีงามเหล่านี้ พร้อมผลักดันให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว สร้างประสบการณ์ในรูปแบบใหม่


การปรับปรุงกฎระเบียบสำหรับสถานบันเทิง เช่น การขยายเวลาเปิด-ปิด สถานบันเทิงในพื้นที่สำคัญ การผ่อนคลายกฎระเบียบการขายและการลดภาษีสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้มีความทันสมัย และเหมาะสมกับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น

การใช้ประโยชน์จาก “Soft Power” ของไทย เป็นจุดขายส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์และมีความพิเศษ น่าจดใจ โดยการใช้ประโยชน์จากเทศกาลที่มีเอกลักษณ์และสวยงาม เพื่อทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางของเทศกาลระดับโลก โดยนักท่องเที่ยวอาจรู้จักเทศกาล “สงกรานต์” ของไทย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก และยังมีเทศกาลอื่นอีกมากที่รอให้ทุกคนได้ค้นพบ

นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้เตรียมสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม และได้ติดต่อผู้จัดงานเทศกาล คอนเสิร์ต และกิจกรรมระดับนานาชาติต่าง ๆ เพื่อให้สามารถมั่นใจได้ว่า ประเทศไทยมีสิ่งที่น่าสนใจเกิดขึ้นอยู่เสมอ

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และรัฐบาลมีวิสัยทัศน์ที่จะนำประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในทศวรรษนี้

การวางแผนสร้าง ปรับปรุง และขยาย สนามบิน โดยสร้างสนามบินนานาชาติล้านนา (Lanna International Airport) ซึ่งจะเป็นสนามบินแห่งที่สองของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่คึกคักสำหรับจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดในภาคเหนือ ขณะที่สนามบินนานาชาติอันดามัน (Andaman International Airport) ในจังหวัดพังงา จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการบินเชื่อมเส้นทางระยะไกลในภาคใต้ของประเทศไทย โดยเมื่อแล้วเสร็จ สนามบินทั้งสองแห่งนี้จะสามารถรองรับผู้โดยสารรวมกันได้สูงสุดถึง 40 ล้านคนต่อปี นอกจากนี้ ยังมีแผนการปรับปรุงและการขยายสนามบินเดิมทั่วประเทศ ทั้งในพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และในพื้นที่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักด้วย

การเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินให้เต็มศักยภาพการรองรับ ไทยกำลังทำงานร่วมกับสายการบินพันธมิตร ควบคู่ไปกับการยกระดับการบริการและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มความถี่เที่ยวบินและเส้นทางใหม่สู่ประเทศไทย ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากจุดต้นทางมากขึ้นไปยังจุดหมายปลายทางทั่วประเทศและภูมิภาคที่กว้างขึ้น โดยในต้นเดือนหน้านี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะจัดงาน “Air-mazing Thailand: The Amazing Airlines Fam Trip” ซึ่งงานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านการบินที่กว้างไกลของประเทศไทย นอกเหนือจากศูนย์กลางที่มีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ และศักยภาพอันยิ่งใหญ่ เพื่อเชื่อมโยงการบินในภูมิภาค

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ด้วยการลงทุนและความมุ่งมั่น รัฐบาลจะทำให้ไทยเติบโตอย่างรวดเร็วในด้านการท่องเที่ยวภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ไทยต้องการสนับสนุนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ให้เปิดรับประสบการณ์ แบ่งปันเรื่องราวของการเดินทางในประเทศไทย ที่จะสร้างความทรงจำที่ตราตรึงใจ สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นทั่วโลกที่ต่างพร้อมแสวงหาการเดินทางอันไม่มีที่สิ้นสุดในประเทศไทย

อนึ่ง งาน The Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand จัดขึ้นภายใต้งาน Internationale Tourismus-Börse Berlin 2024 (ITB Berlin 2024) ซึ่งเป็นงานมหกรรมส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในโลก จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 7 มีนาคม 2567 โดยภายในงานมีกิจกรรมส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยว การเจรจาธุรกิจ การอัพเดทสถานการณ์ทางการตลาด การเปลี่ยนแปลงทางสถานการณ์ท่องเที่ยว และพัฒนาการด้านเทคโนโลยี ซึ่งมีหน่วยงานจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าร่วม 314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]