เตรียมส่งไม้ต่อปปง.สอบเส้นทางการเงิน

รัฐสภา 7 มี.ค.-“ร.อ.ธรรมนัส” แจงปม ส.ป.ก.ทับซ้อนอุทยานฯ  ชี้ไม่ใช่แค่ปากช่อง แต่มีทั่วประเทศ สบถเดือด “คนจัญไรมีเยอะ” ลั่นขรก.ชั่วต้องถูกลงโทษ เตรียมให้ปปง.สอบเส้นทางการเงิน


วรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายวันมูหะมัดนอร์ มเทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถามสดโดยนายอภิชาติ ศิริสุนทร สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรณีการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.ทับซ้อนที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ใน ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จนกลายเป็นข้อพิพาทขัดแย้งระหว่าง 2 หน่วยงานเกี่ยวกับแนวเขตที่ยังไม่ชัดเจน โดยกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้อ้างพระราชกฤษฎีกาอุทยานเขาใหญ่ พ.ศ 2505 ขณะที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดิน อ้างติดตามพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2534

นายอภิชาติ ถามว่า สถานะของรายงายที่กรมแผนที่ทหาร ที่รายงานไปยังนายกรัฐมนตรี ว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่มีการทับซ้อนและอยู่นอกแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้น สามารถนำมาตัดสินความขัดแย้งหรือข้อพิพาทแนวเขตได้หรือไม่ นำมาใช้แทนแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาได้หรือไม่ หรือเป็นเพียงความเห็นของกรมอธิษฐานเท่านั้น


ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงว่า ความจริงแล้วตนอยากจะขอเลื่อนการมาชี้แจงในวันนี้ เพราะอยากได้รับรายงานที่ชัดเจน และถูกต้องตามกฎหมายก่อน แต่เนื่องจากเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจจึงตัดสินใจมาตอบ สำหรับพื้นที่พิพาทนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นที่ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาเพียงจุดเดียว แต่เกิดขึ้นทั่วประเทศ เนื่องจากหน่วยงานของรัฐในแต่ละกระทรวงต่างอ้างแผนที่ของตัวเอง โดยกระทรวงทรัพย์ได้อ้างพระราชกฤษฎีกา ปี 2505  ในขณะที่ส.ป.ก.ก็มีพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม พ.ศ 2518 ซึ่งการจัดสรรที่ดินเพื่อให้ประชาชนใช้ทำกิน ก็ไม่ได้คิดจะเอามาจากก็ทำเลยแต่มีขั้นตอนและมีกฎหมายรองรับ

“ทั้ง 2 หน่วยงานไม่มีใครผิด แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เรายังไม่เกิด จนกระทั่งในปี 2538 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ในขณะนั้น ได้ออกถนนแนวเขตกันไฟหรือบัฟเฟอร์โซน เพื่อเป็นถนนลาดตระเวน แต่ลืมออกกฎหมายเพื่อประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกา จึงทิ้งให้เราต้องมานั่งเถียงกันตอนนี้ว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน ผมจึงไม่ขอท้าวความว่าใครถูกผิด เราต่างคนต่างทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชน อย่าลืมว่าเรา ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะผมก็เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยา ซึ่งศาลากลางยังอยู่ในพื้นที่ป่าไม้ ขนาดหน่วยราชการยังเถื่อน อาศัยอยู่ในที่ดินเถื่อนอยู่เลย จึงจำเป็นต้องมีการปฏิรูป ในรัฐบาลที่แล้ว ตั้งแต่ปี 2566 จนน่าจะต้องอนุกรรมเพื่อแก้ไขปัญหา one Land one Law  เพื่อใช้กฎหมายฉบับเดียวกันคือรัฐธรรมนูญ 2560 และมีแผนที่ฉบับเดียวกันทั้งประเทศ ไม่ใช่ต่างคนต่างถือแผนที่ของตัวเองไม่ใช่นั้นเมื่อไหร่ปัญหาจะจบ มาปล่อยให้เรานั่งเถียงกันในสภาฯ” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ชี้แจง เกิดเสียงสัญญาณเตือนไฟดังขึ้น ร.อ.ธรรมนัสจึงกล่าวว่า “สงสัยไฟผมจะแรง” ก่อนชี้แจงต่อว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กรมแผนที่ทหารมาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาจนนำไปสู่การแถลงเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน แต่ปัญหาก็ไม่จบ ต่างฝ่ายต่างยืนยัน ดังนั้น จึงต้องเข้าสู่One Land One Law เป็นที่มาของการสั่งการให้หน่วยงานกลางอย่างกระทรวงกลาโหมจัดทำแผนที่กลาง หรือ One map


ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า รายงานฉบับที่กรมแผนที่ทหารรายงานไปยังนายกรัฐมนตรียังไม่ถือว่าจบขั้นตอน และยังไม่มีผลบังคับใช้ เพราะเมื่อเรื่องยังไม่จบจึงส่งกลับไปให้คณะอนุกรรมการ One Map ดำเนินการใหม่ ซึ่งทั้ง กรมอุทยานและสปก.ก็ได้ทำข้อตกลงที่จะรอความชัดเจนจาก One Map ก่อน ในระหว่างนี้ ต่างฝ่ายต่างถอยคนละก้าว และตนได้สั่งการให้ถอนเอกสารส.ป.ก. 4-01 ในพื้นที่พิพาททั้ง 5 ฉบับ พร้อมสั่งห้ามเข้าพื้นที่ และได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน การออกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวและย้ายเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับมายังส่วนกลาง ทั้ง 6 นาย เพราะตนได้ข้อมูลว่า อาจมีการออกเอกสารสิทธิ์โดยไม่ชอบ

“ผมได้ส่งที่ปรึกษาของผมไปแจ้งความดำเนินคดี ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพราะมั่นใจว่าหน่วยงานที่มีความเป็นธรรมตรงฉิน ผมไม่มั่นใจคนของผมที่เป็นคณะกรรมการ เพื่อให้ดำเนินคดีสาวถึงใคร ไม่มีจบแบบหล่อ ใครผิดว่าตามผิด นอกจากผิดวินัยร้ายแรงแล้วจะต้องดำเนินคดี ที่สำคัญ วันพรุ่งนี้จะให้เลขาสปก.ทำหนังสือถึงเลขาฯ ปปง. เพื่อยึดทรัพย์สินคืนสู่แผ่นดินให้หมด ส่วนพื้นที่พิพาทนี้จะต้องรักษาไว้ให้เป็นป่า แต่จะเป็นป่าประเภทไหนขึ้นอยู่กับทั้งสองหน่วยงานจะตกลงกัน ดังนั้นหน้าที่ของปลัดทั้ง 2 กระทรวงคือไปสั่งลูกน้องของคุณให้หยุดพูดกันได้แล้ว” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

จากนั้นนายอภิชาติ ได้ลุกขึ้นถามคำถามที่ 2 ว่า เคยได้รับรายงานจาก ส.ป.ก.เรื่องที่กรมอุทยานฯ สวยคัดค้านการปักหมุดส.ป.ก. ถึง 2 ครั้ง เมื่อเดือนตุลาคมปี 2566 และ สคทช. เคยทำหนังสือสอบถามถึงเรื่องเดียวกันถึง 2 ครั้ง หรือไม่ และ หากเคยได้รับรายงานได้มีการสั่งการอย่างไรหรือไม่ ซึ่งร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ย้อนไปถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ตอนนั้นเริ่มมีการปักหมุด จนมาถึงกระบวนการออกเอกสิทธิ์​ ใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน ซึ่งส่อพิรุธ ว่า มิชอบ ซึ่งตนไม่ได้รับรายงาน

“หลังจากนั้นพบว่า ส่อพิรุธ จึงต้องดำเนินคดีกับผู้ดำเนินการ นำไปสู่การย้ายเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก โคราช ทั้งหมด 6 คน  และให้ดำเนินคดีทางวินัยและอาญา ยืนยัน ไม่ได้นิ่งเฉย และสั่งให้หยุดดำเนินการทั้งหมด และหลังจากที่เป็นประเด็น ผมอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ รีบบินมาเข้าพื้นที่ทันที เพราะเข้าใจว่ากำลังทะเลาะกันแรง จึงรีบมา ไม่มีเจตนาจะรังแกเพื่อนข้าราชการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง เพราะทั้ง 2 กระทรวงมาจากพรรคเดียวกัน และยืนยัน ว่าทั้งสองกระทรวง ไม่มีข้อพิพาทกันตามที่เป็นข่าว ดังนั้น การแก้ปัญหา เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่รายงานก็ถือว่าผิด” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

นายอภิชาติ ถามคำถามที่ 3 ว่า เห็นด้วยกับหลักการในการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับพี่น้องประชาชนแต่กรณีที่เกิดปัญหาส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ดังนั้น มีแนวทางจะป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตและสร้างความน่าเชื่อถือกลับมาได้อย่างไร และได้รับรายงานหรือไม่ว่ายังมีอีกกี่พื้นที่ที่เป็นข้อพิพาท เช่นกรณีที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่ร.อธรรมนัส เหลือเวลาตอบแค่ 37 วินาที ทำให้ประธานที่ประชุมจึงเพิ่มให้เป็น 1 นาที ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่าตนตั้งใจมาตอบเรื่องนี้ เวลาแค่ 1 นาที ไม่สามารถตอบได้หมดนายอภิชาติ จึงบอกว่า เวลาของตนเหลือเยอะ จึงขอยกเวลานี้ให้กับร.อ.ธรรมนัส ตอบ

จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงยอมรับว่าที่ดินที่ทับซ้อนพื้นที่ ส.ป.ก. มีอีกเยอะมาก ซึ่งพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม P Move ประชาชน 4 ภาค และสมัชชาคนจน ที่ถูกดำเนินคดีกว่าหมื่นคดี ก็เป็นเรื่องที่ดินทำกิน วันนี้เรามาช่วยกันแก้ปัญหา ตนได้รับรายงานช้า เป็นความบกพร่องของตนเองหรือไม่ ตนกำกับดูแลสำนักงานที่ดินเนื้อที่ 40 กว่าล้านไร่ มีเจ้าหน้าที่ส.ป.ก.72 จังหวัด เหมือนมี 72 โรงพัก โรงพักไหนที่นำลูกน้องปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบก็จะต้องถูกลงโทษ ไม่รายงานตนก็จะถูกลงโทษ เปรียบเสมือนนิ้ว 10 นิ้ว นิ้วไหนเน่าก็ต้องตัดทิ้ง แต่ไม่เหมารวมว่านโยบายปฎิรูป​ที่ดินจะล้มเหลว

“ต้องไปถามเกษตรกรพอใจกับนโยบายเปลี่ยนที่ดินส.ป.ก.เป็นโฉนดหรือไม่ ไปถามเลยล้านคนปฏิเสธกี่คน จะได้รู้ข้อมูล เมื่อทราบว่ามีที่ดินทับซ้อนจะต้องทำอย่างไร ก็ต้องกลับไปสู่คำถามแรกคือต้องใช้ One Map แล้ววันนี้ผมได้ตั้งคณะกรรมการพิเศษโดยมีรองหัวหน้า ส.ป.ก.เป็นหัวหน้าชุดปฎิบัติการพิเศษ ส่องดูพื้นที่ทั้งหมดที่กำลังแปลง ส.ป.ก.เป็นโฉนด จำนวนทั้ง 1.7 ล้านครอบครัว ของพี่น้องเกษตรกรที่มีสิทธิ์ในที่ดินทำกิน และถือครองเกิน 5 ปี จะเข้าไปชำแหละทั้งหมดเลยว่าใช่เกษตรกรตัวจริงหรือไม่ เลขา ส.ป.ก.ต้องทำงานหนักกว่าเดิม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องเกษตรกร” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ของประเทศกว่า 52 ล้านชีวิต หวังพึ่งพากระทรวงเกษตร แต่กระทรวงเกษตรอย่าคิดว่าตัวเองแน่ ขอให้ฟังเสียงพี่น้องประชาชนด้วย ยุคตนไม่มี ให้ตรวจสอบได้เลย กรรมาธิการอยากไปดูงานที่กระทรวงก็เชิญได้เลย แต่ที่เมื่อวานไม่ได้มาชี้แจงต่อกรรมาธิการที่ดินไม่ใช่ว่าเลี่ยง เพราะต้องการมาตอบเองวันนี้ ไม่ต้องการไปเถียงในห้อง อยากมาตอบในสภาฯ ให้พี่น้องทั้งแผ่นดินได้เห็น สิ่งที่กำลังแก้ปัญหาไม่ใช่เฉพาะที่เขาใหญ่ที่เดียว แต่เกิดกับทุกที่ ที่จะมีการปฏิรูปที่ดินหรือเป็นที่ดินของรัฐ ดังนั้น ต้องมาทบทวนถอดบทเรียนเขาใหญ่ ซึ่งตนสั่งการเป็นนโยบายชัดเจนว่าต่อไปนี้พื้นที่ทับซ้อน ระหว่างอุทยานกับ ส.ป.ก.ห้ามจัดให้ประชาชนเด็ดขาด ตัดปัญหาเรื่องช้างกับคน เรื่องใหญ่ยังแก้ไม่ได้เลย แล้วงไปจัดที่ดินให้เกษตรทำกินติดเขาใหญ่

“จิตสำนึกมีหรือไม่ มันไม่ควรทำ ชาวบ้านปลูกอะไร ช้างก็มาทำลาย ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถคุมชาวบ้านได้ อาจจะบุกรุกเพิ่มเติม ซึ่งจิตสำนึกไม่ควรจัดที่ดังกล่าว แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องในครอบครัวผม ผมต้องจัดการ ต้องลงโทษคนพวกนี้ คนจัญไรมันมีเยอะครับท่านประธาน ข้าราชการที่ชั่ว ๆ แบบนี้ต้องถูกลงโทษ ในยุคผมไม่มี ผมยืนยันท่านประธานครับ อนุญาตใช้คำพูดคุณชัยวัฒน์ว่า ไม่มีหรอกครับจบแบบหล่อ ๆ ไม่เขาก็เราต้องผิด เพื่อเอาผิดและลงโทษทางวินัยและอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับพี่น้องข้าราชการต่อไป ที่สูงสุดและหนักกว่านั้นคือผมเอาป.ป.ง. มาตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด เตรียมตัวไว้เลยว่าสิ่งที่คุณสร้างมาตลอดชีวิต คุณจะเหลือศูนย์จะติดลบหรือติดคุก ผมไม่เว้นหรอกครับ และไม่สนใจหน้าอินหน้าพรหม หรือคุณจะเป็นเจ้าสัวหรืออะไร ผมจะเอาคืนเพราะมันเป็นที่ดินของรัฐ ของหลวง ควรจะมอบให้กับคนที่เป็นเจ้าของประเทศ” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนฝนน้อย ทะเลอันดามัน-อ่าวไทย คลื่นสูง 1-2 ม.

กทม. 3 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนน้อย ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทย คลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อยเนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง – สำนักข่าวไทย

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]