ศาลฎีกา 4 มี.ค.- “นิวัฒน์ธำรง-สุรนันท์” ขอบคุณศาลเมตตายกฟ้องคดีโรดโชว์ ไทยแลนด์ 2020 เปรียบยกภูเขาออกจากอก หลังถูกกล่าวหาทุจริตหลายปี ด้าน “ธนพร” นักวิชาการ ฟันธงเป็นสัญญาณดี “ยิ่งลักษณ์” กลับไทย
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องคดีจัดโรดโชว์ ไทยแลนด์ 2020 ว่า ได้รับความเมตตาจากศาล พิจารณาทุกประเด็นอย่างถี่ถ้วน และยกฟ้องจำเลยทั้ง 6 คน รวมถึงให้เพิกถอนหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และถือเป็นการรอคอยความยุติธรรมมานานหลายปี ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ฟ้อง จนไต่สวน และเข้าสู่กระบวนการของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในความรู้สึกผู้ถูกฟ้องถือเป็นความทรมานจิตใจ แต่วันนี้ศาลได้ใหเความเมตตา กรุณา ดูรายละเอียดทั้งหมด จากคำให้การทั้งสองฝ่าย ซึ่งนำมาสู่ผลพิพากษาวันนี้
ทั้งนี้ ยังไม่ได้ติดต่อและสื่อสารกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึงข่าวดีในวันนี้ แต่โครงการนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือเป็นผู้มีส่วนร่วมน้อยมาก แต่เป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการ
ส่วนจะเป็นการล้างมลทินคณะทำงานในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์หรือไม่นั้น นายนิวัฒน์ธำรง ระบุว่า ไม่ถึงขนาดล้างมลทิน แต่เป็นเรื่องของการปฏิบัติงานอย่างสุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ เมื่อมีคนฟ้อง ป.ป.ช.สอบ เมื่อมีมูลก็มานำมาสู่กระบวนการศาลฎีกาฯ นักการเมือง แต่วันนี้เป็นการพิจารณาตามข้อเท็จจริงมากกว่า ส่วนตัวมีความโล่งใจ
ด้านนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอบคุณศาลที่มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ให้ความยุติธรรมกับตนเอง และจำเลยอีก 5 คน วันนี้คำพิพากษาค่อนข้างละเอียด พิจารณาทุกแง่มุม หากได้อ่านคำวินิจฉัยจะเห็นวินิจฉัยด้วยความละเอียด ถี่ถ้วน ทำให้ตนเองเชื่อมั่นในระบบความยุติธรรม และกระบวนการยุติธรรมของไทยอย่างเต็มที่ และขอบคุณทุกกำลังใจ ที่มีใหัมาตลอด
“ผลการพิพากษา ถือเป็นการยกภูเขาอีกลูกออกจากอกไป และคดีเหล่านี้ ไม่เข้าใครออกใคร การที่ต้องมาเผชิญกับเรื่องเหล่านี้มานานหลายปี ก็สบายใจ และถือว่าได้ทำงานปฏิบัติหน้าที่เลขาฯ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น อย่างครบถ้วน และถูกต้อง จึงเป็นการยืนยันในเจตนา แม้ตอนนั้นจะถูกฟ้องโดย ป.ป.ช. และแถลงข่าวมา ตนเองก็ไม่เคยโต้ตอบ เพียงแต่รอวันที่ศาลจะตัดสิน เมื่อวันนี้ศาลยกฟ้อง ก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า พวกเราบริสุทธิ์ และวันนี้ไม่ใช่การมาเจอกันครั้งแรก ของคณะทำงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งเรานัดเจอกันตลอด ทุกครั้งที่มาชี้แจงกับศาล” นายสุรนันท์ กล่าว
ด้านนายธนพร ศรียากูล นักวิชาการ ในฐานะที่เข้าไปนั่งฟังคำพิพากษาในห้องพิจารณาคดี ระบุว่า ทุกอย่างครบถ้วน มติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ซึ่งผลของการพิพากษาในวันนี้จะส่งผลดีต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยเฉพาะในคดีที่ถูกดำเนินคดีอยู่ คือคดีรับจำนำข้าว โทษ 5 ปี และเป็นสัญญาณดีกับแฟนคลับ น.ส. ยิ่งลักษณ์
“ปีนี้ เชื่อว่าจะได้เห็นตัวของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ในประเทศไทย โดยอาจใช้โมเดลของนายใหญ่นายทักษิณ ชินวัตร เข้ามารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม และดำเนินตามขั้นตอนต่อไป” นายธนพร กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย