ทำเนียบ 27 ก.พ.- “สุทิน” ยัน เจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ไร้วาระซ่อนเร้น ยึดประโยชน์สองประเทศป้องกันทะเลาะ เชื่อ “ฮุน เซน” เยี่ยม “ทักษิณ” ไม่ถกเรื่องนี้
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีได้กำหนดวันจะไปเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้า ไว้หรืไม่ ว่า มี แต่ยังไม่กำหนดวัน ขอดูโอกาสที่เหมาะสม
ส่วนความคืบหน้าการเจรจาแบ่งผลประโยชน์พื้นทับซ้อนไทยกับกัมพูชา นายสุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งทางกระทรวงต่างประเทศจบอย่างไร กระทรวงกลาโหมก็รักษาแนวเขตนั้นให้ กระทรวงกลาโหมไม่ใช่เป็นฝ่ายไปเจรจา
เมื่อถามว่า คณะกรรมการเขตแดนร่วม (เจบีซี) กระทรวงกลาโหมก็อยู่ในคณะกรรมการชุดนี้ นายสุทิน กล่าวว่า ในส่วนนั้นจะมีบางเรื่องที่เราคิดว่ามีเรื่องความมั่นคงเข้าไปด้วย อาจจะต้องนำความเห็นของกระทรวงกลาโหมไปร่วมด้วย ส่วนเรื่องเกาะกูดยังไม่มี
ทั้งนี้ มีความเชื่อมั่นในตัวนายทักษิณว่าจะไม่ไปเจรจาเรื่องนี้ จนทำให้ไทยเสียเปรียบใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่มี ทุกคนอยู่ในที่แจ้งหมด และท่านก็ระมัดระวังอยู่
เมื่อถามว่า ปัญหาเรื่องเกาะกูด มั่นใจว่าทางกัมพูชาจะยกเกาะกูดให้ไทย โดยจะไม่นำประเด็นเข้ามาในการเจรจาใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่มีวาระซ้อนเร้น และน่าจะออกมาดี ทุกคนทำด้วยสุจริตใจ เพราะสังคมดูอยู่แล้ว ส่วน จะต้องคุยกับกัมพูชาอีกรอบหรือไม่ว่า จะไม่เอาพื้นที่เกาะกูดไปเป็นส่วนหนึ่งของกัมพูชา นายสุทิน กล่าวว่า อันนี้ต้องถามทางกระทรวงการต่างประเทศ
“สำหรับความคืบหน้าการพูดคุยในปัจจุบันนั้น ยอมรับว่ามันหยุดไปพักนึง ตอนนี้อาจจะเริ่มคุยกัน เพราะตอนนั้นเป็นคนละรัฐบาล บรรยากาศการพูดคุยของแต่ละรัฐบาลไม่เหมือนกัน และเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะพูดอะไรก็ต้องระมัดระวัง ไม่อยากให้กระทบบรรยากาศความร่วมมือที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ ก็อยากจะเว้นไว้นิดนึง แต่วันนี้น่าจะเป็นโอกาสที่จะต้องคุยกัน” นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า การที่สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน ประธานองคมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณ คิดว่าได้คุยกันเรื่องนี้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า “ไม่พูดเรื่องนี้หรอก และในช่วงที่สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เยือนไทย ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดในเรื่องนี้ เพียงแต่คุยว่าเรื่องนี้จะต้องคุยให้เกิดประโยชน์ของทั้งสองประเทศ และระมัดระวัง อย่าให้เป็นเรื่องที่ต้องทะเลาะกัน ก็เท่านั้น”.-316.-สำนักข่าวไทย