เมินสว.เปรียบดาวไร้แสง ไม่ด้อยค่าตัวเอง

อุดรธานี 19 ก.พ.-นายกฯ ย้ำ “ทักษิณ”เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว พักโทษตามเงื่อนไขกม. ไม่ใช่อภิสิทธิ์ชน ไม่สองมาตรฐาน แนะให้ก้าวข้ามแล้วเดินหน้า ไม่สนสว.บอกเป็นดาวไร้แสง พรุ่งนี้ตื่นมาทำงานเหมือนเดิม


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ถึงกรณีการพักโทษของนายทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี สะท้อนให้เห็นถึงหลักนิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชนหรือแบบสองมาตรฐานว่า ตอนที่นายทักษิณถูกคำพิพากษาก็มีเสียงเรียกร้องจากทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย  แต่หากย้อนเมื่อ 10 ปีที่แล้วจนถึงวันนี้ก็มีการเรียกร้องให้นายทักษิณกลับเข้าสู่กระบวนการ และเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 ก็กลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

“กรมราชทัณฑ์ตรวจสอบ โรงพยาบาลตำรวจเองก็ตรวจสอบ รวมถึงกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรก็ตรวจสอบ ขณะที่กระทรวงยุติธรรมก็มีมาตรฐานในการตรวจสอบอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อท่านถูกพิพากษาไปเราก็เชื่อในระบบอยู่แล้ว วันนี้เมื่อท่านเข้าสู่กระบวนการที่จะรับโทษและได้รับการพักโทษตามเงื่อนไข ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายเขียนไว้อยู่แล้ว เราต้องมาพูดกันเรื่องนี้ทุกวันหรือไม่ ผมไม่ทราบ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว


เมื่อถามย้ำว่าแม้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะชี้แจงแต่ก็ยังเชื่อว่าสองเป็นมาตรฐานสองอยู่ดี  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มันก็มีความเห็นต่างทั้งนั้น เมื่อเราอยู่ในสังคมที่เห็นต่างกัน  หลายเรื่องมีคนไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เราทำอยู่ รวมถึงเห็นด้วยกับสิ่งที่เราไม่ทำ แต่เราก็ต้องอยู่ร่วมกันด้วยกฏหมาย เพราะวันนี้กฏหมายเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อนายทักษิณเข้าสู่กระบวนการกฎหมายแล้ว เราก็ควรเดินหน้าดีกว่า เพราะวันนี้บ้านเมืองต้องการเดินหน้าอะไรอีกหลายอย่างจากรัฐบาลและทุกภาคส่วน เรื่องความขัดแย้งก็บริหารจัดการกันไป แต่ต้องตั้งอยู่บนความสงบ เพราะเรามีพื้นที่ มีสภาฯ มีสส. มีนักวิชาการและควรใช้เวทีที่ปลอดภัย 

“วันนี้ผมลงพื้นที่มาดูปัญหาหนี้สิน ปัญหายาเสพติดที่ยังมีอีกเยอะ ถ้าวันนี้ยังอยู่ในพื้นที่ได้ ผมก็จะอยู่ต่อเพื่อดูให้ครบทุกเรื่องและทุกมิติ  ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจ แต่รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ของทุกภาคส่วน ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ทุ่มเทเต็มที่ ขอให้อยู่ร่วมกันด้วยกฏหมาย เมื่อกฎหมายบอกมาเช่นไรเราก็ทำตามอยู่แล้ว ขอให้ก้าวข้ามไปและเดินหน้าไปจะดีกว่า” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีสว.ระบุว่าการพักโทษของนายทักษิณจะทำให้นายกรัฐมนตรีเป็นดาวไร้แสง  นายกรัฐมนตรี หยุดคิด ยิ้ม ก่อนกล่าวว่า จะคิดอะไรก็คิดกันไป เพราะพรุ่งนี้ 7 โมงเช้า ตนก็ตื่นไปทำงานประชุมครม. อาทิตย์หน้าก็ลงพื้นที่ภาคใต้ อาทิตย์ถัดไปไปต่างประเทศเพื่อเจรจาFTA และหานักลงทุนใหม่เข้าประเทศ จะพูดอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้สะทกสะท้าน เพราะจะทำงานต่อไป โดยยึดมั่นในผลประโยชน์และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทุกคน จะว่าอย่างไรก็ว่าไป ไม่เป็นไร


ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าหลังนายทักษิณพักโทษ การเมืองจากนี้จะร้อนขึ้นและจะปรับคณะรัฐมนตรีเร็ว ๆ นี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ร้อนทุกวัน ทุกเรื่องร้อนหมด เพราะพื้นฐานทุกวันนี้เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ การใช้งบประมาณ ปี 68 ยังไม่สามารถใช้ได้ ฉะนั้นถ้าเรามีเงินในกระเป๋าทำให้ทุกคนอยู่ดีกินดี มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล อาทิ การศึกษาและระบบสาธารณสุขที่ดี เชื่อว่าชีวิตจะดีขึ้น

“แต่วันนี้เรื่องที่เป็นภาวะร้อนแรงขึ้นทุกวัน ผมก็ว่าท่านอาจจะหลีกเลี่ยงคำว่าเป็นนายกฯ สองคนสามคน ดาวไม่มีแสงหรืออะไรซักอย่างมันก็เป็นเรื่องเดียวกันที่ผู้สื่อข่าวถาม แต่พรุ่งนี้ผมก็ตื่นเช้า 7โมงไปทำงาน และจะพยายามพิสูจน์ตัวเองไปเรื่อยๆ ไม่ได้เป็นการบั่นทอนอะไรทั้งสิ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้รู้สึกด้อยค่าตัวเองใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มี แต่ถ้าใครติมาแล้วสามารถทำให้ดีขึ้นได้ก็จะพยายามทำ

“แต่ถ้าให้ตัวผมเองรู้สึกด้อยค่าเพราะคำพูดอะไรที่จับต้องไม่ได้ ผมไม่เสียอารมณ์ตรงนั้นดีกว่า เพราะถ้ามาดูแววตาพี่น้องประชาชนที่สกลนคร อุดรธานี นครพนม หนองบัวลำภู มันเป็นแรงกระตุ้นเป็นความหวังและแรงบันดาลใจให้ผมตื่นขึ้นมาทำงานในวันพรุ่งนี้เช้า” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนการปรับครม. ตนกับรัฐมนตรีพรรคร่วม ก็ยังทำงานร่วมกันด้วยดี กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส  พรหมเผ่า  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ก็ยังคุยกันด้วยดี และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาครองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน  ส่วนการย้ายเรือนจำและการเดินทางมาที่จังหวัดอุดรครั้งนี้ซึ่งมีการหารือเรื่องของการย้ายเรือนจำ พูดคุยกับพ.ต.อ.ทวี  สอดส่อง  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมซึ่งอยู่พรรคประชาชาติ ต่างพรรคกันหมด ทุกคนมีความตั้งใจดีในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน แต่ถ้าถึงเวลาต้องปรับครม.ก็ต้องปรับ เพราะฉะนั้นที่ถามตนเองมาทุกอาทิตย์ยังไม่ปรับครม.

เมื่อถามว่ากำหนดหรือไม่ว่าต้องวัด KPI รัฐมนตรีแต่ละคนเมื่อใดนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนมี KPI หมด เชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนตั้งเป้าไว้สูงและยังสามารถทำได้ดีกว่านี้ รวมถึงตนเองด้วย เมื่อถามย้ำว่านายกยังเป็นดาวฤกษ์ที่มีแสงหรือไม่  นายกรัฐมนตรี หัวเราะพร้อมกับส่ายหัว ก่อนจะระบุว่า เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ตื่นเช้าไปทำงาน และเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง.-316.-สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย