ยินดีถูกสอบจริยธรรม ท้าเปิดคนหนุนหลังม็อบ

รัฐสภา 16 ก.พ.-“โรม” ยินดีถูกสอบจริยธรรม ท้าเปิดคนหนุนหลังม็อบ บอก อยากเห็น “ชาดา” เปิดบัญชีผู้มีอิทธิพล “อุทัยธานี” จะมีนักการเมือง ช. หรือไม่ แจงภาพคู่ “ตะวัน” ทำหน้าที่ กมธ. ลงพื้นที่


นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มภาคีราชภักดิ์ นำโดย เต้ อาชีวะ เรียกร้องให้สอบจริยธรรมว่าทำผิดข้อบังคับสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ ภายหลังนำภาพมาอภิปรายในญัญติมาตรการอารักขาขบวนเสด็จ ว่า ตนยินดี แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าผู้ร้องไม่ได้มีสิทธิ์แค่ร้องผู้อื่น แต่ต้องรับผิดชอบในคำร้องเช่นเดียวกัน และยืนยันว่า ตนไม่ได้ตัดต่อภาพใดๆ และการนำภาพขึ้นที่ประชุมสภาฯ ก็ผ่านคณะกรรมการในการพิจารณา และอนุมัติ โดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเราไปดูกฎหมาย PDPA ก็ไม่ได้บังคับมาถึงการทำหน้าที่ในสภาฯ  เพราะการทำหน้าที่ในสภาฯ ได้รับการยกเว้น ซึ่งตนไม่ได้เป็นห่วงในเรื่องอะไร ถ้าจะร้องก็ร้องได้ ตนยินดี แต่อย่าลืมว่า ผู้ร้องก็จะมีภาระหน้าที่ทางกฎหมายเช่นเดียวกัน ยืนยันว่า ตนทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ปรากฏตามข้อมูลโดยที่ไม่ได้ตัดต่อหรือปลอมแปลง

ส่วนที่กลุ่มภาคีฯ นำภาพการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสมัยเป็นนักศึกษาในช่วงการชุมนุมเมื่อปี 57 และกล่าวว่าใช้ความรุนแรงเหมือนกัน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า วันนั้นเป็นวันที่กลุ่มนิสิตนักศึกษามีการชุมนุมด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งเราตั้งใจว่าจะชุมนุมเพียงแค่ 15 นาที โดยจะไม่พูดอะไรเลย และหลังจาก 15 นาที จะพูดอะไรก็ได้ที่สะท้อนจิตใจของพวกเรา ตนมั่นใจว่าการชุมนุมในตอนนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบหรือขัดขวางการจราจร แต่ไม่มีใครเดือดร้อนทั้งสิ้น สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาประมาณ 18.00 น. มีการเข้าสลายการชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่เข้าจับกลุ่มผู้ที่ไปชุมนุมนายเวลานั้นส่วนใหญ่เป็นนิสิตนักศึกษา


“หนึ่งในคน ที่ผมรู้จัก ผมยังจำภาพได้ตอนนั้น เขาคิดว่าการชุมนุมทำได้ตามกฎหมาย และการจับกุมเป็นการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะภาพที่เกิดขึ้นเขาไม่ได้ทำอะไรเลย อยู่ๆ เขาก็โดนจับ และเขาก็ปฏิบัติตามที่เขาเชื่อ ว่าเจ้าหน้าที่กระทำโดยไม่ชอบ สิ่งที่เกิดขึ้น ทหาร เอา ว.ดำ (ว.สื่อสาร) ทุบไปที่มือ เพื่อให้เขาปล่อยไม้ที่เกาะเอาไว้ เขาไม่ได้ไปทำอะไรใคร” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ปกติถ้าเราเห็นว่าการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย เราสามารถป้องกันตนเองได้ ดังนั้น ถ้าหากไปดูภาพวีดีโอทั้งหมด จะพบว่า ตนก็เกาะแขนกับเพื่อนๆ และพยายามเดินไปช่วย ไม่ได้ไปทำร้ายหรือลงมือ เราแค่ต้องการไปหาเพื่อนที่ถูกจับไปแล้ว

“มีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคน ชกมาที่เป้ากางเกงของผม เพื่อให้ผมเกิดอาการจุก ยอมจำนงและถูกจับไป ถ้าไปดูคลิปทั้งหมด ผมแทบไม่ได้ทำอะไรเลย และไม่คิดจะทำด้วย เพราะก็คงสู้ไม่ได้ แต่ภาพคือผมต้องปกป้องตัวเอง ผมคิดว่ามีสิทธิ์ในการปกป้องเนื้อตัวร่างกาย” นายรังสิมันต์ กล่าว


นายรังสิมันต์ ยังกล่าวอีกว่า การกระทำครั้งนั้นไม่ได้นำไปสู่การตัดสินจำคุก ดังนั้น เหตุการณ์ในวันนั้นจบไปแล้ว และพิสูจน์ได้ว่าประชาชนถูกรังแก ตนเป็นคนที่ปกป้องประชาธิปไตยเพื่อทุกคน ดังนั้น คนที่ทำรัฐประหารต่างหากที่ทำผิดกฎหมาย ไม่อย่างนั้นคงไม่นิรโทษกรรมตนเอง

เมื่อถามว่า ที่นายรังสิมันต์และสส.พรรคก้าวไกล ถ่ายภาพรวมกับกลุ่มทะลุวังด้วย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขณะนั้นตนอยู่ในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ถ้ากรรมาธิการไม่ลงพื้นที่ ตนคิดว่า จะทำหน้าที่ในการปกป้องสิทธิมนุษยชนได้อย่างไร ซึ่งเป็นหมวกที่ตนต้องทำหน้าที่ โดยไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งก่อน ซึ่งสามารถลงพื้นที่และนำข้อมูลกลับมาได้

“การที่ไปร่วมชุมนุมไม่ได้หมายความว่าตนเป็นท่อน้ำเลี้ยง ไม่ได้หมายความว่าม็อบนี้จะเกิดขึ้นได้เพราะตน และกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวก็ไม่ได้รับสิทธิใดๆ โดยน้องๆนักศึกษาก็ยังต่อสู้คดีกันอยู่ แต่ในทางตรงข้าม ตนก็ไม่แน่ใจว่า ศปปส.ที่ไปทำร้ายร่างกายประชาชนกลางเมืองหลวง จนถึงวันนี้มีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีอะไรแล้วบ้าง” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์ ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลัง วันที่ตนชุมนุนทางการเมือง ก็ยืนยันว่า ไม่ได้มีใครอยู่เบื้องหลัง และในวันที่ตนเป็นนักการเมืองก็ไม่ได้ไปอยู่เบื้องหลังใคร ยืนยันว่าเยาวชนคนรุ่นใหม่ในยุคนี้ เขาไม่ยอมให้ใครไปอยู่เบื้องหลัง

ส่วนที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเปิดบัญชีผู้หนุนหลังม็อบเยาวชน ซึ่งอาจมีผู้ช่วย สส.เกี่ยวข้องด้วย นายรังสิมันต์ ระบุว่า เปิดเลย ตอนที่นายชาดา เดินมาหาตนในห้องประชุมสภา พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ว่าตนไม่แฟร์ พวกเราเอง สส.พรรคก้าวไกล เรียกร้องให้เปิดบัญชีออกมาเลย พวกเราก็อยากรู้เหมือนกัน ที่ผ่านมาอยู่กับข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยและจินตนาการไปเองทุกวัน

“เราก็อยากดูเหมือนกัน ไอ้ที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ทำบัญชีผู้มีอิทธิพล เราก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครบ้าง ที่เป็นผู้มีอิทธิพล ในเมื่อท่านมีข้อมูลต่างๆ ท่านเปิดเลยครับ จะได้ใช้กฎหมายในการแก้ปัญหา ผมขอแวะมาที่ผู้มีอิทธิพลแป๊บนึง ผมก็อยากจะรู้ว่าบัญชีผู้มีอิทธิพล สุดท้ายมันมีรายละเอียดอย่างไร สุดท้ายที่อุทัยธานี ใครเป็นผู้มีอิทธิพล ชื่อขึ้นต้น ช. หรือไม่ หรือไม่มีผู้มีอิทธิพล ก็อยากจะทราบ ดังนั้น คิดว่าอยู่บนข้อเท็จจริงดีกว่าไหมครับ” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ ย้ำว่า อย่าใช้คำว่าผมมีข้อมูลนั้น ข้อมูลนี้ วันนี้นายชาดา เป็นรัฐมนตรีแล้วอาจลืมตัวไป ต้องใจเย็นๆ ต้องตอบคำถามสังคม ตนเป็นนักการเมืองที่มีหน้าที่ตรวจสอบก็มีสิทธิ์จะถาม นายชาดา ก็มีสิทธิ์ตอบ ถ้าไม่เปิดเผยข้อมูลออกมาอาจมีความผิด

เมื่อถามว่านายชาดา จะพูดคุยในกรรมาธิการเท่านั้น จะเรียกมาชี้แจงหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าจะมากรรมาธิการตนยินดี โดยวันที่ 29 ก.พ. น่าจะมีการประชุมในเรื่องนี้ 

“ท่านชาดาอาจจะใช้อารมณ์มากไปหน่อย น่าจะใช้โอกาสสภาในการนำเสนอ ว่าถ้าจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเรื่องขบวนเสด็จ จะมีการเสนออะไร” นายรังสิมันต์ กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.-“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศ มั่นใจชนะแน่ ไม่ต้องรบกวนให้ท่านช่วย ด้าน “จ๋า ธนนนท์” ภรรยา ขอสานฝันวัยเด็ก อยากเป็นนางงามขึ้นรถแห่ช่วยหาเสียง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขอพรอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทิน เผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้ เมื่อถามว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้ ต่อมานายอนุทิน ได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ […]

ทบ.ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC

กทม. 21 ก.ย.-กองทัพบก ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC พร้อมเรียกร้องกัมพูชาหยุดบิดเบือนความจริง และให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตไทยย้ายออกนอกพื้นที่ กรณีสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการชายแดนกัมพูชา แถลงการณ์เมื่อ 21 ก.ย. 68 ว่า “พบการเผยแพร่ข้อมูลผ่านบัญชี Facebook Page ชื่อ “Royal Thai Army: Update” เมื่อ 19 กันยายน 2568 โดยใช้แผนผังที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตำแหน่งหลักเขตแดน ซึ่งเป็นบันทึกการประชุมลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 (พ.ศ. 2560) และภาคผนวกของบันทึกการประชุมลงวันที่ 28 ธันวาคม 2016 (พ.ศ. 2559) ของคณะกรรมการรังวัดร่วมกัมพูชา–ไทย ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจหาตำแหน่งที่แท้จริงของหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข 43 ในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน โดยมีการบิดเบือนให้เข้าใจผิดไปว่า คณะผู้บริหารของสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการพรมแดน (ฯพณฯ ลาย เซียงลี) ได้ลงนามยอมรับเส้นเขตแดนอย่างเป็นทางการในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน ซึ่งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข […]

ยกอำนาจให้ทหารตัดสินใจ เปิดด่าน-สร้างรั้วชายแดน

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.- “อนุทิน” ยกอำนาจให้ “ทหาร” ตัดสินใจ ‘เปิดด่าน-สร้างรั้วชายแดน’ ลั่น ขอหนุนทหารปักธงไทยให้คนไทยชื่นใจ ส่วนรัฐบาลขอเดินหน้าการทูต ยันไม่มีใครล็อบบี้ได้ ส่วนการเจรจาจะทำหลังยุติเหตุก่อกวน จ่อคุมเข้มพื้นที่เพิ่มเติม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการปิดด่านและการสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย กัมพูชา โดยระบุว่า ได้ทำความเข้าใจกับการทหารแล้ว ว่าเมื่อตนได้เข้ารับตำแหน่งฝ่ายบริหารประเทศเมื่อไหร่ ก็จะให้ทหารได้ตัดสินใจเต็มที่ รัฐบาลที่กำลังเข้ามาจะให้การสนับสนุน เคารพการตัดสินใจของฝ่ายการทหาร ส่วนรัฐบาลจะทำเรื่องการทูต และเงื่อนไขที่ต้องเจรจาต่าง ๆ นายอนุทิน ย้ำว่า ต้องมีความชัดเจนว่าเราไม่ยอมรับเงื่อนไข แต่เขาต้องยอมรับเงื่อนไขเราเท่านั้น จึงจะดำเนินการเรื่องอื่นต่อไปได้ ตนอยากให้มีความชัดเจนในตรงนี้ เพราะที่ผ่านมามีการคาดคะเนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้นำต่างประเทศโทรมาล็อบบี้ตน “ ผมล็อบบี้ไม่ได้หรอกครับ ผมไม่มีใครมาล็อบบี้ได้ ผมต้องทำให้กับคนคนไทย ประเทศไทยเท่านั้น ไม่มีการต่อรองใด ๆ จนกว่าเขาจะรับเงื่อนไขที่เราตั้งไว้”นายอนถทิน กล่าว ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงการจัดการของรัฐบาล เนื่องจากยังมีอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินวนอยู่รอบภูมะเขือ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องการทหารขอให้ทหารตัดสินใจ อยากปักธงไทยตรงไหน ขอให้ไปปักให้คนไทยได้ชื่นใจ ในที่ที่เป็นของคนไทย […]

แก๊งค้ายาขนไอซ์ 450 กก. ซิ่งรถชนเกาะกลางถนน จ.อุดรธานี

อุดรธานี 21 ก.ย.-แก๊งยาเสพติดซิ่งรถยนต์ชนเกาะกลางถนน ในพื้นที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบถึงกับอึ้ง พบไอซ์ 450 กก. ซุกอยู่ในกระสอบหลังรถ ส่วนคนในรถอาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีไปได้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อคืนที่ผ่านมา 22.30 น. เจ้าหน้าที่รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักชนวงเวียนบ้านเหล่าอุดม ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ที่เกิดเหตุพบรถยนต์อเนกประสงค์ สภาพด้านหน้าพังยับเยิน และไม่พบตัวคนขับอยู่ในจุดเกิดเหตุ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจค้นภายในรถ ที่เบาะนั่งด้านหลัง ถึงกับอึ้ง เพราะพบกระสอบ 9 ใบ อัดแน่นอยู่ด้านหลัง ตรวจสอบภายในกระสอบ มีห่อพลาสติกใสและถุงสีฟ้าลายเสือดาวรวม 448 ห่อ น้ำหนักกว่า 448 กิโลกรัม ภายในห่อมีผลึกขาวใส ลักษณะผลึกคล้าย ไอซ์ นอกจากนี้ ยังพบบัตรประชาชน นายสุทธิโชค อายุ 17 ปี ชาว อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ตรวจสอบพบ มีประวัติคดียาเสพติด 3 คดี ส่วนทะเบียนรถ […]